สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปราโมทย์: ท้ารัฐเปิดข้อมูลระบายข้าว

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

อดีตบอร์ดกขช.ท้ารัฐเปิดข้อมูลระบายข้าว อย่าพยายามแก้ตัวแบบ"ศรีธนญชัย" ถามกลับเป็นความลับ "ผู้ค้า" หรือ "ความลับของโจร"

นายปราโมทย์ วานิชานนท์ อดีตคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)ให้สัมภาษณ์กรุงเทพธุรกิจทีวีในรายการ "Morning News" กรณีที่รัฐบาลไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลจำนำข้าว วานนี้ (10 มิ.ย.) ว่า ในฐานะที่เป็นอดีตคณะกรรมการนโยบายข้าว หรือกขช. ไม่ได้เป็นคนทำเพียงแต่รับทราบว่า ผลกำไรขาดทุนอย่างไร คิดว่าตรงนี้ เป็นขบวนปกติ ไม่มีกฎไม่มีระเบียบ ไม่มีหลักการ ว่าต้องขออนุมัติ กขช.ก่อนถึงจะเปิดเผยได้

"ความน่าเชื่อถือของตัวเลข เปรียบเทียบกันระหว่างรองปลัดกระทรวงการคลัง (สุภา ปิยะจิตติ) ประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ที่จริงเริ่มต้นตั้งแต่สมัยท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯใหม่ๆ ผมยังชื่นชมว่าเป็นคำสั่งที่ดี เพราะเป็นคำสั่งนายกฯแต่งตั้งนางสาวสุภา เป็นคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวเป็นรายปี เรายังชื่นชมเลยว่าที่ผ่านมารัฐบาลหลายรัฐบาลไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการปิดบัญชี เพราะพอปิดแล้วตัวเลขจะฟ้องว่าเสียหายเท่าไหร่"

ส่วนการเข้าไปตรวจสอบว่าขายไปเท่าไหร่ แล้วขาดทุนไปเท่าไหร่ นายปราโมทย์ กล่าวว่าโดยหลักการเป็นเรื่องที่ดีเป็นคำสั่งที่ดี คำถามคือเมื่อตรวจสอบแล้วต้องการรู้ว่าตัวเลขที่ออกมาขาดทุนเท่าไหร่ มีประสิทธิภาพหรือไม่ คุ้มค่าหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ เมื่อนางสาวสุภา สรุปออกมาเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลที่จะได้ทบทวนโครงการ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนด้วยว่าถ้าเสียหายอย่างนี้ คุ้มค่าหรือไม่ ตัวเลขที่ออกมาไม่เข้าใครออกใคร บังเอิญเรื่องนี้อาจจะไม่เป็นคุณกับรัฐบาล ก็เลยมีการปกปิดกัน ไม่อยากให้ตัวนี้เปิดเผยไป สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด สรุปบัญชี ทั้งหมด ขาดทุน 260,000 ล้านบาท

ส่วนตัวมองว่าตัวเลขนี้น่าเชื่อถือกว่าตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์ จริงๆแล้วเป็นตัวเลขที่แท้จริงของกระทรวงพาณิชย์ ถึงจะออกมาทำบัญชีได้ ถึงแม้สต็อกจะขายไม่หมด สินค้าคงคลังจะประมาณการได้ว่ามีราคาเท่าไหร่ ความจริงคือไม่สามารถขายสินค้าในโกดังของรัฐบาลได้สูงกว่าราคาตลาดแน่นอน

ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่าไม่สามารถสรุปตัวเลขได้ชัดเจน นายปราโมทย์ ย้ำว่าเป็นคำแก้ตัวแบบ"ศรีธนญชัย" คำถามถ้ากระสอบสุดท้ายยังไม่ออก ก็คาไว้ 5-10 ปี ก็สรุปบัญชีไม่ได้หรืออย่างไร ในทางบัญชีมืออาชีพ เขาทำได้ เขารู้ ถ้าเป็นวัตถุโบราณ ยิ่งนานปียิ่งมีคุณค่า ก็ไม่ใช่ แต่นี่เป็นสินค้าเกษตร ยิ่งนานยิ่งเสื่อมราคาเป็นประเด็นที่ว่าทำไมถึง"ดื้อแพ่ง"กันที่จะไม่ยอมเปิดเผยความจริง จริงๆแล้วก่อนที่จะระบายข้าว บอกว่าเป็น"ความลับ" พอยอมรับได้ แต่หลังจากที่ขายไปแล้ว ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เปิดเผยออกมาจะพบได้ไหมว่าตัวเลขที่ขาย ขายต่ำกว่าตลาด จนมีนัย มีข้อสงสัยว่าจะทุจริตหาประโยชน์จากส่วนต่างของราคาตรงนี้ แค่ไหน

ส่วนที่บอกว่าเป็นความลับของผู้ค้า นายปราโมทย์ กล่าวว่า "เป็นความลับของผู้ค้า" หรือ "ความลับของโจร" ถ้าเป็นความลับของผู้ค้า "ผมคิดว่าผมเป็นพ่อค้าคนหนึ่ง ซื้อจากรัฐบาลมา ผมก็บอกว่า ซื้อมาเท่านี้แหละ ถ้าตำรวจไปเจอ มันเป็นเท่านี้ ในฐานะที่อาสาเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน โดยเงินภาษีของประชาชน สรุปเลย การเปิดเผยข้อมูลไม่ได้ทำลายประเทศ แต่มันทำลายทุจริตคอร์รัปชัน ผมคิดว่าใครที่ปกป้องตัวเลขไม่เปิดเผย ส่อให้เกิดข้อพิรุธ ข้อสงสัย ของประชาชนว่า จะปกปิดการทุจริตคอร์รัปชันหรือไม่

"ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่พยายามปกปิดความจริงต่อประชาชน คำถามคือว่าใครเป็นรัฐบาลก็ตาม ถ้าโปร่งใสและสุจริต ผมว่าเอาตัวเลขให้ใครไปพูดในร้านกาแฟ ก็คือตัวเลขที่เป็นจริง ไปพูดในสื่อมวลชนในทีวี หรือแถลงข่าว ก็เป็นตัวเลขจริง ใครพูดแล้วมันไม่ตายหรอก แต่ถ้าตัวเลขไม่เป็นความจริง คนพูดก็เท่ากับสมคบกันทุจริตคอร์รัปชัน"

จริงๆมีอยู่ 2 ประเด็นประชาชนสงสัยว่า การขาดทุนของชาวนา อยู่ในวงเงินไม่เกิน 80,000 ล้านบาท ทำไมต้องขาดทุน 260,000 ล้านบาท แล้ว 260,000 ล้านบาท ขาดทุนอะไร การขาดทุนให้ชาวนา 80,000 ล้านบาท เป็นการขาดทุนโดยสุจริต กล้ายืนยันเลยว่าชาวนาราคาตลาดเขาขายให้โรงสีเท่าไหร่ เขาได้รับจากรัฐบาลเท่าไหร่ ธ.ก.ส.เป็นคนกลางบอกเองว่าชาวนาได้เพิ่มอีกตันละ 4,000 บาท คำนวณในปี2555 ทั้งนาปี นาปรัง ประมาณ 21 ล้านตัน ประมาณ 84,000 ล้านบาท ตัวเลขกลมๆ 80,000 ล้านบาท ชาวนาได้ไปก็รับได้


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view