จาก เดลินิวส์ออนไลน์
การผลิตถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ใน 1 วงบ่อซีเมนต์ จะใช้เมล็ดถั่วเขียวประมาณ 1.8 กิโลกรัมต่อวงบ่อ เมื่อเพาะแล้วจะได้ถั่วงอก 10-12 กิโลกรัม เอกลักษณ์ของถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ ต้นยาวและขาว, มีรสชาติหวานกรอบ (หลายคนรับประทานเหมือนมันแกวไม่เหม็นเขียว) เก็บไว้ได้นาน หากใส่ถุงมัดปากถุงในอุณหภูมิปกติจะไว้ได้ราว 3 วัน แต่หากเก็บไว้ในตู้เย็น จะเก็บไว้ได้นานราว 7-10 วัน
คุณนิมิตร์ เทียมมงคล เกษตรกรจังหวัดลพบุรี ผู้ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดเพิ่มมูลค่าให้กับถั่วงอกตัดราก โดยมองเป้าหมายกลุ่มผู้บริโภคที่ยังไม่ชอบบริโภคถั่วงอกดิบ เพราะไม่ชอบเรื่องของกลิ่นเหม็นเขียวของถั่วงอก จึงคิดวิธีให้ต้นถั่วงอกได้ดูดเอาน้ำสมุนไพรหรือน้ำที่มีกลิ่นหอม เช่น น้ำยาอุทัยที่ได้จากต้นฝาง สรรพคุณช่วยให้เลือดลมเดินดี แก้ร้อนใน บำรุงโลหิตสตรี, น้ำจากขมิ้น สรรพคุณช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ, น้ำจากมะลิ จะทำให้ต้นถั่วงอกมีกลิ่นหอมของมะลิ, น้ำจากดอกอัญชัญ สรรพคุณช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็น ระบบหมุนเวียนในเลือดดีขึ้น, น้ำจากใบเตย สรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ มีกลิ่นหอม ฯลฯ
คุณนิมิตร์จึงเรียกถั่วงอกแบบใหม่นี้ว่า “ถั่วงอกตัดรากสมุนไพร” วิธีการทำไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใด และอธิบายว่า ปกติการเพาะถั่วงอกจะใช้ระยะเวลาเพาะ 2 วัน 3 คืน ในคืนที่ 3 หลังจากที่รดน้ำถั่วงอกครั้งสุดท้ายเสร็จ เราจะต้องทำการอุดฝารูระบายน้ำของวงบ่อซีเมนต์ เพื่อต้องการที่จะกักน้ำสมุนไพรที่เตรียมไว้
ยกตัวอย่างเช่น ใช้น้ำยาอุทัยประมาณ 2 ช้อนโต๊ะผสมน้ำสะอาด 10 ลิตร เทลงในวงบ่อฯ กักน้ำให้ระดับน้ำสูงราว 5 เซนติเมตร ซึ่งถั่วงอกชั้นล่างสุดจะเป็นชั้นเดียวที่เราต้องการทำเป็นถั่วงอกตัดราก สมุนไพร (ส่วน 2-3 ชั้นบนขึ้นก็จะเป็นถั่วงอกตัดรากธรรมดา) ต้นถั่วงอกจะทำการดูดน้ำสมุนไพรไปเก็บไว้ที่ต้นตลอดทั้งคืนที่ 3 พอเช้าขึ้นมาถั่วงอกชั้นล่างสุดก็เป็นถั่วงอกตัดรากสมุนไพรที่มีกลิ่นของ น้ำยาอุทัย มีสีแดงอมชมพูที่ดูแปลกตาน่าทาน ไม่หลงเหลือกลิ่นเหม็นเขียวของถั่วงอกแต่อย่างใด
ปัจจุบันนี้ถั่วงอกตัดรากสมุนไพรมีราคาถึง 15 บาท มีตลาดต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำไปบริโภคแบบสด เช่น แกล้มกับขนมจีนน้ำยา สลัดผัก เป็นต้น.
ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ