จากประชาชาติธุรกิจ
นักวิชาการเตือนนักท่องเที่ยวที่จะลงเล่นน้ำทะเลบริเวณ ใกล้เคียงจุดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันรั่วในอ่าวไทยให้รอผลการตรวจสอบ คุณภาพน้ำที่ชัดเจนก่อน เพื่อความปลอดภัย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน
ขณะที่คณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมัน (กปน.) เตรียมปรับแผนฯ ให้มีความรอบคอบมากขึ้น หลังการประเมินสถานการณ์น้ำมันรั่วในอ่าวไทยมีความผิดพลาดจากปัจจัยเสี่ยง แวดล้อม ทำให้การควบคุมสถานการณ์ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ กปน. ได้เรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อติดตามสถานการณ์การแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอ่าว ไทย โดยที่ประชุมมีมติให้กรมเจ้าท่าทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสื่อสารข้อมูลและตอบ ข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่ผ่านการตรวจสอบและเชื่อถือได้นำเสนอผ่าน เว็บไซต์ของกรมเจ้าท่าตั้งแต่วันนี้และจะมีการแถลงข่าวทุกวันเพื่ออัพเด ตสถานการณ์
นอกจากนี้ ยังสั่งให้กรมเจ้าท่าเป็นศูนย์กลางในการประเมินความเสียหายและเร่งรัดฟื้นฟู สภาพแวดล้อมของชายหาดและจุดเกิดเหตุ และเป็นศูนย์กลางประสานงานการปรับปรุงแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่อง จากน้ำมันแห่งชาติ ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อปี 2545 และปรับปรุงล่าสุดในปี 2547 ให้มีความสอดคล้อง รัดกุม และทันสมัยมากขึ้น หลังจากแผนฯ ฉบับปัจจุบันไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาการปฏิบัติการไว้ ซึ่งอาจทำให้การดำเนินการไม่กระชับรวดเร็วเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีการประเมินสถานการณ์ผิดพลาด เพราะมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการเกิดมรสุมที่มีผลทำให้น้ำมันที่รั่วกระจายตัวเร็ว ซึ่งไม่มีกำหนดไว้ในแผนและไม่เคยมีการซ้อมแผนฯ ในกรณีแบบนี้มาก่อน จึงทำให้การควบคุมสถานการณ์ผิดพลาดและจำเป็นจะต้องนำปัจจัยเหล่านี้มา พิจารณาแก้ไข เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยให้รวบรวมแนวทางที่จะปรับเพิ่มแผนให้เสร็จภายใน 1 เดือน
ด้านนาย ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมชายหาดอ่าวพร้าวและ พื้นที่เกิดเหตุ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 วันคราบน้ำมันจะหมดลงทุกจุด แต่จะมีการติดตามสถานการณ์ด้านสภาพแวดล้อมบนเกาะอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่าท่อน้ำมันที่เกิดเสียหายเป็นท่อใหม่มีอายุการใช้งานเพียง 1 ปี และจะมีการทดสอบท่อส่งน้ำมันเหล่านี้ทุก ๆ 5 ปีอยู่แล้ว ซึ่งสาเหตุของท่อรั่วกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
รศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล นักวิชาการด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมเชี่ยวชาญด้านการขจัดคราบน้ำมัน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้สารเคมีจัดการคราบน้ำมันที่รั่วในอ่าวไทย ว่า สารสลิคกอร์นที่นำมาใช้มีหน้าที่กระจายคราบน้ำมันทำให้เป็นโมเลกุลขนาดเล็ก 10-100 ไมครอน ซึ่งมีความสามารถในการตกตะกอนค่อนข้างต่ำ เมื่อเจอลมและคลื่นมีโอกาสที่จะเป็นสารแขวนลอยที่จะอยู่ใต้ผิวน้ำประมาณ 2-5 เมตร และอาจเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมารวมตัวกันใหม่ โดยยืนยันว่าสารเคมีที่ใช้มีความเหมาะสมไม่เป็นอันตรายและสามารถย่อยสลายได้ โดยจุลินทรีย์และแบคทีเรีย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่านักวิชาการและกรมควบคุมมลพิษจำเป็นต้องเก็บตัวอย่างน้ำทะเล หลังถูกปนเปื้อนคราบน้ำมันมาทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำ โดยเฉพาะการตรวจสอบการปนเปื้อนสารโลหะหนักอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัย แม้ว่าขณะนี้การตรวจสอบคุณภาพน้ำเบื้องต้นจะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและมีความใส ใกล้เคียงปกติ แต่ก็ยังต้องตรวจสอบซ้ำ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ โดยคาดว่าต้องใช้เวลาอีกประมาณ 10 วันนับจากนี้ จึงขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะลงเล่นน้ำทะเลในจุดใกล้เคียงบริเวณ เกิดเหตุให้รอผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำก่อนเพื่อความปลอดภัย
ที่มา : สำนักข่าวไทย
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,อะไหล่ victorinox,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit
