สภาเกษตรฯบุกสภาจี้ทบทวนลดราคาจำนำฯ

จาก โพสต์ทูเดย์

สภาเกษตรภาคกลาง-เหนือตอนล่าง บุกสภาฯ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ จี้ทบทวนปรับลดราคาจำนำข้าว 

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่รัฐสภา ตัวแทนสภาเกษตรกรภาคกลาง และเหนือตอนล่าง จำนวน 26 จังหวัด กว่า 10 คน นำโดยนายชารินทร์ สิงห์ดี  ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสิงห์บุรี นายแสณ เกิดฤทธิ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เพื่อให้รัฐบาลทบทวนการปรับลดราคารับจำนำข้าว ที่จะเริ่มราคาใหม่ 12,000 บาทต่อตันในวันที่ 30 มิ.ย.  โดยขอให้คงราคาไว้ที่ 15,000 บาท ไปจนสิ้นฤดูกาลรับจำนำฯปีการผลิต 2555/2556 ในเดือนก.ย.ไปก่อน เพราะชาวนาได้ลงทุนไปแล้ว โดยขณะนี้พื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ยังเหลือข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวอีกประมาณ 60% ซึ่งช่วงเดือนที่จะเก็บเกี่ยวได้อยู่ระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม ทำให้ชาวนาได้รับผลกระทบจากการลดราคาจำนำข้าวลง

นายชารินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องไปแก้ที่ระบบ หาต้นตอคนที่ทุจริต  ไม่ใช่มาแก้ไขที่ผู้ผลิต ทุกวันนี้ 15,000 ก็ไม่เคยได้เต็มจำนวนอยู่แล้ว เพราะถูกหักเรื่องความชื้น ได้มากที่สุดก็ 13,000 บาทต่อตัน ถ้ามาปรับเป็น 12,000 บาทต่อตันก็คงเหลือประมาณ 7,000-8,000 บาทต่อตัน การที่รัฐบาลมองว่าให้ราคาจำนำที่ 12,000 บาทต่อตัน เกษตรก็อยู่ได้ อยากให้ทบทวนว่าที่อยู่ได้คือนายทุนกับโรงสีใช่หรือไม่  หากรัฐบาลปรัลลดราคาลงมา ก็ขอให้ยกเลิกโครงการไปเลยดีกว่า เพราะราคาดังกล่าวก็เท่ากับราคาตลาดอยู่แล้ว     

"ราคา 15,000 บาท เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความหวังกับชาวนา หากปรับลดราคาก็เท่ากับรังแกชาวนา ถ้ารัฐบาลไม่ฟังเสียงเกษตร พรรคเพื่อไทยก็คงหมดกำแพงเกษตรกรที่จะปกป้อง ขณะนี้สภาเกษตรกรมีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ กว่า 80,000 คน และถ้าเกษตรกรทั่วประเทศจะเยอะแค่ไหน"นายชารินทร์ กล่าว

นายวราเทพ กล่าวว่า จะรับเรื่องนี้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังให้มีมาตรการออกมาช่วยเหลือชาวนา ซึ่งส่วนตัวคาดว่าจะต้องมีมาตรการในการลดต้นทุน หารายได้เสริมให้ชาวนา ก่อนวันที่ 29 มิ.ย.นี้ เนื่องจากวันที่ 30 มิ.ย.จะเป็นการเริ่มต้นรับจำนำราคาใหม่ที่ตันละ 12,000 บาท แต่ก็ยอมรับว่าขณะนี้มีชาวนารายใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากการจำกัดจำนวนรับ จำนำครัวเรือนละไม่เกิน 5 แสนบาทต่อปี และความแตกต่างของความเห็นก็จะต้องรับฟังต่อไป   ส่วนเรื่องการพิจารณาทบทวนราคาจำนำฯนั้นยังไม่เป็นข้อยุติ  

นายวราเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ฝ่ายค้านอยากให้แก้ไขการทุจริตมากกว่าการปรับลดราคานั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับหลักเกณฑ์ 3 เรื่อง คือ 1.การที่จะทำอย่างไรให้ค่าใช้จ่ายลดลงในการทำนาลดลง 2.ทำอย่างไรให้ข้าวที่เข้าร่วมโครงการเป็นของเกษตรกรอย่างแท้จริง 2.จะทำอย่างไรให้การบริหารจัดการที่อยู่ในสต็อกอย่างโปร่งใส  นอกจากนี้ยังให้ทุกหน่วยงานไปทำแผนปฏิบัติงานให้ชัดเจน เชื่อว่าจะดีขึ้น เป็นโอกาสที่ทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือ เพราะเป็นเรื่องที่สังคมพูดกันมาก ที่สำคัญจะต้องให้ความเป็นธรรมกับชาวนาที่ถูกเอารัดเอาเปรียบด้วย อย่างไรก็ตามนโยบายรับจำนำข้าว ไม่ได้ล้มเหลว ส่งผลดีต่อเกษตรกรและภาพรวมต่อเศรษฐกิจ  ทั้งนี้รัฐบาลไม่ได้ละเลยเอาใจใส่ชาวนา ก็พยายามบริหารจัดการให้รัดกุม ดูแลประโยชน์ของทุกฝ่าย   

นายวราเทพ กล่าวด้วยว่า การที่สมาคมชาวนาเตรียมยื่นเรื่องดังกล่าวต่อศาลปกครองเห็นว่า รัฐบาลยอมรับการแสดงออกของทุกฝ่ายและยืนยันว่าไม่มีการปิดกั้นแต่อย่างใด เช่นเดียวกับการชุมนุมเรียกร้องในวันที่ 25 มิ.ย. เพราะไม่ได้มีเหตุผลทางการเมืองและเชื่อว่าพี่น้องชาวนาจะไม่ยอมตกเป็น เครื่องมือของใคร 

---

สภาเกษตรกรจี้รัฐชะลอลดราคาจำนำข้าว

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

สภาเกษตรกร 10จังหวัดภาคกลาง-เหนือตอนล่าง จี้รัฐบาลชะลอใช้ราคารับจำนำข้าวใหม่ เตือนหากไม่ทำตามจะไม่เป็นกำแพงป้องรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีตัวแทนสมาชิกสภาเกษตรกร 10 จังหวัดภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง นำโดย นายชารินทร์ สิงห์ดี ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสิงห์บุรี เข้ายื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ผ่านนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ชะลอการใช้นโยบายลดราคารับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาล จากเดิมที่รับจำนำตันละ 15,000 บาท ไปใช้ราคา 12,000 บาทต่อตัน และเตรียมดำเนินการในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ ออกไปจนถึงสิ้นสุดฤดูกาลผลิตปีนี้ โดยนายวราเทพ กล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวนารัฐบาลไม่ได้ละเลย และจะนำข้อเสนอต่าง ๆ ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดประโยชน์กับชาวนาอย่างสูงสุด

จากนั้นนายวราเทพ ให้สัมภาษณ์ต่อว่าในประเด็นที่มีชาวนาไม่เห็นด้วยกับมติลดราคาจำนำของรัฐบาลและเตรียมชุมนุมเพื่อยื่นข้อเสนอต่อนายกฯ ในวันที่ 25 มิ.ย.นั้น ตนมองว่าการแสดงออกทุกฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นและยอมรับ รวมถึงได้มีการเปิดรับข้อมูลทุกช่องทาง โดยเฉพาะข้อมูลที่คิดว่าจะนำมาสู่การตัดสินใจเพื่อดูแลประชาชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อให้นโยบายของรัฐบาลเกิดการยอมรับมากที่สุด ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่าการชุมนุมของผู้แทนชาวนาไทยนั้นจะไม่ยืดเยื้อ เพราะเหตุผลของการมาชุมนุมไม่ใช่เป็นเรื่องทางการเมือง แต่เป็นการนำเสนอความเดือดร้อนต่อรัฐบาล อย่างไรก็ตามตนมองว่านโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลนั้นไม่ได้ล้มเหลว เพราะระยะเวลา 1ปีเศษที่รัฐบาลทำโครงการเห็นชัดว่าเกิดประโยชน์กับชาวนา ส่วนสิ่งที่รัฐบาลเตรียมปรับปรุงเป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกับชาวนา

"ผมเชื่อว่าการชุมนุมจะไม่บานปลาย หากฝ่ายการเมืองไม่นำไปเป็นประเด็น อีกทั้งผมเชื่อว่าชาวนาจะไม่ยอมถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างแน่นอน ส่วนปัญหาที่ชาวนาไม่ยอมรับ ขณะนี้กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการหารือว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เบื้องต้นอาจคุยเรื่องผลกระทบและการทบทวนมติ ส่วนความเห็นของผมมองว่าแนวทางแก้ปัญหาและทางออกกับข้อเรียกต่าง ๆ ของชาวนานั้น 1-2 วันนี้น่าจะมีการหารือและน่าจะได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 29 มิ.ย. ที่ถือเป็นวันสุดท้ายของการใช้ราคารับจำนำที่ตันละ 15,000 บาท ส่วนจะเป็นการทบทวนมติหรือไม่ก็ต้องนำมาพิจารณากัน"นายวราเทพ กล่าว

ขณะที่นายชารินทร์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่าสำหรับนโยบายลดราคารับจำนำข้าวนั้น ตนไม่เห็นด้วยและคิดว่าไม่เหมาะสม เพราะเท่ากับเป็นการกลั่นแกล้งชาวนา ส่วนตัวมองว่าแนวทางแก้ปัญหาการขาดทุนหรือการทุจริต รัฐบาลควรไปควบคุมกระบวนการในโครงการ เช่น ขั้นตอนการรับจำนำ, โรงสีที่รับจำนำข้าว, การส่งออก รวมถึงแก้ปัญหาการทุจริตมากกว่า ส่วนกรณีที่ผู้แทนชาวนาไทยเตรียมชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 25 มิ.ย. นั้น พวกตนจะไม่เข้าร่วม เพราะสภาเกษตรกรมีหลักเกณฑ์ และระเบียบปฏิบัติ ส่วนตัวมองว่ากลุ่มที่จะออกมาชุมนุมเป็นคนเสื้อแดงและไม่ใช่ชาวนา100 เปอร์เซ็นต์

"กรณีที่รัฐบาลลดราคารับจำนำเท่ากับเป็นการกลั่นแกล้งชาวนา หากรัฐบาลไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องที่ให้ใช้ราคารับจำนำใหม่ช่วงเปิดฤดูกาลใหม่ สภาเกษตรกรที่มีสมาชิกกว่า 8 หมื่นคนจะไม่ขอเป็นกำแพงให้รัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยอีกต่อไป" นายชารินทร์ กล่าว

---

ชาวนาเครียดจนดับหลังลดราคาจำนำข้าว

จาก โพสต์ทูเดย์

ชาวนาวัย61ปีปากท่อเมืองราชบุรีเครียดจัดจนเสียชีวิต หลังรัฐลดราคาจำนำข้าว ทำไม่มีเงินจ่ายหนี้ต้นทุนทำนา

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า นางบุญเหลือ  ศรีมุก  อายุ 61 ปี ชาวนา ในต.ปากท่อ อ. ปากท่อ จ.ราชบุรีได้เกิดอาการช็อคและเสียชีวิต เนื่องจากเกิดความเครียดหลังจากที่ทราบเรื่องการลดราคาจำนำข้าวของรัฐบาล เนื่องจากไม่สามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้ทันก่อนที่จะมีการลดราคาจำนำในวันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยนางเหลือมีหนี้สินจากการทำนาจำนวนมากและตั้งใจที่จะนำเงินที่ได้จากการ จำนำข้าวไปชำระหนี้สิน เมื่อมีการลดราคาจำนำจึงทำให้เงินที่ได้รับไม่เพียงพอต่อการใช้หนี้ นางเหลือจึงเกิดความเครียดมาก โดยญาติจะจัดพิธีรดน้ำศพในช่วงเย็นวันนี้ 

นางสุกัญญา ปานทัน อายุ 52 ปี พี่สะใภ้ของนางบุญเหลือ กล่าวว่า  ผู้ตายทำนาทั้งหมด 20 ไร่ และเป็นเสาหลักของครอบครัวเพราะสามีเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว โดยต้องเลี้ยงดูบุตรชายที่ป่วยเป็นโรคประสาทเพียงลำพัง

ทั้งนี้ปกติแล้วเงินลงทุนที่นำมาใช้ทำนานั้นผู้ตายได้กู้มาทั้งหมด เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก็จะนำเงินไปใช้หนี้ซึ่งเป็นหนี้นอกระบบ  ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรงงาน ค่ารถเกี่ยว  และยังหนี้อื่นๆอีก รวมแล้วประมาณ 150,000 บาท  ส่วนที่เหลือก็จะเก็บไว้ใช้จนกว่าทำนารอบใหม่ เป็นอย่างนี้มาตลอด อย่างไรก็ตามล่าสุดนางบุญเหลือยังป่วยเป็นมะเร็งกระดูกอีก  จึงต้องนำเงินมารักษาตัว 

"ก่อนที่นางบุญเหลือจะเสียชีวิตได้บ่นกับเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องว่า ข้าวก็ยังเกี่ยวไม่ได้  และราคาข้าวก็ถูกลงอีกแล้วจะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้  เชื่อว่าคงเกิดความเครียดจนร่างกายทรุดและช็อคเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ ผ่านมา"นางสุกัญญากล่าว

ทั้งนี้ทางญาติๆได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยจะทำการสวดพระอภิธรรมศพ 3 คืน ก่อนจะนำไปเผาที่วัดปากท่อ  เนื่องจากไม่มีเงินที่จะจัดงานศพหลายคืน

นอกจากนี้ข้าวก็เพิ่งจะเกี่ยวเมื่อช่วงเช้าเพียงแค่ประมาณ 10 ไร่  ยังเหลืออีก 10 ไร่ยังเกี่ยวไม่ได้  คงจะต้องประมาณเดือน ก.ค.56 น่าจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้อีก  จึงไม่รู้ว่าจะได้เงินมาพอใช้หนี้ที่มีอยู่หรือไม่

ด้านนางหงส์  อ่อนละมูล อายุ 77 ปี  ชาวนา ในต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเกี่ยวข้าวได้เพราะยังไม่ครบกำหนด 120วัน จึงไม่ได้รับราคาจำนำที่ 15,000 บาทต่อตัน ซึ่งราคาจำนำที่รัฐบาลปรับลดเหลือ 12,000ตันนั้นทำให้ชาวนาขาดทุน เพราะขณะนี้ต้นทุนค่าปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และค่าจ้างต่างๆก็ได้ปรับขึ้นหมดแล้ว  

"ชาวนาส่วนใหญ่มีหนี้สินก็หวังว่าถ้าเกี่ยวข้าวได้เงินมาก็จะไปใช้หนี้  แต่กลับมาลดราคาอีกแล้วชาวนาจะเหลืออะไร  ทุกปีที่ผ่านมาก็จะทำแค่พอกินพอใช้ ไม่ได้มีเหลืออะไร อยากให้รัฐบาลชะลอไปก่อน  และให้ช่วยไปลดราคาค่าปุ๋ย ค่ายา และค่าจ้างด้วย เชื่อว่าชาวนาก็จะพอใจและรับได้ถ้าลดราคาจำนำลง"นางหงส์กล่าว

ด้าน นายคมสันต์  ประเดิมชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลลดราคาจำนำลงกลางฤดูกาลเก็บเกี่ยว เพราะชาวนานั้นต้องลงทุนไร่ละ 6,000-7,000 บาท แต่ผลผลิตที่ได้มานั้นเพียงและไร่ละ 50-60 ถัง เพราะสภาพอากาศที่แปรปรวน นอกจากนี้ชาวนายังมีระบบเรื่องของการทำนาโดยเฉพาะเรื่องของเก็บเกี่ยวนั้นก็ จะทำตามคิว ไม่มีการแซงคิวเช่นการนัดเกี่ยวข้าวถ้านัดวันนี้เมื่อยังเกี่ยวไม่ได้ก็จะ ต้องเลื่อนไป  ชาวนาคนอื่นๆก็จะต้องเลื่อนตามออกไปเรื่อยๆ  และราคาจำนำตอนนี้ก็ยังพอทำให้ชาวนาอยู่ได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว แต่ถ้าลดลงก็ลงจะไม่เหลืออะไร  เชื่อว่าอีกหน่อยต้องมีชาวนาฆ่าตัวตายเพราะเป็นหนี้ 

---

ชาวนาบุกทำเนียบ25มิ.ย.จี้รัฐคงราคาจำนำข้าว

จาก โพสต์ทูเดย์

ชาวนานัด บุกทำเนียบฯยื่นหนังสือ "ยิ่งลักษณ์" 25มิ.ย.นี้ จี้คงราคาจำนำ 15,000บาทถึงสิ้นฤดูกาลผลิตนี้ ให้เวลาตัดสินใจ7วัน ขู่ฟ้องศาลหากไม่ทำตาม 

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตัวแทนเกษตรกร เครือข่ายสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กว่า 40 จังหวัด นำโดย นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้ร่วมประชุมกับ นายวิทยา บุรณศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย , นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย , นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา , นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง

นายวิทยา กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุป 3 ข้อ คือ 1.ชาวนาต้องการให้คงราคารับจำนำข้าวเปลือกที่ตันละ 15,000 บาท ไว้ แต่หากจะปรับลดราคามาที่ตันละ 12,000 บาท ให้เริ่มในฤดูกาลผลิตหน้า และในฤดูกาลผลิตนี้ ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. ให้รับจำนำที่ตันละ15,000 บาทตามเดิม

2.ในส่วนของเงื่อนไข การสิ้นสุดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังรอบ 2 ในพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดลพบุรี ขอให้สิ้นสุดโครงการในสิ้นเดือนพ.ย.ปีนี้ เพราะมีการเพาะปลูกข้าวล้าช้ากว่าพื้นที่อื่น และ 3.ปัญหาอื่นนอกจากนี้ ให้นำเข้าคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติต่อไป

ด้าน นายวิเชียร กล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งทบทวนมติคณะรัฐมนตรี และเห็นใจชาวนาให้มากกว่านี้  เพราะต้นทุนการทำนาของเราสูงไร่ละเกือบ 7,000 บาท เพราะต้นทุนเรื่องปุ๋ยและยาฆ่าแมลง น้ำมันสูบน้ำเข้านา มีสูง และเมื่อปรับลำราคาลงที่ตันละ 12,000 บาท และเมื่อเมื่อหักความชื้นประมาณตันละ 3,000 บาท ทำให้เหลือราคาข้าวเพียงตันละ 9,000 บาท แต่ชาวนาเราไม่ได้ทำได้ได้ไร่ละ 1 ตัน แต่เรามีผลผลิตโดยเฉลี่ย ทำนา 3 ไร่ ได้ข้าว 2 ตัน เพราะฉะนั้นเราทำนา 3 ไร่ มีต้นทุน 21,000 บาท แต่ขายข้าวได้ 2 ตัน ราคารวม 18,000 บาท แบบนี้เราก็ขาดทุนแน่นอน หากจะปรับลดราคาข้าวลงก็ต้องปรับลดต้นทุนการผลิตลงได้ได้เช่นกัน และต้องเร่งจัดส่งน้ำเข้านาอย่างเพียงพอ ชาวนาจะได้ลดต้นทุนน้ำมันเพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำเข้านาเอง

"ในวันที่25 มิ.ย.นี้ชาวนาทั่วประเทศจะโดยสารรถบัส 40 คันมารวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เวลา 9.00 น.ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)  เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลกลับมาใช้ราคารับจำนำเดิมคือ 15,000 บาทจนสิ้นสุดรอบฤดูนาปรังปี 56 ในเดือนก.ย.ปีนี้ โดยจะให้เวลา 5-7 วันในการตัดสินใจ หากเลยกำหนดจะฟ้องศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ"นายวิเชียรกล่าว

ด้านนายสมชัย ไตรถาวร แกนนำชาวนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จริง ๆ ชาวนาต้องการให้คงราคาที่ 15,000 บาทไว้โดยตลอด และเมื่อมาปรับลดจะต้องเคลื่อนไหวกดดัน โดยวันที่ 25 มิ.ย.นี้จะมีตัวแทนชาวนาไปแสดงพลังที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และต่อไปจะมีชาวนาออกมาแสดงพลังบนท้องถนนในทุกจังหวัด

---

ชาวนาราชบุรีขู่ปิดถนนร้องลดราคาจำนำข้าว ผลผลิตยังไม่ได้เก็บเกี่ยว

จาก โพสต์ทูเดย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน เกษตรกรชาวนาในอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ประสบปัญหาหลังจากที่รัฐบาลประกาศลดราคาจำนำข้าวในราคา 1 ตัน ตันละ 15,000 บาท เหลือตันละ 12,000 บาท และได้ยืดเวลาการเปิดรับจำนำจนถึงวันที่ 29 มิถุนายนที่จะถึงนี้ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชาวนาเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตนำไปส่งโรงสีในพื้นที่ให้ทันระยะเวลาที่กำหนด แต่ที่อำเภอปากท่อ ขณะนี้ชาวนากำลังประสบปัญหาข้าวท้องแตกจํานวนมาก ซึ่งมีลักษณะลีบแบน ไม่มีเมล็ด บางเมล็ดยังเป็นน้ำนมข้าวอยู่ เนื่องจากประสบปัญหาเจอสภาพอากาศที่ชื้น ไปกระทบร้อน แล้วไปกระทบกับความชื้นอีก อีกทั้งยังไม่ครบกำหนดระยะเวลา 120 วันที่จะต้องเก็บเกี่ยว ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว ทําให้เกิดปัญหาอย่างมาก

นางเพลินพิศ ประทุม อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/1 หมู่ 4 ต.ปากท่อ กล่าวว่า ราคาข้าว 12,000 บาทอยู่ไม่ได้ น่าจะให้ 15,000 บาทให้จบฤดูนี้ไปก่อน แล้วปีหน้าค่อยว่ากัน ปีนี้ขอก่อน ถ้า 15,000 บาท ปีหนึ่ง หน้าหนึ่งไร่ละ 30 ถัง ลองคิดดูค่าจ้างฉีด ค่าปุ๋ยละเป็นพันบาท ค่ายา และอื่น ๆ อีก หักแล้วอย่าว่าแต่เหลือเลย เอาแค่พออยู่กินได้นิดหน่อยก็พอแล้ว ชาวนาไม่มีเงินเก็บ ไม่มีเงินออม ขอแค่ไม่กี่เดือน สิ้นฤดูกาลแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้เป็นหนี้ธนาคาร ธ.ก.ส.อยู่ 3 แสนบาท ทำนาอยู่ 22 ไร่ยังไม่ได้เกี่ยวเลย นัดเกี่ยววันนี้แต่เกี่ยวไม่ได้เพราะฝนตก ความชื้นเยอะ แทนที่จะได้ 15,000 บาทก็ไม่ได้อีก เหลือ 12,000 บาทก็ไม่ได้อีก

"ขณะนี้ยังมาเจอข้าวท้องแตกเยอะแยะ หนอนก็ระบาด เจาะคอรวงข้าวออกไปแล้วก็ลีบ ไม่มีน้ำหนัก เวลาเกี่ยวข้าวซึ่งมันร้อนจัด พอโดนฝนตกมากๆ จะแตกอย่างนี้ก็จะไม่มีเม็ด ไม่มีอะไรเลย บางส่วนได้เกี่ยวแล้ว แต่บางส่วนเกี่ยวไม่ได้ ส่วนที่บอกว่า ลงทุน 60 เปอร์เซ็นต์ ได้ 40 เปอร์เซ็นต์ ตอบว่าไม่มี ให้รัฐบาลลงมาทำดูซิว่าได้จริงไหมกับที่บอกว่า 60 และได้ 40 แต่ถ้าบอกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วเหลือ 10 เปอร์เซ็นต์คือเอาไว้กิน ถ้าเราไม่ได้ตามราคาที่ตกลง เราจะไปประท้วงแล้วจะปิดถนนวังมะนาว ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายทั้งหมดได้เดือดร้อนกันเต็ม ๆ " นางเพลินพิศกล่าว




ที่มา : มติชนออนไลน์

---

ชาวนาฟ้องโรงสีโกงจำนำข้าว

จาก โพสต์ทูเดย์

ชาวนาพิจิตรโร่ร้องโรงสีโกงจำนำข้าวจนแน่นโรงพัก ผบก.สั่งพนักงานสอบสวน30นายรับแจ้งความ

พล.ต.ต. กฤษณะ  ศิริปิยะวัฒน์  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ชาวนากว่า 100 รายทยอยเข้าแจ้งความถูกโรงสีแอล-โกลด์  แมนูแฟคเจอร์  จำกัด อ.โพธิทะเล  ได้ยักยอกข้าวขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ (อตก.) และฉ้อโกงข้าวเปลือกชาวนาที่นำไปจำนำในโครงการรับจำนำของรัฐบาลประจำปี 2555 และ 56 รวม 8 พันตัน จนแน่นโรงพัก
 
พล.ต.ต. กฤษณ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้จัดเตรียมพนักงานสอบสวนชุดเฉพาะกิจไว้ไว้จำนวน 30  นายเพื่อรับแจ้งความจากชาวนา พร้อมทั้งจะให้เร่งสรุปสำนวนเพื่อขออำนาจศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตร ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในการยักยอกทรัพย์ข้าวเปลือกและข้าวสารของ อตก. รวมถึงฉ้อโกงชาวนา ซึ่งผู้กระทำผิดล้วนเป็นคนภายในโรงสีแอล-โกลด์ฯ ซึ่งขณะนี้ได้ลงประจำวันแจ้งความร้องทุกข์เพื่อจะให้ดำเนินคดีแล้วจำนวน 20 คน ยังคงเหลืออีกหลายสิบคนที่รอเข้าคิวแจ้งความดังกล่าว
 
สำหรับ บรรยากาศที่ สภ.เมืองพิจิตร เป็นไปด้วยความวุ่นวายผสมกับความเครียดของชาวนาที่ต่างจับกลุ่มพูดคุยกันถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนถึงกับร้องให้เพราะมีหนี้สินหลายแสนบาท แต่ต้องมาถูกโกง บางรายก็บอกว่าตอนนี้ฝนตกแล้วจะเริ่มทำนาครั้งใหม่ก็ไม่มีทุนเพราะเจ้าหนี้ ไม่ยอมให้เครดิตเพิ่มทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่าน้ำมันรถไถ รถอีแต๋น สร้อยแหวนเงินทองที่มีก็เข้าโรงจำนำไม่เว้นแม้แต่ทะเบียนมอเตอร์ไซด์ของลูก ที่ใช้ขี่ไปโรงเรียน ที่สำคัญเงินค่าซื้อกับข้าว ซื้อข้าวสาร ค่าขนมลูกไปกินที่โรงเรียนรายวันก็ไม่มี ชาวบ้านที่จับกลุ่มหลายคนที่ผ่านมาเห็นก็ต้องสงสารใบหน้าต่างปราศจากรอยยิ้ม มีแต่ความเครียด ซึ่งทุกคนก็ต่างให้กำลังใจกันและกันว่าอย่าคิดสั้นปีหน้าฟ้าใหม่ก็สู้กัน ใหม่

---

ม็อบแดงบุกปชป.โวยค้านจำนำข้าว

จาก โพสต์ทูเดย์

ม็อบแดงบุกปชป.จี้หยุดเลิกเล่นการเมืองค้านจำนำข้าวทำชาวนาเสียประโยชน์  ขู่ไม่หยุดเจอกดดันต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. กลุ่มคนสวมเสื้อแดง ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนพี่น้องเกษตรกรชาวนาไทยระบุว่าเป็นชาวนาจาก จ.กาญจนบุรีและราชบุรี ประมาณ  50 คน เดินทาง เดินทางมาที่ยังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมจอดรถปิดทางเข้าพรรคเพื่อประท้วงการออกมาคัดค้านโครงการจำนำข้าวของ พรรคประชาธิปัตย์ โดยกลุ่มเสื้อแดงบางส่วนได้ไปยืนถือป้ายข้อความโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคพร้อมตะโกนด้วยถ้อยคำที่หยาบคายอยู่เป็นระยะ และมีชายผู้หนึ่งนำหัวกระโหลกควายมาทำท่ากินฟางที่หน้าพรรค

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมบนรถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงได้อ่านแถลงการณ์ ให้นายอภิสิทธิ์  โดยตั้งคำถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยช่วยเหลือชาวนาให้มีรายได้มากขึ้นหรือไม่ และในยุคราคาข้าวตกต่ำสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ทำไมไม่แก้ไข รวมทั้ง ทำไมไม่คิดแก้ปัญหาต้นทุนการผลิต  อีกทั้งโ ขอให้นายอภิสิทธิ์หยุดพฤติกรรมเล่นการเมืองเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ซึ่งไม่ส่งผลดีกับชาวนาไทย หากยังไม่ทำตามจะดำเนินการกดดันอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะสลายตัวไปในที่สุด  โดยขึ้นรถตู้และรถบัสออกไป

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่มาส่วนใหญ่สวมเสื้อสีแดงที่มีข้อความว่า “ลูกคนเมืองต่อต้านเผด็จการ FM 104”  เมื่อสื่อมวลชนได้เข้าถ่ายภาพและทะเบียนรถมีชายฉกรรจ์ในกลุ่มเดินมาข่มขู่ สื่อฉบับหนึ่งให้ลบคลิปออกและข่มขู่ว่า ให้ระวังตัวไว้ให้ดี จะจำหน้าไว้ แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกินขึ้น

---

เสื้อแดงจี้ประชาธิปัตย์ หยุดโจมตีจำนำข้าว

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คนเสื้อแดง ย้ำเป็นตัวแทนชาวนา บุกประชาธิปัตย์ โชว์ซากหัวควายกินหญ้า จี้"อภิสิทธิ์"หยุดโจมตีนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวราบงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่อ้างว่าเป็นตัวแทนพี่น้องเกษตรกรชาวนาไทยระบุว่าเป็นชาวนาจากจ.กาญจนบุรีและราชบุรี พร้อมรถกระบะติดเครื่องเสียง กว่า 50 คนเดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยจอดรถปิดทางเข้าพรรคเพื่อประท้วงแนวทางการตรวจสอบโครงการจำนำข้าวของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมารับข้อเสนอ 4 ข้อคือ 1.พรรคประชาธิปัตย์เคยช่วยเหลือชาวนาใหัมีรายได้มากขึ้นหรือไม่ 2.ราคาข้าวตกต่ำในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ ทำไมไม่แก้ไข 3.ราคาปุ๋ย พันธุ์ข้าวแพงในยุครัฐบาลประชาธิปัตย์ ทำไมไม่เคยคิดลงต้นทุนการผลิตให้ 4. ตอนเป็นรัฐบาลทำไมไม่ทำโครงการจำนำข้าว แต่กลับมาวิจารณ์โครงการนี้ของรัฐบาลเพื่ออะไร และหากไม่ทำตามจะดำเนินการกดดันอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่พรรค โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้กล่าวปราศรัยโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมใช้สัญลักษณ์หัวกระโหลกควายกินหญ้า กินฟางที่เอามากองที่พื้นด้านหน้าพรรค โดยแกนนำที่ปราศรัยบนรถระบุ ว่าเป็นแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้เวลาในการปราศรัยปิดหน้าพรรคราว 30 นาที และมีรถตู้และรถบัสใหญ่ ทะเบียนจ.กาญจนบุรีมารอรับที่ต้นถนนเศรษฐศิริ ทั้งนี้น่าสังเกตว่า กลุ่มคนที่มาส่วนใหญ่สวมเสื้อสีแดงที่มีข้อความว่า "ลูกคนเมืองต่อต้านเผด็จการ FM 104"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางซื่อ ได้นำกำลังส่วนหนึ่งมาดูแลความเรียบร้อย และนำรั้วแผงเหล็กมากั้น ไม่ให้กลุ่มเกษตรกรชาวนาไทยเข้าไปภายในพรรค จึงได้ปราศรัยโจมตีอยู่ด้านหน้า ทำให้การจราจรเคลื่อนตัวช้า

---

ชาวนาพะเยาจี้รับจำนำข้าว1.5หมื่น

จาก โพสต์ทูเดย์

ม็อบชาวนาพะเยาบุกศาลากลางรอบ2เรียกร้องให้รัฐบาลรับจำนำข้าวตันละ1.5หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.นายสมชาย เข็มเพชร นายกสมาคมเกษตรกร อ.จุน จ.พะเยา พร้อมเครือข่ายเกษตรกรชาวนาจ.พะเยาจาก 9 อำเภอ ประมาณ 5 พันคน ชุมนุมบริเวณข้างศาลาประชาคม ภายในศูนย์ราชการจังหวัดพะเยา เพื่อสนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย(พท.) ดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวต่อไป ตลอดทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลคงราคารับจำนำข้าวไว้ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท

นายสมชาย นายกสมาคมเกษตกร แกนนำผู้ชุมนุมครั้งนี้ขึ้นปราศรัยบนเวที ว่า ตั้งแต่ปี 2551-2556 เคยประสบปัญหาเรื่องราคาข้าวถูกเพราะพ่อค้าคนกลางกดราคาซื้อมาโดยตลอด การประกันราคาของรัฐบาลชุดก่อนก็ดี แต่ไม่ถึงขั้นทำให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้เท่ากับการจำนำข้าวของรัฐบาลชุด ปัจจุบัน  เพราะเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นเต็มที่ ปลดหนี้ได้ มีเงินส่งลูกหลานเรียนหนังสือ ซื้อรถไถมาทำนา ซื้อรถยนต์ใช้ ฯลฯ สารพัดประโยชน์ และชาวนามีเงินใช้จ่ายทำให้กระตุ้นเศรษฐกิจยิ่งขึ้น

“การเปิดเวทีในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ 2 ประการ คือ 1.ขอสนับสนุนรัฐบาลให้ดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวต่อไป และ 2.ขอให้รัฐบาลกำหนดราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปรังและนาปีไว้ที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท โดยไม่มีการปรับลด ซึ่งในการชุมนุมครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมของการแสดงพลังชาวนาจากภูมิภาคคู่ ขนานกับพี่น้องชาวนาทั่วประเทศที่ส่งตัวแทนไปพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องขอให้ไม่ปรับลดราคารับจำนำข้าวลงในวันพรุ่งนี้” นายสมชาย กล่าว

นอกจากนี้มีรายงานอีกว่า หลังจากที่แกนนำได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นไปปราศรัยบนเวทีชั่วคราว จนถึงเวลา 12.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้เดินทางมาพบและรับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุมโดยรับปากจะนำข้อเสนอยื่นถึง รัฐบาลตามที่เกษตรกรเรียกร้องต่อไป จากนั้นผู้ชุมนุมได้สลายการชุมนุมไป

---

ชาวนาเหนือต้านนิด้าโพลปมจำนำข้าว

จาก โพสต์ทูเดย์

เครือข่ายชาวนาภาคเหนือประท้วงโพลนิด้าปมรับจำนำข้าวแจ้งความกองปราบข้อหาดูหมิ่นรัฐบาล

นายภูตะวัน สุพรรณบุรี ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวนาภาคเหนือ กล่าวว่า ในวันนี้(24มิ.ย.) ทางเครือข่ายจะไปยื่นหนังสือประท้วงสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) กรณีทำการสำรวจเรื่องการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เพราะเห็นว่าไม่มีความเหมาะสม และสมควรให้ยกเลิก เพราะนิด้า มีอคติกับรัฐบาล บิดเบือนในข้อเท็จจริงบางประการ เพราะโครงการนี้เป็นประโยชน์แก่ชาวนา และวันเดียวกันนี้ เวลา 13.00 น.กลุ่มจะเดินทางไปยัง กองปราบปราม เพื่อแจ้งความเอาผิด นิด้า อีกด้วย ฐานดูหมิ่นรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าวเช่นเดียวกัน

---

ฟ้อง"ปปช."รับคำร้องหมอวรงค์สอบทุจริตจำนำข้าว

จาก โพสต์ทูเดย์

กลุ่มชาวนาภาคเหนือควงทนายร้องกองปราบฟ้อง "ปปช."รับคำร้องหมอวรงค์สอบทุจริตจำนำข้าว อ้างเป็นคู่ปรปักษ์กับพรรคเพื่อไทย

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ทนายความ พร้อมด้วยผู้แทนชาวนาจาก จ.พิษณุโลก และกลุ่มเกษตรกรภาคเหนือ เข้าพบ พ.ต.ท.ทองศูนย์ อุ่นวงศ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความกล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และคณะ รวม 13 คน ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยทำหนังสือร้องทุกข์ และเอกสารที่เกี่ยวข้องมอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณา ดำเนินคดี

นายหนึ่งดิน กล่าวว่า กรณีที่ผู้แทนชาวนาจาก จ.พิษณุโลก เข้าแจ้งความกล่าวโทษในครั้งนี้ เนื่องจากคณะกรรมการ ปปช.มีมติร่วมกันในการรับคำร้องของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นเรื่องขอให้ ปปช.ให้ตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว รวมถึงการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และยังร้องเรียนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้วย แต่ ปปช.ไม่สามารถรับเรื่องไว้เพื่อพิจารณาได้ เนื่องจาก นพ.วรงค์ เป็น สส.ที่สังกัดพรรคการเมืองที่เป็นคู่กรณีกับพรรคเพื่อไทย

นายหนึ่งดิน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของ นพ.วรงค์ ก็มีเจตนาทำลายล้างพรรคเพื่อไทย ดังนั้น การที่ ปปช.รับพิจารณาเรื่องจากผู้ที่เป็นปรปักษ์กับพรรคเพื่อไทย จึงเป็นการรับไต่สวนคำร้องโดยมิชอบ นอกจากนี้ในกรณีของการรับจำนำข้าวนั้น ก็เป็นการขาดทุนเพื่อกำไรให้กับชาวนา ไม่ได้ทำให้ภาครัฐเสียหายจากงบประมาณที่มีอยู่ จึงอยากขอวิงวอนว่าอย่านำเรื่องความทุกข์ยากของชาวนา มาเป็นประเด็นการเมือง การหากินกับชาวนานั้นชอบธรรมหรือไม่ จึงขอให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินคดีกับคณะกรรมการ ปปช.ดังกล่าว และขอให้มีการระงับเรื่องร้องเรียนของ นพ.วรงค์ ด้วย

ด้าน พ.ต.ท.ทองศูนย์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้และสอบปากคำผู้ร้องไว้ในเบื้องต้น ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

อนึ่ง นายหนึ่งดิน ได้เป็นทนายความให้กลุ่มเสื้อแดงในการเคลื่อนไหวหลายครั้งที่ผ่านมา

---

อภิสิทธิ์'ประกาศปชป.ไม่เอาจำนำข้าว

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"อภิสิทธิ์"ประกาศปชป.ไม่เอาโครงการจำนำข้าว เชื่อทำโครงการอื่นไม่ทำให้เงินชาวนาหายไปเป็นแสนล้าน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel กรณีรองโฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาท้าว่า หากประชาธิปัตย์แน่จริง ให้ประกาศให้ชัดเจนว่า ไม่เอาโครงการจำนำข้าว เพื่อประชาชนจะได้รู้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ว่า ประกาศชัดเจนว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาโครงการจำนำข้าว แต่ว่าชาวนาจะได้ประโยชน์ไม่น้อยกว่าที่ได้จากโครงการจำนำข้าวที่รัฐบาลนี้ทำ

เพราะเราไม่ทำเงินตกหายไปเป็นแสนล้านครับ เพราะฉะนั้นเวลาพรรคเพื่อไทยไปพูดก็ให้พูดให้ครบว่า จะจำนำข้าว ใช้เงินปีละ 2 แสนกว่าล้าน เพื่อให้เงินชาวนาแสนกว่าล้าน ประชาธิปัตย์จะยกเลิกจำนำข้าว ให้เงินแสนกว่าล้านแก่ชาวนาตามกรอบเวลา 3 ฤดูกาลที่เขาใช้คำณวนเหมือนเดิม แต่ไม่ทำเงินหายแสนกว่าล้านบาท พิสูจน์ฝีมือกันไปเลย 4 ปีแต่ว่าต้องบอกความจริงกับประชาชน แล้วก็อย่าไปทำไอ้เรื่องที่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่ได้มอบให้ไปทำ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่า รัฐบาลจะทำคู่มือชี้แจงประชาชนเกี่ยวกับการปรับลดราคาจำนำ จะไปอธิบายกับชาวนาอย่างไร ซึ่งตนบอกว่าเอาเงินมา 2 บาท ให้ชาวนา 1 บาท ตกหล่นไป 1 บาท แทนที่จะไปเก็บไอ้ส่วนที่ตกหล่นกลับคืนมา กลับมาลดเงินให้ชาวนา ซึ่งวันนี้รัฐบาลยังไม่พูดความจริง ทั้งตัวเลขการขาดทุน งบประมาณที่จัดให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ขั้นตอนและราคา ในการระบายข้าว

รวมทั้งการทุจริต ซึ่งยังไม่ได้ยินอะไรจากรัฐบาลเลยเพราะฉะนั้นมันไม่ใช่แค่ความจริงที่จะบอกกับเกษตรกรชาวนา แต่ต้องบอกกับประชาชนทั่วประเทศด้วย เอาความจริงมาให้พวกเราดีกว่า แก้ไขปัญหาดีกว่าทั้งนี้ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เอาเรื่องโครงการจำนำข้าวมาเป็นเกมทางการเมือง ทำลายรัฐบาลเพื่อต้องการล้มรัฐบาล ตามที่โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวหา แต่แต่เรียกร้องให้เอาเงินแสนกว่าล้านนี้คืนมาให้กับประชาชน

---

สภาหอรอผลตรวจสต็อกข้าวก่อนขย่มรัฐบาล

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ประธานสภาหอการค้าไทยรอผลตรวจสอบสต็อกข้าว ก่อนกำหนดท่าที ยันราคารับจำนำควรเป็นไปตามราคาตลาดโลก

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า สภาหอการค้าไทยยังคงจับตาโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่ารัฐบาลจะมีมาตรการและการดำเนินการอย่างไรต่อไปภายหลังจากที่มีการปรับลดราคารับจำนำข้าวเหลือตันละ 12,000 บาทไปแล้วก่อนหน้านี้

ส่วนกระแสข่าวที่มีการทุจริตโครงการ เช่น ในเรื่องของข้าวหายไปจากสต็อกของรัฐบาล คงต้องรอการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนจึงจะสามารถให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ได้

สำหรับการกำหนดราคารับจำนำข้าว นายอิสระ กล่าวว่า สภาหอการค้าไทยยังยืนว่าราคารับจำนำข้าวที่เหมาะสมคือ ราคาที่สอดคล้องกับราคาตลาดโลก

ส่วนการอุดหนุนราคาข้าวที่รัฐบาลจะให้เพิ่มเติมกับชาวนา ควรเป็นงบประมาณที่จัดสรรในการพัฒนาการผลิตและปลูกข้าวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือที่ได้ผลดีในระยะยาวมากกว่า

มีรายงานว่า ในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการหอการค้าไทยจะมีการประชุมเพื่อพิจารณา และติดตามผลการตรวจสอบสต็อกข้าวของรัฐบาลที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 มิ.ย.2556 เพื่อพิจารณาว่าข้อมูลที่ได้จากการตรวจสต็อก ก่อนจะมีการกำหนดข้อเสนอแนะ และท่าทีในเรื่องดังกล่าวต่อไป

---

ธกส.ตุนหมื่นล้านลดดบ.3%ซับน้ำตาชาวนา

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ธ.ก.ส.เตรียมสินเชื่อวงเงิน 1 หมื่นล้าน พร้อมลดดอกเบี้ยให้อีก 3% ซับน้ำตาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเสียสิทธิจำนำข้าวในราคา 1.5 หมื่นบาทต่อตัน

นายบุญไทย แก้วขันตี รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ธนาคารได้พิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดราคารับจำนำข้าวจาก 1.5 หมื่นบาทต่อตันเหลือ 1.2 หมื่นบาทต่อตัน โดยเตรียมวงเงินสินเชื่อให้แก่เกษตรกรกลุ่มดังกล่าวจำนวน 1 หมื่นล้านบาท พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยลงจำนวน 3% ต่อปี จากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดีอยู่ที่ 7% ต่อปี

ทั้งนี้ เท่าที่สำรวจเบื้องต้น มีจำนวนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจำนวนประมาณ 2 แสนรายที่คาดว่า จะไม่สามารถเข้าโครงการรับจำนำในราคาเดิมได้ โดยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังที่ขึ้นทะเบียนเข้าโครงการมีจำนวนประมาณ 5 แสนราย จำนวนข้าว 7 ล้านตัน คิดเป็นวงเงิน 1.05 แสนล้านบาท ที่ผ่านมา มีเกษตรกรเข้าโครงการแล้วประมาณ 3 แสนราย จำนวนข้าว 4 ล้านตัน เป็นเงินกว่า 6 หมื่นล้านบาท

"วงเงินที่เราตั้งไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาทนั้น หากไม่เพียงพอก็สามารถเพิ่มเติมได้ โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลหลังรัฐบาลเริ่มใช้ราคารับจำนำที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งในส่วนต้นทุนที่ธนาคารได้เข้าไปช่วยเหลือนั้น รัฐบาลจะพิจารณาชดเชยให้”เขากล่าวและว่า ทั้งนี้ สินเชื่อที่เพิ่มให้นั้น มีเงื่อนไขว่า เกษตรกรจะต้องนำไปใช้เพื่อปลูกข้าวในฤดูการผลิตถัดไปเท่านั้น"

---

ภูมิธรรม'ย้ำเร็วเกินไปโจมตีจำนำข้าว

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ภูมิธรรม"ยันรัฐบาลเดินหน้าจำนำข้าว พร้อมหารือรักษาประโยชน์ชาวนา ระบุ2ปีเร็วเกินไป อย่าด่วนสรุปจำนำข้าวฉุดเรตติ้งรัฐบาล

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทาง FM. 97.0 MHz. ถึงโครงการจำนำข้าว และการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งถือเป็นจุดตายของรัฐบาล ว่า ไม่เห็นด้วย เพราะอยู่ที่การประเมินที่ถือเป็นจุดตาย และจุดเสริมมากกว่า ซึ่งในการประชุมวงกาแฟเล็กๆ วานนี้ (23 มิ.ย.) ได้เชิญผู้ที่ห่วงในสถานการณ์บ้านเมืองมาหารือ ซึ่งกระบวนการมีทั้งโต้แย้งและคัดค้านมาตลอดว่าห่วงเรื่องทุจริต

แต่ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศจำนำข้าวอยู่ที่ 12,000 บาท ซึ่งก็เป็นสิทธิของชาวนาที่จะออกมาบอกเล่าถึงความทุกข์ เราก็ไม่ถือว่าวิกฤติ รัฐบาลยังยืนยันเรื่องนโยบายจำนำข้าว มั่นใจ และจะเดินหน้าต่อไปเพื่อสนับสนุนชาวนา ซึ่งการจำนำข้าวไม่ใช่เรื่องกำไร ขาดทุน แต่เป็นการสนับสนุนชาวนาว่าสิ่งที่กระทำไปมีผลต่อการจำนำข้าว และเงินส่วนใหญ่ให้กับชาวนา เมื่อรัฐบาลประกาศตัวเลขเพื่อสร้างสมดุลที่ชาวนาเป็นผู้ผลิต สมดุลด้านราคาขาย และการปรับลดราคาข้าวต้องคำนึงถึงราคาตลาดโลกที่ปรับลดด้วย ไม่ได้มีปัญหาหรือกังวลใจที่ชาวนาจะเข้ามา เพราะเป็นการเข้ามาเพื่อบอกเล่าทุกข์ซึ่งเป็นเรื่องดี แต่อย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย รัฐบาลยังยืนที่จะรักษาประโยชน์ของชาวนา

ส่วนที่ว่าการเปลี่ยนนโยบายเพราะเหตุใดจึงไม่ถามชาวนาก่อน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถามหรือไม่ถามอยู่ที่การตัดสินใจ ราคาที่เป็นจริงก็เป็นส่วนหนึ่ง เมื่อทำไปอาจจะมีอะไรที่ไม่พอดีก็คุยกันได้ ไม่ถือว่าเป็นการเตะปลายคาง รัฐบาลไม่มีอะไรที่ต้องรักษาหน้า หรือยืนยันในสิ่งที่เราคิดอย่างเดียว บนพื้นฐานประโยชน์ชาวนาและประเทศ เราสามารถคุยกันได้ ไม่ใช่ตัวเลข 15,000 บาท แต่ต้องมาคุยกันว่าประโยชน์คืออะไร

"การขึ้นหรือการลด การกำหนดราคา ขึ้นอยู่กับกลไกทุกอย่างที่ต้องมาดูกัน เพื่อช่วยเหลือชาวนา และต้องมาดูกันว่าถ้าปรับกระบวนการ ปรับระบบ การทุจริต ไม่ใช่แสวงหากำไรขาดทุน เชื่อว่ามีทางออก การที่ชาวนามาก็เป็นเรื่องดี จะได้มาคุยกันโดยไม่มีการเมืองที่หวังทำลายกัน ปัญหาแก้ได้ รัฐบาลยืนยันว่าการทุจริตคอรัปชั่นในโครงการจำนำข้าว จะยอมไม่ได้ต้องไม่มีการลูบหน้าปะจมูก แต่ต้องยอมรับว่าการจัดการปัญหาใหญ่ๆ มีปัจจัยแวดล้อมมากมาย ซึ่งในฐานะผู้ปฏิบัติก็ต้องน้อมรับและต้องจัดการให้ได้" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว

เมื่อถามว่า การรับจำนำข้าว 2 ปีผ่านไปกลับเป็นนโยบายที่ฉุดเรตติ้งรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องจำนำข้าวเป็นเรื่องใหญ่ที่ยากลำบาก แต่มีเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่ของประเทศ เราเกิดขึ้นท่ามกลางคนที่เสียเปรียบ แต่ก็มีการฉุดรั้งฉุดขา เวลาเพิ่งผ่านไป 2 ปี ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้น เร็วเกินไปที่จะสรุปและโจมตี ควรปล่อยให้เวลาเดินไปให้ครบเทอม 4 ปี รัฐบาลมีหน้าที่พิสูจน์ว่าบั้นปลายชาวนาได้ประโยชน์จริงหรือไม่

---

'เฉลิม'เอาอยู่ม็อบชาวนาค้านลดราคาจำนำ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เฉลิม"โวถ้าเป็นรมว.พาณิชย์ จะโต้ปมจำนำข้าวแบบช็อตต่อช็อต อัดปชป.ขี้อิจฉาทำให้เป็นประเด็นการเมือง มั่นใจ"เอาอยู่"ม็อบชาวนาค้านลดราคารับจำนำ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการเข้ามาชุมนุมของกลุ่มชาวนาในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ ว่า ไม่มีอะไรเพราะกลุ่มชาวนาแค่มาแสดงความจำนงค์ให้คงราคารับจำนำข้าว 15,000 บาท/ตัน ซึ่งก็ต้องฟังข้อเสนอ มั่นใจว่ารับมือได้ เพราะไม่ได้มาไล่รัฐบาล ส่วนการเตรียมกำลังตำรวจไว้สามกองร้อยนั้น เป็นเพียงการเตรียมพร้อม เพราะดูจากบทเรียนครั้งก่อน พวกเดิมๆที่เดินสีลมอยู่ดีๆ อยู่ๆก็บุกมาทำเนียบรัฐบาล

ส่วนจะกระทบกับฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ใช่ทีมเศรษฐกิจ จึงแสดงความเห็นไม่ได้ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจ ว่าเรื่องมันยุ่งทั้งหมด เกิดจากพรรคประชาธิปัตย์อิจฉา ทำให้เป็นประเด็นเรื่องการเมืองตลอด ตนไม่มีหน้าที่ในการชี้แจง

"ถ้าสมมติว่าผมเป็นรมว.พาณิชย์ จะชี้แจงแบบหมัดต่อหมัด ช็อตต่อช็อต เพราะรับจำนำข้าวยังไงต้องขาดทุนอยู่แล้ว แต่ชาวนาได้ประโยชน์ ไม่เหมือน ปรส. 9 แสนล้าน แต่ขายได้แค่แสนเจ็ดหมื่นล้าน นั่นคือมหาโจร คนรับผิดชอบก็ติดคุกไปแล้ว แต่ข้าวไม่ใช่ ข้าวชาวนาได้ พอชาวนามีเงินก็มาซื้อของ "

ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ดูเรื่องการตรวจทุจริตคอรัปชั่นโครงการรับจำนำข้าวนั้น นายเฉลิม กล่าวว่า ต้องตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จทั้งระบบ เพื่อชี้ชัดว่าที่ไหนทำอะไรไม่ดีไม่งามไว้บ้าง ก็ผมบอกตำรวจแล้ว ให้เดินเครื่องเต็มที่ คนทำผิดต้องได้รับโทษ

---

จวกรัฐสองมาตรฐานม็อบข้าว

จาก โพสต์ทูเดย์

องอาจ"อัดรัฐบาลสองมาตรฐานม็อบข้าว จี้หยุดขวางม็อบค้าน เร่งปราบโกงข้าวจริงจังอย่าดีแต่พูด

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธานสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า  กรณีกลุ่มชาวนาจะเดินเข้ายื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เพื่อคัดค้านการปรับลดราคาจำนำข้าวจาก 15,000 บาทต่อตันเหลือ 12,000 บาทต่อตัน ในวันที่ 25 มิ.ย. นี้ นั้นพบว่า  รัฐบาลกลับใช้วิธีการปิดกั้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปล็อบบี้ชาวนาเพื่อไม่ ให้เดินทางเข้ามาที่กทม.

ทั้งนี้  พฤติกรรมดังกล่าวการปิดกั้นการแสดงออกที่จะระบายความทุกข์ยาก และเดือดร้อนของชาวนา และสองมาตรฐานต่างจากกลุ่มที่มาให้กำลังใจรัฐบาล ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ชาวนาได้แสดงออก ไม่อยากให้ทำผิดซ้ำ 2 หลังจากที่รัฐบาลนี้ได้ปกปิดตัวเลขการส่งออก และปริมาณข้าวแบบ จีทูจี ซึ่งที่สุดจะเป็นการทำผิดซ้ำซาก จึงขอให้รัฐบาลยอมรับความจริงและออกมาแก้ไขปัญหาในโครงการรับจำนำข้าวในทุก จุดดีกว่า 

นายองอาจ กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลประกาศจริงเอาจังกับการทุจริตโครงการจำนำข้าว ตรวจสอบโกดัง โดยเฉพาะโรงสีที่จ.พิจิตร นั้น  ถือเป็นการรฉวยโอกาสจากความผิดพลาดในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเองมาสร้าง ภาพเพราะเรื่องนี้เคยมีเกษตรกรออกมาร้องเรียนตั้งแต่ เดือน ส.ค.55  แต่กลับไม่แก้ไขปล่อยมาจนถึงขณะนี้ก่อนจะประกาศเอาจริงในช่วงนี้

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลระบุว่าความผิดพลาดเกิดจากเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยให้เกิดการทุจริต นั้น ทั้งที่จริงปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะช่องโหว่ในโครงการรับจำนำข้าวเอง  ทั้งนี้ ขอฝากให้รัฐบาลมีมาตราการช่วยเหลือเยียวยาชาวนาที่เดือดร้อนเป็นกรณีพิเศษ รวมถึงขอให้มีทีมกฏหมายช่วยเหลือต่อสู้คดีให้กับเกษตรกรที่เดือดร้อนด้วย มีมาตรการที่ชัดเจนไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยปาก

---

ปัด2มาตรฐานยันไม่ห้ามหน้ากากขาวชุมนุม

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

รัฐบาลปัด 2 มาตรฐาน ยันไม่ได้ห้ามหน้ากากขาวชุมนุม ย้ำทำได้หากอยู่ในกรอบกฎหมาย

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษก และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้รัฐบาลและกลุ่มคนของรัฐบาลยอมรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาวเพื่อแสดงความคิดเห็นต่าง เพราะเป็นสิทธิที่ย่อมกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ และควรยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวล้มเหลวว่า การชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มหน้ากากขาวสามารถทำได้และไม่เป็นเรื่องผิด เพราะทุกคนล้วนมีความคิดและทัศนคติที่ต่างกันไป ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ห้ามหรือเข้าไปขัดขวางการชุมนุมแต่อย่างใด

"ต้องขอให้ทุกคนยืนอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง กระทำการใดก็อย่าเดือดร้อนประชาชนผู้ไม่เกี่ยวข้อง หรือบ้านเมือง รวมไปถึงประเทศ ขณะนี้ปัญหาประเทศไทยส่วนใหญ่จะเกิดจากการมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำอะไรที่ไม่พอใจก็ออกมาประท้วง ออกมาชุมนุม เกลื่อนเมืองไปหมด"

ส่วนกรณีที่นายราเมศ มองว่ารัฐบาลปฏิบัติสองมาตรฐาน โดยปฏิบัติกับกลุ่มหน้ากากขาวไม่เหมือนกับกลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาลหรือคนเสื้อแดงนั้น มองว่า การปฏิบัติต่อประชาชนที่ออกมาเรียกร้องตามสิทธิเสรีภาพ รัฐบางไม่มีการดำเนินการสองมาตรฐานแน่นอน หากชุมนุมอย่างสงบ สันติ ไม่สร้างความเดือดร้อน รัฐก็เปิดโอกาสให้ทำได้อย่างเต็มที่ หากดำเนินการไม่อยู่ในกรอบก็ต้องมีกระบวนการเข้ามาดูแล และทุกคนก็ต้องปฏิบัติตนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่มีใครเหนือกว่าทั้งสิ้น การเรียกร้องของนายราเมศ ไม่ได้ทำให้เกิดความเสมอภาคแต่อย่างใด แต่กลับเป็นการออกมาเรียกร้องเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองมากว่า

ส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มการชุมนุมมีบทบาทมากในขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากการที่รัฐบาลบริหารงานล้มเหลว แต่เกิดจากการจุดชนวนของนักการเมืองบางพวก กลุ่มแกนนำต่างๆ ที่พยายามจะโค่นล้มรัฐบาลโดยอาศัยปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เช่น โครงการรับจำนำข้าวมาโจมตีรัฐบาลรายวัน อาจจะไม่แสดงท่าทีออกมาชัดเจน แต่ก็พยายามหาข้อมูลเท็จที่พอจะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในรัฐ นับเป็นการปลุกระดมโดยไม่ต้องออกแรง

"อ้างว่ารัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อประชาชน นโยบายของรัฐบาลล้มเหลวบ้าง รัฐกำลังทำเพื่อพวกพ้อง และทุจริตคอรัปชั่นต่างๆ นานา เพื่อเชื่อมโยงเข้าเกมการเมือง ถือว่าเป็นวิธีคิดที่ฉลาด ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ และเป็นกำแพงป้องกันเพื่อประโยชน์ของตนเอง"

---

ไม่เอา"บุญทรง"

จาก โพสต์ทูเดย์

ปรามชาวนาบุกทำเนียบฯแนะไปศาลากลางแทน

จาก โพสต์ทูเดย์

"จารุพงศ์"ปรามม็อบชาวนาบุกทำเนียบแนะรวมตัวศาลากลาง เผยให้นโยบายผู้ว่าฯ เข็น สส.-พณ.-ธกส.ลงพื้นที่เเจงปัญหาเกษตรกร

นายจารุงพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า ขอให้เกษตรกรชาวนาทบทวนการเคลื่อนไหวการเดินทางมาชุมนุมยังทำเนียบรัฐบาลใน วันที่ 25 มิ.ย.นี้ เพื่อคัดค้านการปรับลดราคาจำนำข้าวเหลือ 1.2 หมื่นบาทต่อตัน เนื่องจากเห็นว่าเกษตรกรชาวนาสามารถรวมตัวที่ศาลกลางจังหวัด เเละยื่นข้อเรียกเรื่องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อร้องเรียนปัญหาจาก โครงการรับจำนำข้าวได้ เพราะทางรัฐบาลยินดีรับฟังปัญหาของประชาชน โดยที่พี่น้องเกษตรกรไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทางมาถึงทำเนียบ รัฐบาล           

นายจารุพงศ์  กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ให้นโยบายต่อผู้ว่าราชการจังหวัดให้ลงพื้นที่ชี้แจงเหตุจำเป็นใน การปรับลดราคาจำนำข้าว โดยกำชับว่าการเดินทางลงพื้นที่ผู้ว่าฯ ควรนำ สส.ในพื้นที่ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และสำนักงานสหกรณ์ ลงพื้นที่ชี้แจงปัญหาต่อเกษตรกรชาวนาด้วย   

---

ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต