จาก โพสต์ทูเดย์
พันศักดิ์แจงสื่อนอก ยอมรับ นโยบายจำนำข้าวใช้เงินภาษีไม่คุ้มในการสร้างรายได้ให้ประชาชน แต่ไม่ใช่นโยบายที่ผิดพลาด
สำนักข่าวบีบีซี อังกฤษ รายงานข่าว เรื่อง “Thailand’ rice price scheme : A policy too far” โดยตอนหนึ่งของรายงานข่าว ผู้สื่อข่าวบีบีซี กรุงเทพฯ ถามนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษานโยบายนายกรัฐมนตรี ว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลจึงผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง”
นายพันศักดิ์ กล่าวว่า ตอบว่า “ไม่ ไม่ใช่ความผิดพลาด เพราะถ้าพูดแบบกับกลุ่มประเทศ OECD ก็คงได้ แต่เราไม่ใช่ แม้มันจะไม่ใช่ทางที่มีประสิทธิภาพ ในการจ่ายเงินภาษีเพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชน...” อย่างไรก็ตาม บีบีซี สรุปตอนท้ายว่า การบริหารจัดการโครงการรับจำนำข้าวที่มีข้อครหาการทุจริตยังมีผลในการสั่น คลอนความมั่นคงของรัฐบาล
รศ.สมพร อิศวิลานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านข้าว สถาบันคลังสมองแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/57 ราคาข้าวเปลือกเจ้า 100% ที่ 1.5 หมื่นบาทต่อตัน กำหนดปริมาณข้าวเข้าร่วมโครงการไม่เกิน 3.5 แสนบาทต่อครัวเรือน จะทำให้รัฐบาลต้องแบกรับภาระขาดทุนจากโครงการรับจำนำไม่ต่างจากเดิม
“ราคารับจำนำข้าว 1.5 หมื่นบาทต่อตัน เป็นราคาที่กลไกตลาดทำงานไม่ได้ และจูงใจให้ชาวนาผลิตข้าวในปริมาณที่สูงเหมือนเดิม ขณะที่โรงสียังมีอำนาจต่อรองสูงที่จะกดราคาซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา” รศ.สมพรกล่าว
รศ.สมพร กล่าวว่า การกำหนดเพดานจ่ายเงินรับจำนำข้าวเปลือกไม่เกิน 3.5 แสนบาทต่อรายจะส่งผลให้เกิด 2 ปรากฏการณ์ คือ 1.การซอยพื้นที่นาให้ชาวนารับจ้างเช่า หรือ กระจายการถือครองสิทธิให้ลูกหลานของชาวนา เพื่อขึ้นทะเบียนเกษตรกรเข้าโครงการรับจำนำ ส่งผลให้ปริมาณข้าวที่เข้าโครงการไม่ได้ลดอย่างอย่างมีนัยสำคัญ
และ2.กรณีที่ชาวนาที่มีข้าวเปลือกส่วนเกินกว่ามูลค่า 3.5 แสนบาท และไม่สามารถเข้าโครงการได้ หากชาวนานำข้าวเข้าโครงการจะถูกกดราคารับซื้อจากโรงสี เพราะไม่สามารถนำข้าวไปขายในตลาดกลางได้ ทำให้ชาวนาถูกกดราคา เช่นขณะนี้ชาวนาที่นำข้าวเปลือกนอกโครงการไปขายให้โรงสีจะถูกกดราคาเหลือ 7,500-8,000 บาทต่อตัน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต