จาก โพสต์ทูเดย์
ชาวสตึกร้องรัฐช่วยเหลือฝนทิ้งช่วงลำห้วยแห้งขอดหนักสุดรอบ100ปีจนไม่มีน้ำผลิตประปาต้องซื้อน้ำกิน
กลุ่มตัวแทนชาวบ้านทั้ง อบต. กำนันผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน บ้านโคกก่อง หมู่ 2 และบ้านสวายสอ หมู่ 15 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ร่วมตัวร้องขอความช่วยเหลือทางภาครัฐและหน่วยงานที่รับผิดชอบ หลังลำห้วยสาธารณะ "กุดตาแซง" พื้นที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปา หล่อเลี้ยงชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านกว่า 400 ครัวเรือน ประชากรกว่า 2,000 คน มาตั้งแต่สมัย ปู่ ย่าตายาย มีสภาพตื้นเขินแห้งขอดเป็นขุ่นโคลนวิกฤตสุดในรอบกว่า 100 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้านสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านไม่มีน้ำอุปโภค บริโภคต้องซื้อน้ำจากพ่อค้ารถบรรทุกเร่ขายตามหมู่บ้าน รถละ 200 บาทเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคมานานกว่า 1 เดือนแล้วถึงแม้จะเป็นช่วงหน้าฝนก็ตาม แต่ปริมาณฝนตกน้อยและทิ้งช่วงและไม่ตกในพื้นที่รับน้ำของลำห้วยกุดตาแซง
ทั้ง นี้ที่ผ่านมาชาวบ้านที่เดือดร้อนได้เคยเข้าไปร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วย งานภาครัฐ องค์การบริหารส่วนตำบลและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ที่ศาลากลางจังหวัดให้เข้ามาสำรวจขุดลอกลำห้วยกุดตาแซงให้สามารถกักเก็บน้ำ ได้เพิ่มมากขึ้นแต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีหน่วยงานใดตอบรับ หรือยื่นมือให้ความช่วยเหลือทนไม่ไหวจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากทาง จังหวัดให้เร่งเข้ามาสำรวจและดำเนินการขุดลอกช่วยเหลือชาวบ้านโดยเร็วด้วย
นาย ประยูร ภูวอง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล(ส.อบต.)นิคม ตัวแทนชาวบ้านที่เดือดร้อน กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งทวีความรุนแรงขึ้นทุกปีหากภาครัฐไม่เร่งเข้ามาช่วยเหลือขุด ลอกกุดตาแซงเชื่อว่าในอนาคตชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านจะไม่มีแหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาใช้ในการอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอนและ จากความเดือดร้อนดังกล่าวชาวบ้านจึงได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากทางภาค รัฐได้เร่งพิจารณาช่วยเหลือคลายความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านโดยเร็วด้วย
ด้าน น.ส.นวลจันทร์ ยุบรัมย์ ชาวบ้านโคกก่องหมู่ 2 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ชาวบ้านต้องชื้อน้ำอุปโภคบริโภคจากพ่อค้ารถขายน้ำรถละ 200 บาท มานานกว่า 1 เดือนแล้ว เป็นการเพิ่มภาระให้กับชาวบ้านที่ยากจนถึงแม้จะร่วมกันเข้ายื่นหนังสือขอ ความช่วยเหลือจากทางภาครัฐหลายหน่วยงานแต่ก็เงียบหายทำให้ชาวบ้านได้รับความ เดือดร้อนจากภัยแล้งมานานจึงขอให้ภาครัฐทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ได้เข้ามาสำรวจดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านดังกล่าวโดยเร็วด้วย
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
