จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ปาหี่ค่าแรง 300 ทั่วไทย "อีสานโพล"เผยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังจ่ายค่าแรงต่ำกว่า 300 บาท เหตุไม่คุ้มต้นทุน
อีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง "ผลกระทบและการปรับตัวต่อนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันของ SMEs อีสาน ไตรมาส 3 ปี 2556" ผลสำรวจพบว่า
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังจ่ายค่าแรงต่ำกว่า 300 บาท คิดเป็น 66.9% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด เนื่องจากรายได้ของผู้ประกอบการบางรายไม่คุ้มทุนหากต้องจ้างตามนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งมีผู้ประกอบการบางราย จ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมงหรือจ้างเหมาชิ้นจึงทำให้รวมแล้วค่าจ้างรวมไม่ถึง 300 บาทต่อวัน ในขณะเดียวกันก็มีผู้ประกอบการที่จัดบ้านพักและอาหารแก่ลูกจ้าง จึงทำให้ค่าแรงที่จ้างไม่ถึง 300 บาทต่อวัน
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบในด้านต้นทุนค่าแรงงานสูงขึ้นส่งผลให้ได้กำไรน้อยลงและมีการแข่งขันทางธุรกิจมากขึ้นคิดเป็น 69.1% โดยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบในระดับปานกลางคิดเป็น 37.3% แต่ยังอยู่ในระดับที่สามารถปรับตัวได้ คิดเป็น 96.1% ซึ่งการปรับตัวของผู้ประกอบการ มี 33.7% จะยังคงไม่ลดจำนวนลูกจ้างลง ณ ตอนนี้ แต่มีถึง 26.3% ที่มีแผนจะปรับลดเฉพาะลูกจ้างคนไทย มีเพียง 2.1% เท่านั้นที่จะปรับลดเฉพาะลูกจ้างต่างด้าว และ 1.4% จะปรัดลดแรงงานทุกสัญชาติ และที่เหลือ 36.4% ได้ปรับตัวการดำเนินงานในด้านอื่นๆ เช่น ลดต้นทุนที่ไม่ใช่ค่าแรง ปรับขึ้นราคา จ้างแบบเหมาชิ้น ใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีทดแทนแรงงาน เป็นต้น
นอกจากนั้นผลการสำรวจพบอีกว่าภาคการผลิตได้รับผลกระทบสูงกว่าสาขาอื่นๆเนื่องจากต้องใช้แรงงานจำนวนมาก โดยมี 84.6% ของผู้ประกอบการภาคการผลิต ที่ระบุว่าต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจากต้นปี ขณะที่ภาคการค้ามี 73.1% และภาคบริการอื่นๆ มี 71.0% ในส่วนของกำไรสุทธิ พบว่าภาคการผลิตมี 54.1% ระบุว่ามีกำไรสุทธิลดลง ขณะที่ภาคการค้ามี 52.2% และภาคบริการอื่นๆ มีเพียง 7.5% ที่ระบุว่ากำไรสุทธิลดลง
สำหรับมาตรการที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลส่งเสริมช่วยเหลือหรือสนับสนุนจากผลกระทบนโยบายค่าแรง 300 บาทพบว่าส่วนใหญ่ต้องการให้ช่วยเหลือเกี่ยวกับมาตรการด้านภาษีคิดเป็น 26.1% รองลงมาคือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนและลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คิดเป็น 20.1% ส่งเสริมการตลาดคิดเป็น 20.0% การจ่ายเงินชดเชยค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นต้นทุนการผลิตให้แก่สถานประกอบกิจการคิดเป็น 8.4% การเพิ่มผลผลิตของสถานประกอบกิจการและการเพิ่มผลิตภาพของแรงงาน (พัฒนาฝีมือแรงงาน) คิดเป็น 6.2% การผ่อนคลายกฎเกณฑ์การจ้างแรงงานต่างด้าวคิดเป็น 5.3% การช่วยจัดหาแรงงานคิดเป็น 5.2% และมาตรการอื่นๆ คิดเป็น 2.3% ตามลำดับ
การสำรวจนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่นและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบและแนวโน้มการปรับตัวต่อนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ของผู้ประกอบการ SMEsในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม — 6 กันยายน 2556 จากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 670 ราย ในเขตพื้นที่ 4 จังหวัดใหญ่ในภาคอีสาน ได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี และอุบลราชธานี
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
