จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ชาวไร่ค้านยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยฯ หวังให้มีเงินพอดูแลเสถียรภาพอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย
นายประเสริฐ ตปณียางกูร เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยภายหลังการเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า ชาวไร่อ้อยได้ขอบคุณรัฐบาลที่เพิ่มค่าอ้อยฤดูกาลผลิต 2553/2554 อีกตันละ 105 บาท เพื่อชดเชยกับผลกระทบจากภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตปีนี้ลดลง ซึ่งนายกฯเห็นด้วยที่ต้องให้ความช่วยเหลือชาวไร่ เพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอที่จะปลูกอ้อยในฤดูกาลใหม่ ถ้าไม่ให้ความช่วยเหลืออาจส่งผลให้ชาวไร่หันไปปลูกพืชชนิดใหม่
นอกจากนี้ ชาวไร่อ้อยได้ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย โดยต้องการให้กองทุนเข้ามาดูแลเสถียรภาพอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในช่วง ที่มีปัญหา ถ้ากองทุนมีความเข้มแข็งก็ไม่ต้องกู้เงินมาชดเชยราคาอ้อยให้กับชาวไร่ และเห็นว่าปัจจุบันกองทุนยังไม่เข้มแข็งจึงทำให้ชาวไร่เป็นห่วงสถานะของกอง ทุน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยที่จะให้กองทุนมาทำหน้าที่เพื่อดูแลทั้งผู้บริโภค และชาวไร่ ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางเก็บเงินเข้ากองทุนจากปัจจุบันที่เก็บจาราคา น้ำตาลกิโลกรัมละ 5 บาท
นายเฉลิมพล เล้าเจริญ เลขาธิการสหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ชาวไร่อ้อยยังไม่ต้องการให้ภาครัฐลดการเก็บเงินเข้ากองทุน เพื่อให้กองทุนมีความเข้มแข็งมากขึ้นและดูแลอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล โดยปัจจุบันราคาน้ำตาลของไทยถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก และถ้ามีการลดเก็บเงินเข้ากองทุนก็อาจทำให้มีการลักลอบส่งออกน้ำตาลที่จัด สรรไว้จำหน่ายในประเทศมากขึ้น