จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...ทีมข่าวในประเทศ
กำหนดการล่าสุดเคาะแล้ว 28 ก.ย. นี้ “หลินปิง” ออกเดินทาง เหินฟ้ากลับเมืองจีน
ระหว่างนี้ “สวนสัตว์เชียงใหม่” เร่งเตรียมความพร้อมให้แพนด้าน้อย โดยเฉพาะการอยู่ในกรง เนื่องจากตั้งแต่เกิดหลินปิงใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่กว้างมาโดยตลอด
อีกปัญหาหนึ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้น คือ เสียงเครื่องบินรบกวนระหว่างเดินทาง ซึ่งอาจสร้างผลกระทบกับแพนด้าโดยเฉพาะขณะเครื่องบินขึ้นและลง ขณะนี้ทางสวนสัตว์จึงได้นำเสียงเครื่องบินมาเปิดให้หลินปิงฟังเพื่อความคุ้น ชิน
แม้ อนุวงศ์ วงศ์เชียร หัวหน้าพี่เลี้ยงแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ จะบอกว่า หลินปิงสามารถอยู่ในกรงย้ายได้นานกว่า 9 ชั่วโมง และไม่ต่อต้านอาหารซึ่งเป็นไผ่พันธุ์ใหม่ ส่วนขั้นตอนการขนย้ายจะใช้เจ้าหน้าที่ประมาณ 8-12 คน เครื่องบินจะบินตรงจากจังหวัดเชียงใหม่ไปยังเมืองเฉิงตู
ทว่า “กลุ่มคนรักหลินปิง” ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.ย. เพจ “Help Linping” ในเครือข่ายสังคมออนไลน์เดินหน้าล่า “Like” เพื่อสนับสนุนการทำหนังสือเปิดผนึกส่งตรงไปยังผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องจากทราบมาว่า “วิธี” การส่งหลินปิงกลับเมืองจีน “ไม่ได้มาตรฐาน”
กล่าวคือ จะไม่ใช้เครื่องคาร์โก้อย่างที่ประเทศอื่นๆ ปฏิบัติกันเป็นสากล แต่กลับนำหลินปิง “โหลดลงใต้ท้องเครื่อง” ส่วนภายในเครื่องกลับเป็น “คณะทัวร์ส่งหลินปิงกลับจีนไปเลือกคู่” ขององค์การสวนสัตว์
“พวกเราเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม จึงมีความประสงค์จะขอให้ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ ทบทวนวิธีการจัดส่งหลินปิงกลับจีน อย่างโหลดหลินปิงลงใต้ท้องเครื่อง ขอความกรุณาใช้เครื่องบินคาร์โก้ เพื่อจัดส่งและให้ใช้เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะ
“หากไม่สามารถใช้เครื่องคาร์โก้การบินไทย โปรดจัดให้หลินปิงกลับโดย FedEx Panda Express ซึ่งเป็นบริการขนย้ายแพนด้าให้ฟรี และยังมีกรงขนย้ายที่จัดทำพิเศษเพื่อความเหมาะสมในการขนส่งแพนด้าด้วย
“เบื้องต้นได้สอบถามไปยัง FedEx แล้ว สามารถดำเนินการได้ภายใน 2 สัปดาห์เท่านั้นหลังจากได้รับการติดต่อจากผู้เกี่ยวข้องทั้งสองประเทศ” จดหมายเปิดผนึกระบุ
ด้าน ธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ระบุว่า ชัดเจนแล้วว่าจะใช้เครื่องบินแอร์บัส 300 ของการบินไทยขนย้ายหลินปิงกลับประเทศจีน ยืนยันว่าการบินไทยมีมาตรฐาน โดยในวันที่ 8 ก.ย. เวลา 10.00 น. จะมีการแถลงข่าวเรื่องมาตรการขนย้ายหลินปิงอย่างละเอียดที่สวนสัตว์ เชียงใหม่
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต