จาก โพสต์ทูเดย์
กรมควบคุมมลพิษ เผย ยังพบน้ำทะเลปนเปื้อนน้ำมันดิบเกินมาตรฐานที่บริเวณอ่าวพร้าว 3 จุด
นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า การตรวจวัดตัวอย่างน้ำทะเล 3 จุด บริเวณอ่าวพร้าว เป็นครั้งที่ 6 หลังจากเกิดกรณีน้ำมันดิบรั่ว บริเวณเกาะเสม็ด จ.ระยอง ยังพบว่า มีปิโตรเลียมไฮโครคาร์บอน(TPH) ที่สวนรุกชาติ และท่าเรือประมงบ้านเพ มีค่าเท่ากับ 2.60 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ว่าต้องไม่เกิน 1 ไมโครกรัมต่อลิตรสำหรับการนันทนาการ
อย่างไรก็ตาม อ่าวและชายหาดรอบเกาะเสม็ดจุดอื่นๆ ส่วนใหญ่ มีค่าดังกล่าวเป็นปกติ ไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ มีค่าอยู่ระหว่าง 0.05 - 0.09 ไมโครกรัมต่อลิตร
นอกจากนี้ การตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล ชายหาดและอ่าวต่างๆ รอบเกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่า ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลชายฝั่งบริเวณรอบเกาะเสม็ด จำนวน 12 หาด ครั้งที่ 5 เก็บตัวอย่างวันที่ 22 - 23 ส.ค.และครั้งที่ 6 เก็บตัวอย่างเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ปรากฏว่าค่าความเป็นกรด-ด่าง ค่าออกซิเจนละลายน้ำ มีค่าปกติไม่เกินมาตรฐานที่กำหนดไว้
ผลการตรวจวัดโลหะหนักทั้ง 12 หาด พบว่า สารหนูมีค่าไม่เกินค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลที่กำหนดไว้ที่ 10 ไมโครกรัมต่อลิตร แคดเมียมมีค่าไม่เกินค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลที่กำหนดไว้ที่ 0.5 ไมโครกรัมต่อลิตร และค่าปรอทซึ่งเคยมีค่าสูงกว่ามาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลที่กำหนดไว้ 0.1 ไมโครกรัมต่อลิตรในบางอ่าวนั้น ปรากฏว่ามีค่าต่ำกว่าค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลทุกอ่าว สำหรับผลการตรวจวัดโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรมาร์บอน(PAHs) อยู่ในระดับไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้คือระดับต่ำสุดที่มีผลกระทบต่อ สัตว์น้ำ 300 ไมโครกรัมต่อลิตร
อย่างไรก็ดี การตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลบริเวณชายฝั่ง จ.ระยอง จำนวน 9 สถานี พบว่า คุณภาพน้ำทะเลพื้นฐานไม่เกินค่ามาตรฐานหลังจากการตรวจสอบค่าปรอท ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. พบเกินมาตรฐานที่สวนรุกขชาติ แหลมแม่พิมพ์ หาดพยูน ปากน้ำระยอง 1 และแม่รำพึง ส่วนการเก็บตัวอย่างครั้งที่ 2 วันที่ 21 ส.ค. พบว่าคุณภาพน้ำทะเลพื้นฐานทุกสถานีอยู่ในระดับค่ามาตรฐาน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต