จากประชาชาติธุรกิจ
ผู้ประกอบการเผยโรคตายด่วนในกุ้งกระทบยอดส่งออกครึ่งปีแรก 1.6 หมื่นล้าน แต่ยังเชื่อครึ่งปีหลังฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาคมกุ้งไทย สมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทะเลไทย สมาคมกุ้งตะวันออกไทย และสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับสถานการณ์โรคตายด่วนในกุ้ง
(อีเอ็มเอส) โดยระบุว่า การระบาดของกลุ่มอาการตายด่วนในกุ้งในฟาร์มเลี้ยงกุ้งภาคตะวันออก ตั้งแต่กลางปี 2555-2556 ทำให้ผลผลิตวัตถุดิบกุ้งทั่วประเทศมีปริมาณลดลงกว่า 50% ส่งผลกระทบต่อปริมาณและมูลค่าการส่งออกกุ้งลดลงอย่างต่อเนื่อง
ล่า สุดในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณการส่งออกลดลงถึง 29.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างความเสียหายไปแล้วกว่า 16,000 ล้านบาท และหากสถานการณ์วัตถุดิบยังคงลดลง
ต่อเนื่องไปจนถึง ปลายปี 2556 ทำให้การส่งออกของไทยลดลงจากอันดับ 1 โดยคาดว่าปริมาณการส่งออกตลอดทั้งปีจะลดลงถึง 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
พร้อม กันนี้โรงงานผู้ผลิตและแปรรูปกุ้งจำเป็นต้องชะลอการรับคำสั่งซื้อในช่วงนี้ เนื่องจากปริมาณผลผลิตน้อยและราคายังผันผวน แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าสถานการณ์ช่วงปลายปีจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากขณะนี้เกษตรกรมีการปรับปรุงระบบสุขอนามัยและกรรมวิธีการเลี้ยงดู พ่อแม่พันธุ์กุ้งทะเล รวมทั้งมีการปรับปรุงวิธีการจัดการเลี้ยงกุ้งในบ่อดินอย่างเข้มข้น จึงลดความเสี่ยงและความเสียหายจากโรคระบาด ส่งผลให้อัตราการรอดของลูกกุ้งที่ขยับเพิ่มขึ้น 50-60% และคาดว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 3 และกลับเข้าสู่สภาวะปกติในช่วงปลายปี 2556
ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า จากปัญหาโรคตายด่วนในกุ้งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งเดือดร้อนและขาดความมั่นใจในการเลี้ยงกุ้ง ทำให้ผลผลิตกุ้งในตลาดลดลง สร้างความหวั่นวิตกให้กับประเทศคู่ค้าหลายประเทศ ขณะที่ปริมาณและมูลค่าการส่งออกกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งของไทยตั้งแต่ต้นปี 2556 ก็ลดลง แต่ทั้งนี้หากสถานการณ์คลี่คลายลงได้ คาดว่าจะทำให้การส่งออกกุ้งในช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากความต้องการนำเข้ากุ้งจากตลาดหลักทั้งสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นยังคง มีอยู่
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต