สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รองปลัดก.ยุติธรรมร่วมพยัคฆ์ไพร ตรวจป่าสงวนแห่งชาติ หลังรับร้องเรียนนักการเมืองครอบครอง

จากประชาชาติธุรกิจ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 มิถุนายน พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม, พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี, พันโทกรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.), พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์การประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.4 กอ.รมน.) พันเอกประสาน แสงศิริลักษณ์ ผู้บังคับการ กอ.รมน.อุทัยธานี นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ร่วมกับชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรกรมป่าไม้, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง), สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 จ.นครสวรรค์, กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ทหาร กกล.รส.ประจำจ.อุทัยธานี, ฝ่ายปกครองอ.บ้านไร่, เจ้าหน้าที่ป่าไม้, พนักงานที่ดินอ.บ้านไร่, สปก.จ.อุทัยธานี อุตสาหกรรมจังหวัดอุทัยธานี และชุดปฏิบัติการโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันปราบปรามการบุกรุกและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ของ กอ.รมน.จ.อุทัยธานี รวมกว่า 100 นาย

โดยทั้งหมดร่วมกันบูรณาการเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่ ต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี จากกรณีมีกลุ่มทุนผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอุทัยธานี มีการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และมีการทำเหมืองแร่ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. และ สปก. ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นนั้นพบว่าที่ดิน น.ส.3 ก. ดังกล่าวนั้น ออกมากจาก ส.ค.1 จำนวน 11 แปลง ในเนื้อที่ 152 ไร่ และเพิ่มเป็นเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ และเมื่อตรวจสอบจากการแปลภาพถ่ายทางอากาศแล้วนั้น ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์ที่สอดคล้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งคาดว่าจะเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบด้วยกฏหมาย จึงทำการลงพื้นที่เข้าตรวจสอบยังพื้นที่เป้าหมาย



จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นนั้นพบว่า ที่ดินดังกล่าวนั้นมีหลักฐานหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3.ก) จำนวน 11 แปลง เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ ปัจจุบันมีชื่อของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง ซึ่งที่ดินมีความเป็นมาดังนี้ เดิมที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3.ก) จำนวน 11 แปลง ออกมาจากหลักฐานเดิมคือ แบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) ในชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ จำนวน 11 ราย และต่อมาได้มีการออกเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3.ก) จำนวน 11 แปลง ในชื่อของบริษัทเหมืองแร่แหลมชัย จำกัด โดยออกพร้อมกันในวันที่ 15 กันยายน 2525 ซึ่งมีนายสุพัฒน์ จรลีรัตน์ เจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดิน 5 ลงนามในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3.ก) แทนนายอำเภอบ้านไร่ จากนั้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2555 บริษัทเหมืองแร่แหลมชัย จำกัด ได้ทำการขายที่ดินทั้ง 11 แปลงให้กับ นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ (บุตรชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์) และต่อมาได้มีการจดทะเบียนโอนมรดกจาก นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ให้กับ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2558 โดยสภาพที่ดินดังกล่าวมีสภาพเป็นเหมืองเก่า สัมปทานบัตรขาดอายุ ปัจจุบันนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้มีการยื่นขอสัมปทานบัตร และอยู่ในระหว่างการพิจารณา

ซึ่งเมื่อมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วนั้นปรากฏว่า แบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) ได้ออกในนามชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ โดยตามหลักฐาน ส.ค.1 ทุกแปลงได้มีการระบุว่าครอบครองมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2490 และทุกแปลงระบุว่าเป็นที่นา แต่จากรูปถ่ายทางอากาศในปี พ.ศ.2496 และ พ.ศ.2518 พื้นที่ดังกล่าวนั้นมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ไม่ได้มีสภาพเป็นพื้นที่นาหรือปรากฏรูปกระทงนาในพื้นที่แต่อย่างใด และปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวนั้นยังอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอีกด้วย ประกอบกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3.ก) จำนวน 11 แปลงนั้นได้มีการรังวัดออกหลักฐานได้เนื้อที่มากกว่าที่มีการแจ้งไว้ในแบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) เช่น ส.ค.1 เลขที่ 264 เนื้อที่ 12 ไร่ ได้มีการนำออกมาเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3.ก) เลขที่ 1323 ได้เนื้อที่ จำนวน 61-2-00 ไร่  จะเป็นลักษณะนี้ทุกแปลง โดยเมื่อรวมเนื้อที่ ส.ค.1 ทุกแปลงแล้วนั้นรวมเนื้อที่ได้จำนวน 152 ไร่ แต่มีการนำไปออกเป็น น.ส.3.ก แล้วได้เนื้อที่ถึง 515 ไร่ (ซึ่งเรียกภาษาชาวบ้านว่า ส.ค.1 บวม) โดยหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3.ก) จำนวน 11 แปลง ออกมาจากแบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) เช่น ส.ค.1 ซึ่งไม่ตรงกับตำแหน่งเดิม (หรือที่ชาวบ้านเรียนว่า ส.ค.1 บิน) เพราะแจ้งว่าที่ดิน น.ส.3.ก นั้นมีพื้นที่ติดต่อกัน แต่เมื่อนำหลักฐาน ส.ค.1 มาต่อเป็นจิ๊กซอร์แล้วนั้นปรากฏว่า ข้างเคียงไม่มีความสัมพันธ์กัน


 
โดยศูนย์การประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.4 กอ.รมน.) ร่วมกับกรมป่าไม้ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าและการป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 64/2557 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2557 และ ที่ 66/2557 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 แผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวกลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง ซึ่งหลังจากลงพื้นที่สำรวจภาคพื้นดินพร้อมกับเก็บภาพมุมสูงทางอากาศแล้วนั้น จะดำเนินการประชุมหารือรวมรวมข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อดำเนินการสรุปผลผลการดำเนินงานอีกครั้ง




ที่มา : มติชนออนไลน์


#eosgear,#ถุงมือกันบาด,#อะไหล่ victorinox,#victorinox มือสอง,#cutting resistance glove,ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : รองปลัดก.ยุติธรรมร่วมพยัคฆ์ไพร ตรวจป่าสงวนแห่งชาติ หลังรับร้องเรียนนักการเมืองครอบครอง

view