จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เกษตรกรตรัง ผุดเทคนิค'ตองตะปูลงโคนต้นมังคุด'แก้น้ำยางไหลในเนื้อมังคุด ส่งผลให้ผลผลิตมีคุณภาพ ขายได้ราคาสูง
นายบุญเลี้ยง ข่ายม่าน เกษตรจังหวัดตรัง ได้นำเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง และสำนักงานเกษตรอำเภอนาโยง เดินทางไปยังสวนผสมผสานของ นายพงศ์ชัย ภูพิชญ์พงษ์ เกษตรกรชาวหมู่ที่ 7 บ้านไสท้อน ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ซึ่งประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหามังคุดมีน้ำยางไหลออกมาเป็นสีเหลือง จนทำให้ผลไม้ชื่อดังของภาคใต้ชนิดนี้ ต้องเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ทั้งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการส่งออก
โดยมีสาเหตุมาจากการที่ช่วงก่อนหน้านี้ ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม มีสภาพที่อากาศร้อนและแห้งแล้งจัด ทำให้มังคุดเกิดการขาดน้ำ และเมื่อต้องมาเจอกับสภาพที่ชื้นจัด จากฝนที่มีตกลงมามากเกินไป ในช่วงเดือนมิถุนายน ซ้ำเข้า จึงทำให้เกิดแรงดันในลำต้นอย่างมาก และนำไปสู่ปัญหาน้ำยางไหลในเนื้อมังคุด จนไม่สามารถนำผลเหล่านี้ไปรับประทาน หรือไปขายได้เป็นจำนวนมากในแต่ละปี ถึงแม้เกษตรกรจะพยายามหาวิธีการต่างๆ มาแก้ปัญหาแล้ว โดยเฉพาะการควบคุมน้ำ
อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกันระหว่างกลุ่มเกษตรกรด้วยกัน รวมทั้งจากคำแนะนำของไร่วังน้ำค้าง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง โดย นายอดิเรก คงวิทยา ในที่สุดก็ค้นพบแนวทางการแก้ปัญหาน้ำยางไหลในเนื้อมังคุดได้สำเร็จ และผลจากการทดลองมาเป็นเวลา 3 ปี ปรากฎว่า ไม่มีการพบปัญหานี้อีกเลย ทำให้ผลผลิตของมังคุดออกมามีคุณภาพดีตรงความต้องการของตลาด เพราะมีขนาดโต รสชาติอร่อย และขายได้ราคาสูง เฉลี่ยกิโลกรัมละ 35-50 บาท จนสามารถนำไปวางขายได้ในห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารชื่อดัง
สำหรับเทคนิคในการแก้ปัญหาน้ำยางไหลในเนื้อมังคุดนั้นก็ทำได้ง่าย เพียงแค่นำตะปูขนาดยาวประมาณ 2 นิ้วครึ่ง ตอกลงไปยังโคนต้น ในระดับที่สูงจากพื้นดินประมาณ 1 ศอก และมีระยะห่างกัน 1 นิ้ว รวม 4 จุด โดยตอกลงไปยังโคนต้นทั้ง 4 ทิศ รวมจำนวน 16 จุด ด้วยความลึกประมาณ 1 นิ้ว ในช่วงระยะเวลาก่อนที่จะผลมังคุดจะเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นไม่นานจะมีน้ำยางสีเหลืองไหลออกมาจากรูที่เจาะตะปู ทำให้เมื่อเก็บผลไปขายก็จะไม่พบเจอปัญหาน้ำยางไหลในเนื้อมังคุดอีกเลย
ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
