จากประชาชาติธุรกิจ
หมายเหตุ - ความเห็นชาวนาในพื้นที่ต่างๆ เกี่ยวกับกรณีที่ทางรัฐบาลมีแนวคิดจะปรับปรุงการรับจำนำข้าว โดยลดราคาจำนำเหลือตันละ 13,000 บาท หรืออาจให้ชาวนาแต่ละรายจำนำได้ไม่เกินวงเงิน 5 แสนบาท
ณรงค์ มงคลเวทย์
ทำนา 100 ไร่ อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา
หากมีการปรับลดราคาจริง จะส่งผลให้ชาวนาทั่วประเทศเดือดร้อน และราคาข้าวในท้องตลาดจะตกต่ำลงแน่นอน หากรับจำนำข้าวเปลือกที่ตันละ 15,000 บาท เมื่อชาวนาเกี่ยวไปเข้าร่วมโครงการและพบว่ามีความชื้นก็จะถูกตัดลดราคาอยู่แล้ว โดยจะจำนำได้เพียงตันละ 12,000 บาทเท่านั้น หากรัฐบาลลดราคารับจำนำมาที่ตันละ 13,000 บาท จะทำให้ข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวมาได้และมีความชื้น จะจำนำได้เพียงตันละ 10,000 บาทเท่านั้น เมื่อปรับลดราคารับจำนำลงราคาท้องตลาดทั่วไปจะลดราคาตามลงไปด้วยอย่างน้อยก็ตันละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท และช่วงนี้มีประกาศให้หยุดทำนาปรังรอบ 2 แล้ว และหยุดทำนาปรังรอบ 3 ในหน้าน้ำเหนือหลาก ทำให้ชาวนาสามารถทำนาได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น แบบนี้ชาวนาจะไปทำอะไรได้ จึงวิงวอนให้รัฐบาลทบทวนในเรื่องดังกล่าว
สุนันท์ คงคาสวัสดิ์
ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
รู้ว่ารัฐบาลทำโครงการรับจำนำข้าวแล้วขาดทุน แต่ก็ยังอยากได้เท่าเก่า เพราะของแพงขึ้นทุกอย่าง ทั้งปุ๋ย ค่า ยา โดยเฉพาะค่าแรงขึ้นเป็นสามร้อยบาท ตอนนี้ไม่ว่าจะจ้างคนตัดข้าวดีด ฉีดยาก็ขึ้นหมดทุกอย่าง แต่อย่างไรก็อยากให้รัฐบาลทำโครงการรับจำนำข้าวต่อไป
สมศักดิ์ ศรีมานพ
ทำนา 10 ไร่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
ผมเองรับจ้างปรับพื้นที่นาร้าง และนาปีให้เป็นนาปรัง โดยช่วงนี้ในหลายพื้นที่มีการทำนาปรังประสบความสำเร็จได้ผลเพิ่มขึ้นและราคาข้าวเปลือกถือว่าดี ทำนาปรังแล้วพอมีกำไร ทำให้เกษตรกรมาว่าจ้างเครื่องจักรเพื่อทำนาปรังกันจำนวนมาก เพราะราคาข้าวเปลือกจูงใจให้กล้าตัดสินใจ แต่หากราคาข้าวเปลือกลดลงและเข้าสู่การทำนาแล้วขาดทุน ต่อไปเมื่อคุณขับรถผ่านท้องทุ่งนา ก็คงกลับไปมองเห็นแต่หญ้าและวัชพืชแทน ต้นข้าวที่สวยงามหรือท้องทุ่งสีทองสวยงามคงไม่มีให้เห็น เพราะทำนาแล้วขาดทุน ใครจะทำ
จำนงค์ เขม้นกสิกรรม
ชาวนา อ.เมือง จ.นครสวรรค์
หากถามชาวนาคงไม่พอใจกับการลดราคารับจำนำข้าวเปลือกลงตันละ 2,000 บาท แต่ชาวนาไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรมากกว่านี้ได้ เนื่องจากชาวนาทั่วประเทศไม่มีความเข้มแข็งที่จะไปต่อรองกับรัฐบาลได้ รัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบายเอง แต่ก็อยากจะฝากไว้ว่าตอนหาเสียงกับประชาชนก็รับปากประชาชนว่ารับจำนำตันละ 15,000 บาท แต่พอรัฐบาลเลือกตั้งแล้ว สมประโยชน์แล้วก็มาต่อรองประชาชน การที่รัฐบาลทำอย่างนี้ทำไม่ถูก ประชาชนรับไม่ได้ และก็จะส่งผลกับรัฐบาลเองในอนาคต ก็จะไม่มีใครเลือกและไม่มีใครเชื่ออีกต่อไป เพราะการบริหารโครงการรับจำนำข้าวขาดทุน เป็นเรื่องของรัฐบาลต้องแก้ปัญหาเองอยากจะฝากไว้ว่าหากรัฐบาลจะลดราคารับจำนำข้าวจริง ควรจะหาทางช่วยเหลือประชาชนด้านอื่นๆ เช่น ลดภาระค่าครองชีพ ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมัน เพราะเดี๋ยวนี้ชาวนาทำนามีต้นทุนต่อไร่สูงมาก เดี๋ยวนี้จ้างคนทำนา หว่านปุ๋ย ก็ต้องไม่ต่ำกว่าวันละ 300 บาท เช่นกัน
อารีรัตน์ แสนดี
ชาวนาบ้านภูดิน ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
โครงการจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ใครจะพูดว่าอย่างไรก็ช่าง คนทำนาได้ประโยชน์ ขายข้าวได้ราคา การบริหารจัดการข้าวเป็นเรื่องของรัฐบาล และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ส่วนที่พูดกันว่าจะให้มีการลดราคาจำนำข้าว ตนไม่เห็นด้วย เพราะชาวนาเสียผลประโยชน์ รูปแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันดีอยู่แล้ว รัฐบาลทำงานในเรื่องนี้แล้วขาดทุน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาในเรื่องประกันราคาข้าวก็ขาดทุนเหมือนกันทำไมไม่พูดถึง ในเรื่องจำนำข้าวผลประโยชน์ชาวนาได้เต็มๆ ขอเพียงให้บริหารจัดการให้ดี ไม่มีการทุจริต โครงการนี้ก็จะไปได้ดี
ที่มา : นสพ.มติชน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
