สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ฤาถึงคราอวสานปูม้าระยอง?

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...วิทยา ปะระมะ

ใน ขณะที่สายตาคนทั้งประเทศกำลังจับจ้องไปที่ปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมันบริเวณ อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ... อีกฟากหนึ่งของทะเล ฝั่งอ่าวบ้านเพ ดวงตาของหญิงวัย 50 ปีคนหนึ่งก็กำลังจับจ้องไปที่อวนซึ่งกองระเกะระกะอยู่บนพื้น ห่างออกไปไม่ไกลนัก เรือประมงขนาดเล็กจอดเรียงรายเป็นตับ ฟ้าครึ้มเมฆฝน ผิวน้ำสั่นระริกด้วยแรงลม เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก็พลันดังขึ้น...

"เรา ออกไปวางอวนดักปูตั้งแต่วันศุกร์ พอจะไปเก็บก็เจอคราบน้ำมันพอดี ทุกวันนี้ยังมีอวนอีกกว่า 20 ปั้นยังติดอยู่ในอ่าวพร้าว จะเข้าไปเก็บเขาก็ไม่ให้เข้า อันที่เก็บมาได้ก็ติดคราบน้ำมัน ปูที่จับได้ก็ตายหมด" ไพรวัลย์ บุญฤิทธิ์ หัวหน้ากลุ่มประมงชายฝั่งกรมประมง เอ่ยขึ้น

ชาว ประมงกลุ่มนี้มีเรือรวมกันประมาณ 20 ลำ จอดเรืออยู่ใกล้ๆสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง จึงมีชื่อเรียกว่า "กลุ่มกรมประมง" รัศมีทำมาหากินอยู่บริเวณอ่าวบ้านเพ เกาะเสม็ดและพื้นที่ใกล้เคียง

"ปกติ เราก็วางอวนดักปูม้าแถวๆอ่าวพร้าว 3 วันก็ไปเก็บทีนึง อวนปั้นนึงได้ปู 6-7 กก. แต่บางทีก็ได้ 17-18 กก. รายได้บางวันก็ได้ 2,000-3,000 บาท ปูที่จับได้จะมีแม่ค้ามารับเอาไปขายให้ร้านอาหารอีกที"

แม้ จะมีรายได้วันละหลักพัน แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย อวนปั้นหนึ่งราคาประมาณ 5,000 บาท ไหนจะค่าตะกั่ว ค่าทุ่น ออกเรือเที่ยวหนึ่งค่าน้ำมันก็ปาเข้าไปกว่า 500 บาท ถ้าทำคนเดียวไม่ไหวก็ต้องจ้างลูกมือ ไหนจะยังมีค่าใช้จ่ายประจำวันจิปาถะอีกต่างหาก อาศัยหมุนเงินกันไป ช่วงไหนไม่พอก็ต้องกู้นอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 20

เมื่อต้องมาเจอวิกฤติน้ำมันรั่วอย่างไม่คาดฝัน ไพรวัลย์ก็เริ่มเห็นเค้าลางหายนะที่กำลังจะเกิดในเวลาอีกไม่นาน

"ตอน นี้แย่ หลายคนไม่มีอวนไปทำ (ดักปู) ไม่มีเงินหมุน ต้องไปกู้ใหม่ จะไปกู้เจ้าเดิมเขาคงไม่ให้เพราะของเก่ายังไม่ได้จ่าย แล้วหลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่ามีสารเคมีอะไรอยู่ในทะเลบ้าง จะมีปูปลาเหลืออยู่หรือเปล่า ถ้ามันหายไปหมดแล้วเราจะหากินยังไง"

ไพล วัลย์ ยอมรับว่าแม้จะเห็นอนาคตที่ไม่ค่อยสดใสนักแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ครั้นจะไปวางในทะเลแถบอื่นก็ยิ่งเสี่ยงเข้าไปอีก เพราะนอกจากไกลกว่าเดิมแล้วยังมีเจ้าถิ่นมาแอบขโมยไปหมด

"อวนมันจะไม่เหมือนกัน พอเจ้าถิ่นเห็นเป็นอวนแปลกปลอมเขาก็ขโมยไปเลย เพราะว่าไม่ใช่พวกเดียวกัน"

"ถ้าถามว่าจะทำยังไงต่อไป ยังไม่รู้ นึกอะไรไม่ออก"ไพรวัลย์ กล่าวทิ้งท้าย

...ห่าง จากที่ตั้งของกลุ่มกรมประมงออกไปไม่ไกลนัก ใกล้ๆกับตลาดสดบ้านเพ ชาวบ้าน 2-3 คน ประกอบด้วยหญิงชราสูงอายุ ชายผิวกร้านดำ และหญิงวัยกลางคนวัยประมาณ 40 ปี กำลังสาละวนแกะปูตัวเล็กๆออกจากอวน ชาวบ้านกลุ่มนี้เป็นสมาชิกกลุ่มประมงพื้นบ้านศาลาเขียวซึ่งอาศัยจับสัตว์ ทะเลอยู่ในอ่าวบ้านเพเช่นเดียวกัน

"ปู ม้าที่จับหน้าบ้านมันก็ตัวเล็กแบบนี้แหละ ถ้าตัวใหญ่ๆต้องหาไกลออกไปอีก แต่ปกติเราไม่ค่อยไปไกล วิ่งเรือประมาณ 2-6 กิโลเมตร ส่วนใหญ่ก็วางอวนดักปูในอ่าวพร้าวนั่นแหละ อาจจะมีอวนปลาอวนกุ้งบ้าง รายได้เฉลี่ยประมาณวันละ 1,000 บาท"ชายผิวกร้านกล่าวพลางโยนปูที่แกะได้ลงในกระบะโฟม

เมื่อ ถูกถามถึงคราบน้ำมันที่กำลังลอยละล่องเจือผิวทะเลยามนี้ คำตอบที่ได้คือความกังวลถึงผลกระทบระยะยาว เกรงว่าจะทำให้สัตว์ทะเลหายไปหมด

"ตอน นี้มันยังไม่เป็นไรหรอก แต่ระยะยาวมันอาจมีผล อีกเดือนสองเดือนอาจจะหาไม่ได้ก็ได้ ยิ่งหน้าหนาวปูติดดี ตัวใหญ่ด้วย แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ต้องดิ้นรนไปไกลกว่าเดิมอีก ต้นทุนน้ำมันก็สูงตาม บางทีเจอพวกเรืออวนลาก เขาก็กวาดไปหมด เหลือแค่ความว่างเปล่าทิ้งไว้ให้เรา"

เมื่อชายผิวกร้านพูดจบ หญิงชราก็เอ่ยเสริมทันที

"มัน ก็น่ากลัวนะถ้ามีน้ำมัน พวกปูปลามันไม่เข้า หากินลำบาก" หญิงชรากล่าว พร้อมกับยิ้มเขินๆเมื่อถูกถามไถ่ชื่อเสียงเรียงนาม แล้วบุ้ยใบ้ให้หญิงกลางคนวัยประมาณ 40 ปี ที่ชื่อ ไสว สุนทรวิภาค พูดต่อ

ไสว เสริมว่า ชาว บ้านแถบนี้ทำประมงในลักษณะหากินหน้าบ้าน ออกเรือไปไม่ไกลนัก จับปูปลามาขายให้เถ้าแก่ มีกู้หนี้ยืมสินมากินๆใช้ๆอยู่บ้าง แต่อาศัยว่าหาปูหาปลาหน้าบ้านมาจ่ายหนี้ เรียกว่าพออยู่กันได้ไม่อดอยาก แต่เมื่อมีคราบน้ำมันลอยมาสุมอยู่แถวนี้ สัตว์ทะเลเหม็นน้ำมันก็หนีไปหมด

"แล้วคราบน้ำมันมันก็ต้องเกาะอยู่ตามโขดหินบ้างแหละ จะเก็บให้หมดเลยอย่างที่เขาว่า มันจะหมดจริงเหรอ"ไสว ตั้งคำถามทิ้งท้าย

...ใช่ว่าจะมีแค่ บ้านเพที่เดียวที่ได้รับผลกระทบ ขึ้นเหนือมาถึงปากน้ำระยอง ลึกจากถนนสายหลักเข้าไปแถวๆท่าเรือไออาร์พีซี มีร้านขายของชำเล็กๆอยู่ถึงก่อนทางเข้า

ชายคนหนึ่งชื่อ จักกฤษ ทองมณี กำลังนั่งอยู่หน้าร้านพร้อมเพื่อนๆกลุ่มประมงเรือเล็กแหลมรุ่งเรือง อีก 2-3 คน พูดคุยกันถึงผลกระทบจากวิกฤติน้ำมันรั่วเช่นกัน

จักกฤษ กำลังเซ็งเพราะหลังจากที่คราบน้ำมันไหลผ่านไปถึงเกาะเสม็ดแล้ว ผลิตผลจากทะเลที่เคยหาได้ก็ลดวูบ แถมราคาตกอีกต่างหาก

"ชาว ประมงเรือเล็กย่านนี้เน้นวางอวนดักปูม้าเป็นหลัก ส่วนสัตว์พวกปลาเนี่ยเรือใหญ่เขาจับกัน ปกติผมไปวางอวนแถวๆปากน้ำระยอง แล้วทำเยอะ ไปทีนึงวางอวน 7-8 ปั้น ได้ปู 30-40 กก."

ทว่า หลังจากคราบน้ำมันลอยผ่านปากน้ำระยองไปแล้ว 1 วัน จักกฤษไปวางอวนอีกครั้ง ปรากฎว่าจับปูมาได้แค่ 5 กก. แถมยังไม่พอ โดนกดราคาอีกต่างหาก

"แม่ ค้ากดราคาจากเดิมปูไซส์กลางรับซื้อ 150 บาท/กก. เหลือแค่ 80 บาท/กก. เขาบอกว่าปูระยองคนไม่กิน ก่อนจะซื้อก็ถามเลยว่าปูจากที่ไหน หยิบมาดมกลิ่นน้ำมัน ดมแล้วดมอีก โดนมือหลายคนเข้าปูก็ช้ำตาย ส่วนแม่ค้าที่รับไปขายหาดสวนสนนี่ก็ไม่ซื้อเลย"

จักกฤษ บอกว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงแย่แน่เพราะไม่รู้ว่าน้ำมันที่โดนสารละลายจะจม ลงพื้นผิวดินหรือไม่โดยเฉพาะตามโขดหินและปะการังซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ สัตว์ทะเลนานาชนิด

"ทะเล ถ้ามีกลิ่นน้ำมันนี่สัตว์หนีหมด ผมรู้ดี เมื่อก่อนเวลาจะแกล้งเพื่อนเล่นก็เอาน้ำมันใส่ขวดเล็กๆโยนเหนือน้ำ พวกที่ตกปลาท้ายน้ำไม่มีทางได้เพราะปลามันได้กลิ่นมันหนีหมด"

"เดี๋ยว ผมจะลองเอาอวนไปวางอีกที ถ้าได้ปูม้าน้อยกว่า 20 กก.นี่ แปลว่าปูมันย้ายไปที่อื่นหมดละ แน่นอนละ วันหลังไม่ต้องไปวางอวนแล้ว"จักกฤษกล่าวทิ้งท้ายด้วยสีหน้าเซ็งๆ


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,อะไหล่ victorinox,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit

Tags :

view