จากประชาชาติธุรกิจ
แม้ว่ายอดส่งออกข้าวไปตลาดอิรักในช่วง 6 เดือนแรกของไทยมีปริมาณ 4.18 แสนตัน เพิ่มขึ้นถึง 118% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่ "เสริมศักดิ์ ควรทรงธรรม" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไชยพร ไรซ์ แอนด์ ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวเบอร์ 3 ของไทย ลูกชาย "ไพบูลย์ ควรทรงธรรม" เจ้าพ่อผู้ยึดครองตลาดข้าวอิรักมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ไม่ปลื้มสักเท่าไหร่ เพราะยอดที่เพิ่มขึ้นเกิดจากบริษัท โอแลม จำกัด บริษัทเทรดเดอร์ระดับโลก ซึ่งมีบริษัทแม่อยู่ในสิงคโปร์เสนอประมูลตัดราคาตลอด โดยในวงการค้าข้าวมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า ข้าวที่โอแลมนำไปขายมีต้นสายมาจากบริษัทที่อ้างว่าส่งมอบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) "เสริมศักดิ์" ได้เปิดใจถึงสถานการณ์ และการเข้าร่วมประมูลข้าวของรัฐบาล
- ภาพรวมการส่งออกของไชยพรฯครึ่งปีแรก
ปี 2556 ถือว่าเป็นปีที่เหนื่อยอีกปีหนึ่ง เพราะการส่งออกข้าวของบริษัทลดลงมาก ปกติผมขายส่งออกไปตลาดตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอิรักปริมาณมาก แต่โดนแย่งตลาดไปอย่างที่ทราบ ตอนนี้จึงต้องหันไปหาตลาดแอฟริกามากขึ้น เพื่อชดเชย บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า เราไม่ควรมุ่งไปที่ตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป ควรจะกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่น ๆ บ้าง และมีตลาดในเอเชีย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย
- รวมแล้วถูกตัดราคาไปกี่ครั้ง
บริษัทนั้นเข้าไปแข่งประมูลขายข้าวขาวให้กับรัฐบาลอิรักประมาณ 5-6 ครั้งติดต่อกัน โดยเสนอราคาต่ำกว่า ตัดราคาบริษัทไชยพรฯตั้งแต่ 5-40 เหรียญสหรัฐต่อตัน รวมแล้วครึ่งปี 2556 บริษัทส่งออกเหลือเพียงแสนกว่าตัน จากปีก่อนที่เคยส่งออกได้ 2 แสนกว่าตัน หรือหายไป 50%
- คาดการณ์ยอดส่งออกทั้งปีของบริษัท
ปี 2556 ทั้งปีน่าจะประมาณ 300,000-400,000 ตัน สัดส่วน 70% เป็นข้าวขาวอีก 20% เป็นข้าวนึ่งและที่เหลือเป็นข้าวหอม 10% ยอดการส่งออกลดลงจากปีที่แล้วที่เคยส่งออกได้ 5 แสนตัน จากการโดนแย่งตลาดอิรักไป เพราะในช่วงปลายปี รัฐบาลไทยเริ่มระบายข้าวสำหรับทำจีทูจี
- ตอนนี้เทรดเดอร์รายยังขายตัดราคาต่อเนื่อง
ใช่ ล่าสุดอิรักยกเลิกไป แต่คงจะมีการประมูลอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ก็คงจะเป็นเช่นเดิม รวมถึงตลาดอื่น ๆ ที่รัฐบาลจะเข้าไปขาย เช่น องค์กรสำรองอาหารแห่งประเทศอินโดนีเซีย (บูล็อก) ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดซื้อข้าวของรัฐบาลอินโดนีเซียไม่สามารถรับราคาที่สูงได้ โดยบูล็อกรับซื้อได้ที่ราคาประมาณ 420-430 เหรียญต่อตัน ซึ่งการที่รัฐบาลยอมระบายข้าวลอตนี้ออกมากก็เป็นผลดี
- ยื่นประมูลข้าว 5% ปริมาณ-ราคาเท่าไหร่
ได้เสนอประมูลข้าว 5% ไป 30,000 ตัน ตอนนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันผลการสั่งซื้อ แต่ไม่อยากให้เน้นเรื่องราคาว่า ทำให้รัฐบาลขาดทุน เพราะผมคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะเยียวยาความเสียหายมากกว่าระดับราคาที่เราให้ไป เช่นเดียวกับผู้ส่งออกคนอื่น ประมาณตันละ 12,000 บาท คิดทอนกลับมาเป็นเอฟโอบีจะประมาณตันละ 440 เหรียญสหรัฐ ถ้าเรามองก่อนโครงการรับจำนำ ราคาข้าวไทยจะสูงกว่าเวียดนามประมาณ 30 เหรียญสหรัฐ หากเทียบราคาตอนนี้ที่
ผู้ส่งออกเสนอ 440 เหรียญสหรัฐ กับราคาเวียดนาม 380 เหรียญสหรัฐ ยังมีส่วนต่างถึง 60 เหรียญสหรัฐ ที่บอกว่าเรากดราคามันไม่ใช่ เพราะรัฐบาลไปดึงราคาจำนำให้สูงเกินไป แต่พอถึงตอนปล่อยออกมาก็หาว่าผู้ส่งออกกดราคารับซื้อ ซึ่งไม่ใช่
ผมไม่อยากพูดเรื่องราคา เพราะอยากให้มีการประมูลออกมาบ้าง ถ้าราคาจูงใจ พ่อค้าคงจะเข้าไปประมูลแน่ พ่อค้าต้องการราคาที่ไม่สูงมาก พอจะไปทำตลาดได้ แต่รัฐบาลไม่ควรยกเลิกวิธีการประมูลต่อเนื่อง ราคาที่ต่างกับเวียดนาม ประมาณ 60 เหรียญ ผมว่าอาจจะขายได้ ตลาดแอฟริกายังรับข้าวเก่าอยู่
- ราคาที่ประมูล 12,000 จะแข่งทำตลาดกับข้าวจีทูจีได้หรือ
นั่นเป็นเหตุผลที่เสนอประมูลไปเพียงเล็กน้อย 10,000-20,000 ตัน ไม่อย่างนั้นผมคงเสนอประมูลเข้าไปทีละเป็นแสนตันแล้ว
- ถ้ารัฐบาลยังใช้วิธีจีทูจี ผู้ส่งออกมั่นใจที่จะประมูลหรือไม่
ถ้ารัฐบาลยังทำจีทูจีต่อ กระทบต่อผู้ส่งออกแน่นอน เพราะอย่างการเปิดประมูลรอบนี้ เรายื่นเสนอราคา 12,000 ตัน ไม่กล้าซื้อมาก เพราะกลัวว่าถ้ารัฐบาลขายจีทูจีไปแอฟริกา ตลาดเดียวกับบริษัทไชยพรอีกจะทำอย่างไร เพราะเราเป็นผู้ส่งออก เวลาประมูลต้องนำหนังสือแสดงการส่งออกจริงไปยื่น แต่เวลาที่รัฐบาลทำจีทูจีส่งออกไป ควรมีการเปิดเผยหรือนำหนังสือมายืนยันให้ประชาชนดูด้วย ผมว่าถ้ารัฐบาลอยากจะเล่นตลาด นี่เป็นโอกาสแสดงฝีมือแล้ว ถึงผมเข้าร่วมประมูล ผมเป็นแค่เครื่องมือของรัฐบาลเท่านั้นเอง
ที่เราหวังคือ ถ้ารัฐบาลไปขายข้าวให้อินโดนีเซียในราคาจีทูจี รัฐบาลควรให้เอกชนปรับปรุงข้าวส่งมอบให้ เรายินดีจะเข้าไปเป็นผู้ปรับปรุงข้าวให้ ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซียหรืออิหร่าน ที่รัฐบาลควรจะเปิดประมูลปรับปรุงคุณภาพข้าวส่งมอบตามสัญญา 250,000 ตัน เราก็จะเข้าไปประมูล
ที่ผ่านมาการขายโดยเอกชนต่อเอกชน มีปัญหาเรื่องการชำระเงินหลังจากที่โดนคว่ำบาตรทางการค้า (แซงก์ชั่น) และอิหร่านเปลี่ยนนโยบายให้หน่วยงานจัดซื้อ (GCC) ทำหน้าที่มอนิเตอร์กับควบคุมราคาแทนการจัดซื้อข้าวให้รัฐบาล และเข้าไปซื้อบัสมาติที่มีคุณภาพดีจากปากีสถานแทน
- ปัญหาต่าง ๆ ทำให้หลายบริษัทต้องหาข้าวจากประเทศอื่นส่งออก
ผมก็ไปทำเทรดเดอร์ขายบาสมาติให้กับอินเดีย ส่งไปในตลาดอิรักที่เราเคยขาย ทางตลาดอิรักต้องการข้าวบาสมาติพอดี พ่อค้าส่งออกอย่างเราต้องปรับตัว แต่เราไม่ได้ลงทุนไปตั้งโรงงานเหมือนบางราย เพียงแต่สั่งซื้อแล้วไปขายต่อ เป็นเทรดเดอร์ ราคาบาสมาติก็พอ ๆ กับข้าวหอมมะลิไทย
- แนวโน้มข้าวอินเดียเป็นอย่างไร
ปีนี้วัตถุดิบมาก ผลผลิตดี มีราคาถูกลง ส่งออกน่าจะเป็นอันดับหนึ่ง แต่จากการที่อินเดียมีกฎหมายเรื่องความมั่นคงทางอาหาร คิดว่ารัฐบาลอินเดียคงจะเพิ่มการสต๊อกข้าวมากขึ้น จะส่งผลในแง่ของราคาภายใน อาจปรับเพิ่มขึ้นหลังจากรัฐบาลอินเดียซื้อเก็บสต็อกต้องดูว่าจะเป็นอย่างไร
- ในส่วนของการยื่นประมูลข้าวนึ่ง
บริษัทไชยพรได้เสนอประมูลข้าวนึ่ง โดยผมเสนอซื้อข้าวเปลือกประมาณ 30,000-40,000 ตัน คิดเป็นข้าวนึ่งประมาณ 24,000 ตัน ราคาที่เสนอซื้อไม่ถึง 10,000 บาท ถ้ารัฐบาลขายในราคา 11,000 บาทต่อตัน จะถือว่าเป็นต้นทุนที่สูงมาก สีเป็นข้าวนึ่งราคาอาจจะถึง 15,000 บาทต่อตัน เท่ากับราคาส่งออก 510-520 เหรียญต่อตัน จากตลาด 535-540 เหรียญต่อตัน จะขายได้หรือไม่
หากรัฐบาลยังใช้เงื่อนไขการทำสัญญา รับมอบ และส่งออกภายใน 45 วัน เช่นเดียวกับข้าวขาวถือว่าค่อนข้างเร่งรัด เพราะข้าวนึ่งต้องรับข้าวเปลือกไปสีเป็นข้าวนึ่งใช้เวลาพอสมควร
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,อะไหล่ victorinox,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit