จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"กิตติรัตน์"สั่งสบน.เร่งหาเงินกู้อีก 4 หมื่นล้าน "โปะจำนำข้าว"หวังให้จบโครงการ ขณะที่คณะกรรมการปิดบัญชี พร้อมแจงที่มาตัวเลขขาดทุน 2.6 แสนล.
หลังจากคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล กระทรวงการคลัง ออกมาประเมินผลขาดทุนข้าว 3 ฤดูกาลผลิตของรัฐบาลสูงถึง 2.6 แสนล้านบาท ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์หนักเวลานี้ เพราะความไม่ชัดเจนของการระบายข้าวจากโครงการรับจำนำ การส่งเงินคืนกระทรวงการคลังจากการระบายข้าว และคาดว่าโครงการนี้จะขาดทุนไม่ต่ำกว่า 2.6 แสนล้านบาท
ขณะที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังยืนยันว่าการจำนำข้าวยังอยู่ระหว่างดำเนินโครงการ จึงยังไม่มีการปิดบัญชี ซึ่งจะปิดบัญชีได้ต้องทราบผลการขายข้าวที่ได้จากการรับจำนำให้ชัดเจนก่อน คาดต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเริ่มเป็นภาระหนักต่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถึงเม็ดเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ทางธ.ก.ส.จะรายงานการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวปี 2554/55 ว่าได้ใช้เงินในการดำเนินการรวม 3.9 แสนล้านบาท เป็นข้าวนาปีจำนวน 1.8 แสนล้านบาท ข้าวนาปรัง 2.1 แสนล้านบาท
ส่วนฤดูผลิตปี 2555/56 ในรอบแรกรับจำนำผลผลิตข้าวอยู่ที่ 14 ล้านตัน วงเงิน 2.28 แสนล้านบาท และข้าวนาปรัง เบื้องต้นอยู่ที่ 3.5 ล้านตัน วงเงิน 5.2 หมื่นล้านบาท โดยธ.ก.ส.ได้สำรองจ่ายเพื่อใช้ดำเนินโครงการรับจำนำจำนวน 6.8 หมื่นล้านบาท จากวงเงินส่วนของ ธ.ก.ส.จำนวน 9 หมื่นล้านบาท รวมเงินกู้ 4.1 แสนล้านบาท โดยปี 2554/55 เงินกู้ทั้งสิ้น 2.69 แสนล้านบาท ธ.ก.ส.กู้เงินไปแล้ว 2.65 แสนล้านบาท ยังเหลือวงเงินกู้อีกประมาณ 4 พันล้านบาท
ธกส.ชี้อาจหยุดโครงการก่อนเหลือเงินน้อย
ขณะที่ปี 2555/56 มีวงเงินกู้ที่กระทรวงการคลังต้องจัดหาให้ ธ.ก.ส.จำนวน 1.5 แสนล้านบาท แต่ ธ.ก.ส.กู้ไปแล้วจำนวน 1.12 แสนล้านบาท ยังเหลือ 3.8 หมื่นล้านบาท เพื่อมาดำเนินโครงการต่อ ดังนั้นหากกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการจ่ายเงินจากการระบายข้าว และจัดหาเงินกู้มาให้ ธ.ก.ส.ตามกรอบเวลาที่กำหนด ธ.ก.ส.จำเป็นต้องหยุดจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่ยังเหลือเวลาอีก 4 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดฤดูผลิต แต่ขณะนี้ได้ออกใบประทวนไปแล้ว 4 ล้านตัน ดังนั้น ธ.ก.ส.สามารถจ่ายเงินจำนำข้าวได้แค่เดือน ก.ค.นี้เท่านั้น
สำหรับเงินระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์จ่ายคืนให้ ธ.ก.ส.ซึ่งระบุไว้ 1.2 แสนล้านบาทนั้น ในจำนวนนี้ เป็นเงินจากการระบายมันสำปะหลัง 8.2 พันล้านบาท และยางพาราอีก 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นเงินระบายข้าวเพียง 9.3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
"ช่วงนี้คงไม่มีการเสนอขยายกรอบวงเงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเพิ่มแน่นอน หลังจากมีตัวเลขขาดทุนออกมาถึง 2.6 แสนล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ก็ไม่สามารถอธิบายรายละเอียดการขาดทุนที่ชัดเจนได้ ทำให้นายกรัฐมนตรีไม่พอใจในการประชุมเมื่อเร็วๆนี้ เช่นเดียวกับนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถึงกับระบุว่าตัวเลขขาดทุนโครงการจำนำข้าวที่หลุดออกมาหากทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ คนที่ปล่อยตัวเลขก็จะอยู่ไม่ได้เช่นกัน "
สั่งสบน.เร่งหาเงินกู้เพิ่ม4หมื่นล้าน
แหล่งข่าว กล่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง ไม่พอใจปลัดกระทรวงการคลัง เป็นอย่างมากที่ มีตัวเลขผลขาดทุนโครงการจำนำข้าวเปลือกที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวจัดทำหลุดออกมา ขณะเดียวกัน มีคำสั่งให้สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ไปเร่งจัดหาเงินกู้วงเงินที่เหลืออีกประมาณ 4 หมื่นล้านบาท มาให้ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการรับจำนำจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาลผลิตนี้
นอกจากนั้น ในการประชุม กขช.ครั้งนี้ จะมีการจัดระเบียบการให้ข่าวเรื่องนี้ใหม่ โดยผู้ที่มีอำนาจให้สัมภาษณ์ได้นั้น ต้องเป็นกรรมการ กขช.เท่านั้น ขณะที่หน่วยงานอื่นๆไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เพื่อป้องกันข้อมูลที่ต่างกัน ส่วนการขยายกรอบวงเงินนั้นคงยาก แต่อาจจะกลับไปพิจารณาจำกัดวงเงินเข้าโครงการรับจำนำของเกษตรกร เช่น ไม่เกิน 5 แสนบาทต่อราย เพื่อไม่ให้วงเงินดำเนินโครงการรับจำนำมากเกินไปจนคุมไม่ได้ ยังอาจทำให้เกษตรกรไม่ได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะเกษตรกรที่มีพื้นที่นาและมีผลผลิตข้าวไม่มาก เมื่อเทียบกับเกษตรกรที่มีพื้นที่นาและผลผลิตจำนวนมาก ทำให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างไม่จำกัด
บอร์ดปิดบัญชีท้าประชุมแจงตัวเลข
ขณะที่รายงานข่าวจากคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล กล่าวว่าหากรัฐบาลหรือกระทรวงพาณิชย์ ไม่เชื่อข้อมูลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ของคณะกรรมการฯที่มีนางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน จะจัดให้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงให้ทราบถึงที่มาของตัวเลขผลขาดทุน รวมถึง กระบวนการในการคำนวณตัวเลข
แม้สต็อกข้าวในโครงการยังมีอยู่จำนวนมาก แต่กระบวนการรับจำนำใน 3 ฤดูกาลผลิตได้เสร็จสิ้นแล้ว สามารถคำนวณตัวเลขเพื่อปิดบัญชีได้ คณะกรรมการฯได้ใช้ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด ทั้ง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธ.ก.ส. มาคำนวณ เพื่อให้รับรู้ถึงผลการดำเนินโครงการทั้งหมด ผลก็ปรากฏว่าโครงการขาดทุนจำนวนมาก
ทั้งนี้ วิธีการคำนวณเป็นไปตามหลักการมาตรฐานทางบัญชีทุกประการ โดยนำรายได้จากการขายข้าว มาหักลบกับรายจ่ายที่เกิดขึ้น และนำสต็อกข้าวที่เหลือ มาคำนวณมูลค่า และนำไปหักทอน จึงเป็นผลการดำเนินงานสุทธิ ส่วนการคำนวณมูลค่าสต็อกข้าวที่เหลือ จะใช้ราคาอ้างอิงจากข้าวที่ได้ขายออกไป หากสามารถขายข้าวในสต็อกได้ราคา ก็จะช่วยลดการขาดทุนได้
"ได้ปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้ใน 3 ฤดูกาลผลิต คือข้าวนาปีและนาปรัง ปี 2554/55 และข้าวนาปี ปี 2555/56 ได้คำนวณรายรับและรายจ่ายของโครงการทั้งหมด ในส่วนผลขาดทุนที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะขายข้าวได้ในราคาต่ำเท่านั้น แต่ได้นับรวมรายจ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการทั้งหมด ทั้งการเก็บรักษาข้าว ค่าโกดัง ดอกเบี้ยเงินกู้ ค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับส่วนราชการ แม้รัฐบาลจะตั้งงบประมาณให้ส่วนราชการต่างหากแล้วก็ตาม"
โวยส่วนราชการปฏิเสธให้ข้อมูลกรรมการ
ที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศได้ปกปิดข้อมูลราคาขายข้าวต่อคณะกรรมการปิดบัญชี เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการก็ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล โดยบอกว่าผู้บริหารห้ามเปิดเผยข้อมูล คณะกรรมการฯจึงใช้วิธีการคำนวณผลขาดทุน จากจำนวนเงินที่กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งคืนให้ธ.ก.ส.จากนั้นก็นำไปหารกับจำนวนข้าวที่ได้ขายออกไป ถือเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับราคาที่กระทรวงพาณิชย์ขายออกไป และพบว่า เป็นราคาขายที่ต่ำกว่าราคาที่รัฐบาลรับจำนำจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก
ชี้คละข้าวต้นเหตุขายได้ราคาถูก
นอกจากนี้ คณะกรรมการปิดบัญชีฯ ยังได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ด้วยว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดผลขาดทุน เป็นเพราะการขายข้าวที่คละกันระหว่างข้าวเก่าและข้าวใหม่ ทำให้ไม่ได้ราคาขายที่ดี โดยข้าวบางส่วนจะเป็นข้าวที่เกิดขึ้นจากโครงการรับจำนำตั้งแต่ปี 2551 การนำข้าวเก่าออกมาขายไม่สามารถได้ราคาดีแน่นอน "การกระทำอย่างนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โครงการนี้มีปัญหา เท่ากับเป็นการเวียนเทียนข้าวออกมา หากรัฐบาลยังไม่เข้าไปดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง การขาดทุนก็จะยิ่งมีมากขึ้น"
ยันจำนำข้าวขาดทุน2.6แสนล้าน
สำหรับผลขาดทุนจากการดำเนินโครงการ 3 ฤดูกาลผลิตนั้น คณะกรรมการปิดบัญชีฯยืนยันผลขาดทุน ณ เดือนม.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 2.29 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการรับจำนำข้าวนาปีฤดูผลิตปี 2554/55 จำนวน 4.2 หมื่นล้านบาท การรับจำนำข้าวนาปรัง ปี 2554/55 จำนวน 9.3 หมื่นล้านบาท และการรับจำนำข้าวนาปีฤดูผลิตปี 2555/56 อีกจำนวน 8.4 หมื่นล้านบาท เมื่อนับรวมผลขาดทุนเฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท จนถึงสิ้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เท่ากับว่าผลขาดทุนโครงดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 2.6 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ผลขาดทุนดังกล่าวยังไม่ได้นับรวมค่าเสื่อมของข้าวในแต่ละปีที่อยู่ประมาณ 20% รวมถึง ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นระหว่างที่ยังไม่สามารถขายข้าวสต็อกได้ ซึ่งจะทำให้ผลขาดทุนโครงการดังกล่าวมีมากกว่านั้น
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต