จากประชาชาติธุรกิจ
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผว่า ตนและชาวนาอีกกว่า 40 จังหวัด ไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ที่เสนอต่อกระทรวงพาณิชย์และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าในโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/57 จะปรับลดราคารับจำนำข้าวเปลือกจากตันละ 15,000 บาท มาเป็น 13,500 บาท โดยอ้างว่างบประมาณไม่เพียงพอนั้นฟังไม่ขึ้น และขอให้รัฐบาลทำตามสัญญาที่เคยหาเสียงไว้ ว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนาไทย
"โดยขอให้รัฐบาลคงราคารับจำนำข้าวเปลือกที่ตันละ 15,000 บาท ต่อไป จนกว่ารัฐบาลจะหมดวาระตามสมัย และขอให้บริหารจัดการน้ำเพื่อทำนาได้อย่างน้อยปีละ 2 ครั้งในทุกพื้นที่ รวมทั้งต้องลดราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนการทำนา เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงและน้ำมัน ส่วนประเด็นรับจำนำข้าวในโควตา 500,000 บาทต่อครัวเรือนต่อรอบการผลิต พวกเราชาวนาพอจะรับได้ และขอให้ กขช.กลับไปทบทวนมติใหม่อีกครั้ง เพราะในการประชุมร่วมกันที่กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้นเราถูกมัดมือชก ทั้งๆ ที่จริงแล้วพวกเราไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น"
นายวิเชียรกล่าวด้วยว่า นอกจากปัญหาภาพรวมที่เป็นภาพใหญ่ข้างต้นแล้ว พบว่ายังมีปัญหาและหลักเกณฑ์บางประเด็นของโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ เป็นปัญหาอุปสรรค ทำให้โครงการรับจำนำข้าวไม่ลื่นไหล และไม่ทันต่อสภาพการเพาะปลูกจริงของชาวนา โดยล่าสุดเกิดปัญหาการขึ้นทะเบียนชาวนา เพื่อขอรับสิทธิตามโครงการล่าช้ามาก อันเป็นผลมาจากการทำงานที่ล่าช้าของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ จ.พระนครศรีอยุธยามีเกษตรกรยื่นเรื่องไปแล้วและไม่สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกร ได้ในขณะนี้ โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 7,775 ราย รวมพื้นที่นา 193,163 ไร่
"ประเด็นที่สองในเงื่อนไขพบว่า กขช.กำหนดข้าวผลิตต่อไร่ที่จะเข้าร่วมโครงการให้ชาวนาลดลง โดยกำหนดเหลือเพียง 625 กิโลกรัมต่อไร่ จากเดิม 730 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งในความจริงแล้วชาวนาได้ผลผลิตประมาณ 800 กิโลกรัมต่อไร่ ดังนั้น ข้าวเปลือกส่วนต่างจึงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้" นายวิเชียรกล่าว
ที่มา : นสพ.มติชน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,อะไหล่ victorinox,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit