จาก โพสต์ทูเดย์
ภาคประชาชนติดตามกรณีน้ำมันรั่วระยองจี้นายกฯตั้งคณะกรรมการอิสระสอบข้อเท็จจริง เหตุไม่เชื่อมั่นข้อมูลที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 09.45 น.วันที่ 27 ส.ค. กลุ่มติดตามเหตุน้ำมันรั่วไหลในทะเลที่จ.ระยอง นำโดย นายธารา บัวคำศรี แกนนำ พร้อมด้วยตัวแทนจากมูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Greenpeace Southeast Asia) และสถาบันธรรมรัฐเพื่อการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม (GSEI) ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสุถรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทน เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ (พีทีทีจีซี) กรณีทำน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลในจ.ระยอง
นายธารา กล่าวว่า จากกรณีท่อน้ำมันดิบของบริษัทพีทีทีจีซีได้ทำน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลจ.ระยอง เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้คราบน้ำมันได้ถูกพัดเข้าชายหาดบริเวณ อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล การท่องเที่ยว และวิถีชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แม้บริษัทดังกล่าวและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง จะอ้างว่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามมาตรฐาน แต่ภาคประชาชนยังไม่เชื่อมั่นในข้อมูลและการดำเนินงานที่ผ่านมา
“เนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบทั้งที่ตั้งขึ้นโดยพีทีทีจีซี คณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน (กปน.) และหน่วยงานรัฐ อื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่มีองค์ประกอบของผู้เชี่ยวชาญอิสระและภาคประชาชน ทั้งยังไม่มีการเปิดเผยกระบวนการและรายงานการตรวจสอบต่อสาธารณะ”นายธารา กล่าว
อย่างไรก็ดี ทางกลุ่มได้ติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด จึงได้มีแถลงการณ์เรียกร้องต่อรัฐบาลให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเผยแพร่ต่อสาธารณะโดยมีการรณรงค์เรียกร้องการสนับสนุนจากประชาชนผ่าน
ด้าน นายสุภรณ์ กล่าวว่า จะนำเรื่ื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ และถ้านายกฯมีความคิดเห็นอย่างไรจะประสานงานมาอีกครั้ง โดยหากนายกฯเห็นด้วยกับเรื่องนี้ ก็จะต้องมีการประสานกับกลุ่มติดตามน้ำมันรั่ว เพื่อเข้ามาพูดคุยเรื่องรูปแบบและตัวกรรมการอิสระว่าควรจะเป็นใครและมี ลักษณะอย่างไรต่อไป และขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่เป็นห่วงในเรื่องนี้
ด้าน น.ส.สุภาภรณ์ มาลัยลอย ตัวแทนเครือข่ายติดตามน้ำมัน ปตท.รั่ว กล่าวภายหลังการยื่นรายชื่อว่า โดยส่วนตัวยังไม่ค่อยมั่นใจมากนักว่ารัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้ ดังนั้นจะมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยทางกลุ่มฯ จะมีการประชุมกันเพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวต่อไป โดยในขณะที่รอคำตอบจากทางนายกฯ ทางกลุ่มฯ จะจัดทีมนักวิชาการ ก็จะลงพื้นที่เพื่อศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ด้วย เพื่อเก็บข้อมูลความเสียหายต่างๆให้ชัดเจนขึ้น
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต