สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รอยล เปิดแนวทางแก้วิกฤติน้ำภาคตะวันออก

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

การบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออกไม่ใช่เรื่องยาก โดยโครงสร้างขนาดเล็กที่สามารถเชื่อมกับโครงสร้างที่มีอยู่เดิม เชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้"

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดตราดและจันทบุรี ยังคงอ่วม ร่องมรสุมและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะจันทบุรีที่เพิ่มระดับการเฝ้าระวังอยู่ในระดับอันตราย โจทย์นี้จะมีทางแก้อย่างไร "นายรอยล จิตรดอน" ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร เสนอทางออก

“ตราด และระนอง เป็น 2 จังหวัดที่ฝนตกมากที่สุด ประมาณ 5 พันมิลลิเมตรต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ย 4 เท่า การสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ไม่สามารถทำได้” เขากล่าวยอมรับ และบอกว่า

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้เขียนแผนโครงการผันน้ำจากสตึงนัม-ประแสร์ เพื่อจัดหาแหล่งน้ำต้นทุนในพื้นที่นอกเขตชลประทาน 4 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ตราด จันทบุรี ระยอง และชลบุรี เพื่อเป็นแหล่งสำรองน้ำสำหรับภาคการเกษตร และรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม สวนทางกับสถานการณ์น้ำที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน

นายรอยล ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมาโครงการแก้ปัญหาน้ำที่เสนอโดยภาครัฐ เน้นไปที่การจัดการน้ำโดยเน้นสถานการณ์แล้งเป็นตัวตั้ง ขณะที่สถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ได้เปลี่ยนไป

ความต้องการน้ำเพื่อป้อนนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก และความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ มีกว่า 546 ล้าน ลบ.ม. หากก่อสร้างทางส่งน้ำจะต้องทำโครงการวางแนวท่อยาวเกือบ 200 กม. งบประมาณกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพื่อผันน้ำจากเขื่อนสตรึงนำ ประเทศกัมพูชา มายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัด ระยอง

นายรอยล บอกว่า โครงการดังกล่าวเริ่มมีแนวความคิดขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ซึ่งประเทศเกิดปัญหาภัยแล้งที่จังหวัดระยอง ความเสี่ยงที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีต้องหยุดเดินเครื่อง 2 เดือน คาดว่าจะมีผลกระทบต่อจีดีพีราว 2 แสนล้านบาท

“ขณะที่ทุกปีเราจะเห็นน้ำท่วมที่จันทบุรี และตราด ทำไมถึงไม่คิดจะเอาน้ำตรงนี้มาใช้ ในขณะที่เมื่อถึงหน้าแล้งจันทบุรี และตลาดแล้งทุกปี มีปัญหาน้ำเค็มลุกล้ำ” เขากล่าว และย้ำว่า ถ้ารู้ว่าน้ำเกินในหน้าฝน และเอาเก็บไว้ ตราดจันทบุรี ระนอง ก็จะไม่เจอกับปัญหาภัยแล้ง การจะเอาน้ำในประเทศมาใช้ไม่ง่ายกว่าหรือ

นายรอยล มองว่า สิ่งสำคัญคือต้องฟื้นแหล่งน้ำที่มีอยู่เดิม ทำโครงการอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 10 ล้าน ลบ.ม. แม้โครงการขนาดเล็กจะมีต้นทุนและทำยาก แต่ปัจจุบันระบบไอทีค่อนข้างสมบูรณ์ อีกทั้งสภาพพื้นที่โดยรอบที่เป็นภูเขา ทำให้การสร้างพื้นที่เก็บน้ำทำได้ง่ายขึ้น

“การบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป งบประมาณที่ใช้อยู่ในระดับหมื่นล้านบาท โดยโครงสร้างขนาดเล็กที่สามารถเชื่อมกับโครงสร้างที่มีอยู่เดิม เชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้”

เขาบอกว่า เป้าหมายเดิมของเขื่อนสตรึงนัมคือผลิตไฟฟ้าเพื่อขายให้กับประเทศไทย ซึ่งปริมาณน้ำที่ได้มองถึงการนำไปใช้ประโยชน์ การนำน้ำมาใช้ต้องลาดท่อผ่านตราด จันทบุรี เข้ามาที่ระยอง ปริมาณน้ำที่ได้ 1 ลบ.ม.ต่อปี จะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 100 บาท

ขณะที่อ่างเก็บน้ำในพื้นที่ ณ ตอนนี้ ไม่มีที่ว่างพอที่จะพักน้ำ อย่างอ่างเก็บน้ำประแสร์ที่ความจุ 230 ล้านลบ.ม.ต่อปี แต่มีน้ำไหลเข้า 300 กว่าล้านลบ.ม.ต่อปี ขณะที่อ่างเก็บน้ำคลองระโอก จังหวัดระยอง เก็บน้ำได้ 15 ล้านลบ.ม. ก็มีน้ำเต็มอ่างเช่นกัน

วันนี้บริษัทจัดการน้ำเลือกที่จะซื้อพื้นที่บ่อลูกรังในจังหวัดชลบุรี และระยอง เพื่อใช้เก็บน้ำดิบของตัวเอง ในขณะที่ บริษัท ปตท.เอง ก็ขยายหาแหล่งน้ำดิบของตัวเอง เพื่อแก้ไขสถานการณ์ภัยแล้ง

อย่างไรก็ตาม เขามองว่า การบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออกมีความจำเป็นต้องทำ ที่น้ำท่วม น้ำแล้ง จังหวัดจันบุรีและตราดปีนี้ น่าจะเป็นเหตุการณ์ผู้บริหารควรทบทวนแนวคิดที่จะนำน้ำจากสตรึงนัมมาช่วยในพื้นที่จันทบุรี และระยอง มาพัฒนาแหล่งเก็บน้ำในพื้นที่ ซึ่งผลที่ได้คือน้ำท่วมลดลงชัดเจน แก้ปัญหาภัยแล้งได้ด้วยต้นทุนถูกกว่า ความมั่นคงมากกว่า

ในจังหวัดตราดเอง นอกจากปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำยังเป็นโจทย์ใหญ่ของการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมา สสนก. ได้ลงพื้นที่ตำบลเปร็ดใน จังหวัดตราด เพื่อแก้ปัญหารุกน้ำเค็ม ขาดแคลนน้ำจืดทำการเกษตร จากพื้นที่แอ่งกระทะคว่ำ ด้วยการขุดลอกลำรางน้ำเดิม ทำคลองน้ำจืด และประตูระบายใหม่ เพื่อบริหารและกักเก็บน้ำจืดไว้ให้นานที่สุด ให้มีน้ำเพียงพอสำหรับทำเกษตรกรรม สวนผลไม้ ยางพารา

ภายในระยะเวลา 3 ปี สามารถขยายผลได้ใน 5 หมู่บ้าน 1.2 หมื่นไร่ ของตำบลห้วงน้ำขาว จังหวัดตราด

ที่ผ่านมาสสนก. ลงพื้นที่ร่วมกับ 251 หมู่บ้าน โดยใช้สำรวจพื้นที่ ดูข้อมูลจากแผนที่ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา มากกว่าการลงโครงการก่อสร้างที่ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของประเทศ ซึ่งเป็นภารกิจที่นอกเหนือจากการทำข้อมูล ติดตามสถานการณ์น้ำ แบบจำลองพยากรณ์อากาศ เพื่อเป็นต้นแบบให้กับชุมชนอื่นเห็น และพร้อมให้ความร่วมมือในการจัดการน้ำไปด้วยกัน

ทั้งนี้ นอกจากการจัดการน้ำภาคตะวันออกแล้ว เขายังมองถึงการจัดน้ำในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะโครงการฟื้นแหล่งน้ำในจังหวัดพังงา เพื่อเป็นแหล่งน้ำดิบป้อนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีโครงการของกรมชลประทานวางไว้อยู่แล้ว


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view