จากประชาชาติธุรกิจ
ส่อเค้ารัฐต้องหาเงินมาอุ้มชาวสวนยางปีละ 35,000-100,000 ล้านบาท เกษตรกรสวนยางเห็นพ้องแนวทางชดเชยส่วนต่างราคายางตั้งแต่ 5-20 กว่าบาท/กก. ยื่นคำขาดรัฐบาลต้องแถลงการณ์แก้ปัญหาก่อน 10 ส.ค.นี้ เผยหากราคาตกต่ำกว่า 60 บาท/กก. อาจหยุดกรีด และให้ สกย.เพิ่มเงินชดเชยการโค่นยาง
นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ผู้รับผิดชอบสินค้ายางพาราและปาล์มน้ำมัน กล่าวว่า สภาเกษตรกรแห่งชาติได้หารือกับตัวแทนจากชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยาง เครือข่ายชาวสวนยาง สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) และองค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) ถึงข้อเรียกร้องของเกษตรกรชาวสวนยางที่มีข้อเรียกร้องต่างกัน ได้ข้อสรุปว่าจะเรียกร้องแนวทางการให้รัฐบาลชดเชยราคาส่วนต่างให้แก่เกษตรกร ทุกราย โดยมีข้อกำหนดว่าเกษตรกรจะได้รับการชดเชยรายละไม่เกิน 30 ไร่ ผลผลิตไร่ละไม่เกิน 270 กก.
จากการหารือจำนวนเงินชดเชยส่วนต่างที่จะ ให้รัฐบาลชดเชยยังเป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น ซึ่งสภาเกษตรกรจะนำข้อสรุปที่ได้นี้ไปเสนอต่อนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหาข้อสรุปตัวเลขที่ชัดเจนต่อไป ทั้งนี้ จากที่เกษตรกรยื่นข้อเสนอว่าให้เวลารัฐบาล 15 วัน รัฐบาลต้องแถลงนโยบายหรือแนวทางที่จะแก้ปัญหาก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้
ตัว เลขจำนวนเงินชดเชยแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ 1.ถ้าราคายางอยู่ที่ 50-60 บาท/กก. รัฐบาลต้องชดเชย 20 กว่าบาท/กก. 2.ถ้าราคายางอยู่ที่ 61-70 บาท/กก. รัฐบาลต้องชดเชย 10 กว่าบาท/กก. 3.ถ้าราคายางอยู่ระหว่าง 71-80 บาท/กก. รัฐบาลต้องชดเชย 10 บาท/กก. 4.ถ้าราคายางอยู่ระหว่าง 81-90 บาท/กก. รัฐบาลต้องชดเชย 5 บาท/กก.
แหล่งข่าวที่เข้าร่วมหารือเปิดเผยว่า นอกจากข้อเรียกร้องให้รัฐบาลชดเชยส่วนต่างแล้ว ตัวแทนเกษตรกรได้หารือถึงการตั้งแนวต้านในกรณีที่ราคายางต่ำกว่า 60 บาท/กก. เกษตรกรจะใช้ยาแรงโดยการหยุดกรีดยาง และให้ สกย.เพิ่มเงินชดเชยการโค่นยาง เพื่อจูงใจให้เกษตรกรโค่นยางมากขึ้น
ด้านนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่สภาเกษตรกรแห่งชาติได้นำผลสรุปข้อเรียกร้องของเกษตรกรมาเสนอแล้ว กระทรวง
เกษตรฯจะเร่งเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายยาง ธรรมชาติ (กนย.) ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันประชุม กนย. แต่เนื่องจากรัฐบาลต้องให้คำตอบถึงข้อสรุปแนวทางแก้ปัญหาที่ชัดเจนแก่ เกษตรกรให้เร็วที่สุด กระทรวงเกษตรฯจึงต้องเสนอให้มีการประชุม กนย.ในเร็ว ๆ นี้
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการยางในสต๊อกของโครงการจำนวน 210,000 ตันนั้น จะไม่ระบายออกสู่ตลาดโลก แต่จะใช้วิธีการนำยางพารามาใช้เป็นวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมเพื่อใช้ภายใน ประเทศ โดยได้มอบหมายให้องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) หารือร่วมกับภาคเอกชนและจัดทำแผนการบริหารจัดการยางในสต๊อกมาใช้เป็นวัตถุ ดิบเพื่อใช้ภายในประเทศ และวิธีการดำเนินการนั้นก็ได้กำหนดกรอบไปว่าต้องไม่กระทบกับราคายางในตลาด
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,อะไหล่ victorinox,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit
