สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

คลังเสนอประกันภัยข้าวเข้า ครม.

จากประชาชาติธุรกิจ

นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการประกันภัยข้าวนาปีฤดูการผลิต 56/57 ได้ข้อสรุปจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงเตรียมเสนอให้ ครม. พิจารณาในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ โดยคิดการใช้วิธีแบ่งพื้นที่และคิดเบี้ยประกันตามความเสี่ยงของพื้นที่ เพื่อให้ทันฤดูกาลผลิตข้าวในปีนี้ จึงต้องประกันในบางส่วน

ส่วนแนวทางการประกันภัยข้าวทั้งระบบ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีหน้า เนื่องจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้รายงานการจ่ายเงินชดเชยของรัฐบาลกรณีเกิดภัยพิบัติพื้นที่เพาะปลูก ในแต่ละปีจะใช้เงินประมาณ 12,000 ล้านบาท จากตัวเลขเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี สำหรับพื้นที่ปลูกข้าวของไทยประมาณ 60 ล้านไร่ เฉลี่ยสถิติความเสียหายแต่ละปีมีเพียง 9 ล้านไร่ ดังนั้น หากรัฐบาลจ่ายค่าเบี้ยประกันทั้งหมดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยควรอยู่ในระดับ ต่ำ เพราะยังมีพื้นที่เหลืออีก 51 ล้านไร่ ไม่ต้องเคลมค่าความเสียหาย จึงต้องต่อรองกับบริษัทประกันภัยด้วย

แหล่งข่าวจากวงการประกันภัย เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) บริษัทประกันภัย และกระทรวงการคลัง ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับโครงการกระกันภัยข้าวนาปีฤดูการผลิต 56/57 ด้วยการจัดโซนนิ่งแบ่งพื้นที่ทำประกันภัยข้าว 5 ประเภท ด้วยการให้เกษตรกรจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นตามความเสี่ยงของพื้นที่เพาะ ปลูก ประกอบด้วยพื้นที่สีเขียวอ่อน คิดเบี้ยประกันต่ำสุด 120 บาทต่อไร่ โดยเกษตรกรจ่ายเบี้ยประกัน 60 บาทต่อไร่ พื้นที่สีเขียวจ่ายเบี้ยประกัน 230 บาทต่อไร่ ขณะที่เกษตรกรต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มเป็น 70 บาทต่อไร่

สี เขียวเข้มเบี้ยประกัน 350 บาทต่อไร่ ชาวนาจ่ายเบี้ยประกัน 80 บาทต่อไร่ สีเหลือง 440 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่าย 90 บาทต่อไร่ ส่วนพื้นที่เสี่ยงภัยสูงสุด คือ สีแดง ค่าเบี้ยประกันสูงสุด 470 บาทต่อไร่ แต่ให้ชาวนาจ่ายเบี้ยประกันเพียง 100 บาทต่อไร่เท่านั้น โดยมองว่าค่าเบี้ยเพิ่มขึ้นตามความเสี่ยงของพื้นที่ เช่น สีแดง คิดเบี้ยสูงสุด จะอยู่ในแถบจังหวัดภาคกลาง เช่น พระนครศรีอยุธยา เพราะมีความเสียหายประมาณร้อยละ 31 ของพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันภัยมากขึ้น
 
ส่วน เบี้ยประกันที่เหลือจากเกษตรกรจ่ายรัฐบาลจะจ่ายชดเชยให้ เพื่อจูงใจให้ชาวนาเข้ามาอยู่ในระบบประกันภัย คาดใช้เงินงบประมาณ 300-450 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ช่วยจ่ายชดเชยให้กับลูกค้าเท่าเดิม 10 บาทต่อไร่

รัฐบาลตั้งเป้าหมาย ดึงชาวนาทำประกันภัยปีนี้ประมาณ 1.5 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 800,000 ไร่ สำหรับการชดเชยค่าสินไหมทดแทนจากภัยเกิดจากธรรมชาติได้รับ 1,111 บาทต่อไร่ และกรณีภัยศัตรูพืชและโรคระบาดได้จะได้ค่าสินไหม 555 บาทต่อไร่ ส่วนการจ่ายชดเชยสำหรับพื้นที่ภัยพิบัติจากรัฐบาลยังคงจ่ายในราคา 1,111 บาทต่อไร่เช่นกัน โดยทางบริษัทประกันภัยในประเทศจะรับความเสี่ยงไว้ร้อยละ 10 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 90 จะส่งต่อประกันภัยให้กับบริษัทประกันภัยต่างประเทศ

สำหรับการใช้เงิน งบประมาณจ่ายชดเชยความเสียหายให้เกษตรกรทั้งระบบในพื้นที่ 60 ล้านไร่ ชดเชยความเสียหายเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี จ่ายสูงสุด 30,000 ล้านบาท จ่ายต่ำสุด 5,000 ล้านบาทต่อปี และหากต้องจ่ายชดเชยค่าเสียหาย 1,111 บาทต่อไร่ ต้องใช้เงินประมาณ 66,000 ล้านบาท ส่วนประเมินความเสียหายจะต้องปรับหลักเกณฑ์การจ่ายชดเชยใหม่ให้เป็นมาตรฐาน สากลมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลต้องประเมินเองทั้งหมด จึงต้องใช้เวลาและอาจไม่ทันในปีนี้หากจะรับประกันทั้งระบบ


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,อะไหล่ victorinox,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit

Tags :

view