จาก โพสต์ทูเดย์
ฝนตกหนักแปลงนาข้าวจมกว่า 30,000 ไร่ ตัวแทนชาวบ้าน2อำเภอกรุงเก่าขอชลประทานเปิดทางน้ำไหล
ตัวแทนชาวนาจำนวนมากจาก อำเภออุทัยและอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีนายสมชาย คามีศักดิ์ อายุ 56 ปี ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อทำนาใน 2 อำเภอ ได้มารวมตัวกันที่ปากคลองหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อขอร้องให้กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำจากคลองหันตรา ที่รับน้ำจากคลองข้าวเม้าในเขต อำเภออุทัย และอำเภอภาชี ซึ่งปัจจุบันมีฝนตกหนักในพื้นที่ และน้ำท่วมขังในแปลงนาข้าว กว่า 30,000 ไร่ ที่กำลังจะเก็บเกี่ยว โดยขอให้เปิดทางน้ำน้ำไหล เร่งระบายน้ำจากลำคลองลงแม่น้ำป่าสัก
ทั้งนี้เพราะกรมชลประทาน กำลังดำเนินการก่อสร้างเขื่อน ที่ได้รับการช่วยเหลือจากประเทศญี่ปุ่น ในการป้องกันน้ำท่วมเขตอุตสาหกรรมและเมืองใหม่ ทำให้มีการปิดปากคลองหันตราไว้
ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อทำนา กล่าวว่า ชาวนาจำนวนมากเดือนร้อน เพราะการก่อสร้างได้มีการปิดทางน้ำไปลงแม่น้ำป่าสัก ทำให้น้ำในคลองหันตราและคลองข้าวเม่า สูงกว่าระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเกือบ 2 เมตร และเมื่อน้ำไหลลงแม่น้ำไม่ได้ ทำให้พื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ด้านบน เดือนร้อน โดนฝนที่ตกลงมาไว้สามารถไหลไปสู่แม่น้ำได้ และท่วมขังในพื้นที่นา พวกเราจะเก็บเกี่ยวข้าวอยู่แล้ว เพราะเป็นแปลงนาข้าวนาปรังรอบที่ 2 ของปี และต้องเร่งเกี่ยวเพื่อให้ทันต่อการเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง รอบ 2 ของรัฐบาปี 55/56 ที่จะสิ้นสุด 15 กันยายนนี้ หากเกี่ยวไม่ทันก็จะเสียหาย และเข้าร่วมโครงการไม่ทัน
นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จะปิดทางน้ำไหล เพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำป่าสัก และคงต้องหยุดก่อสร้างชั่วคราว หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม เชื่อว่าจะใช้เวลา 3-4 วัน ในการระบายน้ำฝนลงแม่น้ำป่าสักได้ทั้งหมด
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต