จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ผ่า "ม็อบชาวนา" มีทั้งหนุน-ค้าน! จับตารัฐบาลใช้มวลชนเพื่อผลการเมือง
สัปดาห์นี้น่าจะเป็นสัปดาห์ "ม็อบชาวนา" จากปัญหาโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลที่ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) มีมติให้ลดราคาจำนำลงจาก 15,000 บาทต่อตัน เหลือ 12,000 บาทต่อตัน และให้เริ่ม 1 ก.ค.นี้ทันที ทั้งๆ ที่ยังไม่สิ้นสุดฤดูกาลผลิต
3
หากมองกันเผินๆ อาจเข้าใจผิดว่า "ม็อบชาวนา" เป็นม็อบที่เข้ามาทวงสัญญารัฐบาลด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด แต่ในความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะเมื่อตรวจแถวกันอย่างละเอียดแล้วพบว่า ส่วนหนึ่งเป็น "ม็อบเชียร์รัฐบาล" กับอีกส่วนหนึ่งเป็น "ม็อบค้าน" ไม่ใช่ค้านโครงการจำนำข้าว แต่ค้านการลดราคาจำนำ!
สรุปก็คืออำนาจต่อรองยังอยู่ที่รัฐบาล เพราะสามารถกำหนดราคาใหม่ เพิ่มราคาจำนำให้กลับมาเท่าเดิมได้ทุกเมื่อ แถมยังโยนความผิดไปให้ฝ่ายค้านว่าเป็นต้นเหตุให้ต้องลดราคาจำนำลง (ชั่วคราว) อีกด้วย
ฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลกลัวจึงไม่ใช่ม็อบชาวนา แต่กลัวภาพการชุมนุมที่จะกลายเป็นการประจานความล้มเหลวและขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าว จนทำให้คะแนนนิยมโดยรวมของรัฐบาลลดลงต่างหาก
จุดนี้จึงมีความพยายามสกัด "ม็อบค้าน" เอาไว้แค่ที่ศาลากลางจังหวัด อย่าปล่อยให้หลั่งไหลมารวมตัวกันที่กรุงเทพฯ ดังที่ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอกเอาไว้ว่าให้ไปยื่นหนังสือที่ผู้ว่าราชการจังหวัดก็พอ เพราะหลังจากนั้นผู้ว่าฯก็จะส่งหนังสือต่อมายังรัฐบาลเอง ถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องตากแดดตากฝนมาชุมนุมที่ กทม.
เรื่องคะแนนนิยมเป็นประเด็นที่ นายจารุพงศ์ รู้ซึ้งเป็นอย่างดี เพราะเจ้าตัวถึงกับบอกว่า ที่ได้มาเป็นรัฐบาลทุกวันนี้ก็เพราะนโยบายจำนำข้าว...ฉะนั้นงานนี้จึงพลาดไม่ได้เด็ดขาด
จะเห็นได้ว่าวันนัดชุมนุมจริงของชาวนาคือวันที่ 25 มิ.ย. แต่วานนี้ (24 มิ.ย.) ก็เริ่มทยอยรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดหลายแห่งแล้ว เช่นที่ จ.พะเยา ซึ่งอารมณ์ออกไปในแนวเดือดร้อนจากราคาจำนำ 12,000 บาท จึงขอสนับสนุนให้รัฐบาลคงราคาจำนำต่อไปที่ 15,000 บาท ฯลฯ
ส่วนที่เข้าไปถึงหน้ารัฐสภา คือ ตัวแทนสมาชิกสภาเกษตรกร 10 จังหวัดภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง นำโดย นายชารินทร์ สิงห์ดี ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสิงห์บุรี ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ชะลอการใช้นโยบายลดราคารับจำนำของรัฐบาลออกไปจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาลผลิตปีนี้
ขณะที่ นายวราเทพ แย้มแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า ภายใน 1-2 วันนี้น่าจะมีการหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 29 มิ.ย.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการใช้ราคารับจำนำที่ตันละ 15,000 บาท ส่วนจะเป็นการทบทวนมติหรือไม่ก็ต้องนำมาพิจารณากัน แต่เชื่อมั่นว่าม็อบชาวนาจะไม่บานปลาย เพราะไม่ใช่ม็อบการเมือง เพียงแต่เป็นการแสดงความเดือดร้อนให้รัฐบาลเห็น
ท่ามกลางกระแสที่ว่ารัฐบาลพยายามสกัดม็อบชาวนาในกลุ่มของ "ม็อบค้าน" เอาไว้ที่ศาลากลางจังหวัด แต่อีกด้านหนึ่งก็เปิดไฟเขียวให้ "ม็อบหนุน" เข้ามาได้ถึงหน้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เมื่อวานนี้
โดยตัวแทนที่อ้างว่าเป็นกลุ่มชาวนาไทยจากจังหวัดต่างๆ เช่น จ.ชุมพร พระนครศรีอยุธยา จันทบุรี ระยอง อุทัยธานี พิจิตร สระแก้ว และราชบุรี ประมาณ 400 คน นำโดย นางกนกพร ศิริพันนาพิรัตน์ ได้ไปรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า จากนั้นได้เดินเท้าไปยังทำเนียบรัฐบาล พร้อมตะโกนว่า "ยิ่งลักษณ์สู้ๆ" ตลอดทาง เพื่อให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และสนับสนุนโครงการรับจำนำข้าว โดยมี นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เป็นตัวแทนออกมารับช่อดอกไม้ บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น-คุ้นเคย
หนำซ้ำยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงที่อ้างว่าเป็นตัวแทนเกษตรกรชาวนาไทยจาก จ.กาญจนบุรี และราชบุรี จำนวน 50 คนพร้อมรถกระบะติดเครื่องเสียง ไปปิดทางเข้า-ออกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อประท้วงการทำหน้าที่ตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล พร้อมปราศรัยด้วยถ้อยคำหยาบคายด้วย
นี่เองที่ทำให้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ อย่าง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ออกมาซัดเปรี้ยงว่า รัฐบาลสองมาตรฐาน ปิดกั้นการแสดงออกของกลุ่มเกษตรกรที่คัดค้านและได้รับความเดือดร้อน
กระนั้นก็ตาม จุดตายของรัฐบาลในเรื่องจำนำข้าว น่าจะอยู่ที่การทุจริตและกระทำผิดกฎหมาย เพราะนายกฯนั่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ด้วยตนเอง ไม่ได้มอบให้รองนายกฯรับผิดชอบแทน ฉะนั้นหากหลักฐานทุจริตถึงระดับเอาผิดทางกฎหมายได้ นายกฯก็จะติดร่างแหไปด้วย อนาคตของรัฐบาลก็ง่อนแง่น โดยเฉพาะหาก ป.ป.ช.ชี้มูล รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะถูกกดดันให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
เดิมพันเรื่องนี้จึงสูง ไม่ใช่แค่ประชานิยมเพื่อหวังคะแนนนิยมและผลการเลือกตั้งเท่านั้น แต่เดิมพันอนาคตรัฐบาลของด้วย เมื่อวานจึงเห็นกลุ่มที่อ้างเป็นตัวแทนชาวนา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ปช.พร้อมกรรมการทุกคน ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีรับคำร้องจาก นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ให้ตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยอ้างว่า นพ.วรงค์ ผู้ยื่นคำร้อง เป็นปรปักษ์กับพรรคเพื่อไทย
นี่คือการหยิบฉวยใช้ประโยชน์จากมวลชนเพื่อผลทางการเมือง ซึ่งเป็นงานที่รัฐบาลชุดนี้ถนัดเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนการนัดชุมนุมใหญ่ของชาวนาในวันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล ประเมินสถานการณ์จากรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งเตรียมกำลังตำรวจรับมือแค่ 3 กองร้อย คงพอบอกได้ว่ารัฐบาลมั่นใจกับผลงานประชานิยม "เอาอยู่"
เพียงแต่ที่ต้องสกัดทุกวิถีทางก็เพื่อไม่ให้เกิดกระแสเข้าทางกลุ่มจ้องล้มรัฐบาลที่กำลังแต่งตัวรออยู่นั่นเอง!
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
