สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เวียดนามผนึก โมซัมบิก รักษาแชมป์ ส่งออก เม็ดมะม่วงหิมพานต์

จากประชาชาติธุรกิจ

"อุตสาหกรรมเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ของเวียดนาม ถือเป็นหนึ่งสินค้า "เกษตร" ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า ทำให้เม็ดมะม่วงหิมพานต์กลายเป็น "พืชเศรษฐกิจ" สำคัญของประเทศที่มียอดส่งออกมากเป็นอันดับต้น ๆ รองจากข้าว ยางพารา และกาแฟ

ไซ่ง่อน ไทมส์ รายงานข้อมูลสมาคมผู้ผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนาม (Vinacas) ระบุว่า ระหว่างปี 2549-2558 เวียดนามเป็นผู้นำเข้าผลมะม่วงหิมพานต์ที่ยังไม่ผ่านการแปรรูปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้ส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์อันดับ 1 ของโลกตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2558 เวียดนามส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ถึง 330,000 ตัน ไปยัง 80 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นมูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสหรัฐ จีน และประเทศยุโรป เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญ



นายดั๋ง หว่าง ยาง เลขาธิการสมาคมมะม่วงหิมพานต์เวียดนาม กล่าวว่า เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็น 1 ใน 2 สินค้าเกษตร ที่มีการเพิ่มขึ้นทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า และยอดส่งออกของเวียดนามคิดเป็น 50% ของมูลค่าส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทั่วโลก

ปัจจุบันเวียดนามมีพื้นที่ปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ ประมาณ 450,000 เฮกตาร์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ แต่พื้นที่เขตเพาะปลูกยังไม่เพียงพอต่อดีมานด์ของตลาดทั่วโลก ซึ่งเวียดนามจำเป็นต้องนำเข้าผลมะม่วงหิมพานต์ดิบกว่า 700,000 ตัน ส่วนใหญ่มาจากทวีปแอฟริกา เพื่อตอบสนองเป้าหมายการแปรรูปสินค้าที่ 1.2 ล้านตันต่อปี ซึ่งคาดว่าจะบรรลุผลภายในปี 2563

แม้ว่ารัฐบาลเวียดนามมีความพยายามเพิ่มผลผลิตภายในประเทศเพื่อลดพึ่งพาการนำเข้า และมีแผนการวางแผนขยายการปลูกเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ไปในกัมพูชา และ สปป.ลาว เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง และควบคุมคุณภาพเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ให้สม่ำเสมอ ทว่าความกดดันอย่างหนักจาก "คู่แข่ง" อย่างจีน และอินเดีย ที่ประกาศแผนการย้ายฐานการแปรรูปเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ไปใกล้แหล่งวัตถุดิบในแอฟริกา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และต้องการล้มแชมป์ผู้ส่งออกเบอร์หนึ่งโลก ทำให้เวียดนามเริ่มมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นเช่นกัน

เวียดนาม นิวส์
 รายงานว่า ในการประชุมเชิงปฏิบัติการของสถานทูตเวียดนาม ในประเทศโมซัมบิก นาย IlidioAfonso Jose Bande ผู้อำนวยการสถาบันเมล็ดมะม่วงหิมพานต์แห่งชาติโมซัมบิก (INCAJU) กล่าวว่า เทคโนโลยีของเวียดนามตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกจนถึงการแปรรูปผลมะม่วงหิมพานต์ เป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศในแถบแอฟริกาให้ความสนใจอย่างมาก ที่ผ่านมาเวียดนามถูกจับตาจากหลายประเทศ เช่น อินเดีย บราซิล และหลาย ๆ ประเทศในทวีปแอฟริกา และเมื่อ 10 ปีก่อนมีทีมวิจัยจากประเทศอินเดีย ไนจีเรีย โมซัมบิก แทนซาเนีย และไอวอรีโคสต์ เดินทางไปที่เวียดนาม เพื่อศึกษาเทคโนโลยีการเพาะปลูก แต่ช่วงเวลานั้นรัฐบาลยังไม่เปิดรับต่างชาติมากนัก


"ปัจจุบันเวียดนามให้ความสำคัญกับความร่วมมือนอกภูมิภาคมากขึ้นและในฐานะที่โมซัมบิกเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกวัตถุดิบผลมะม่วงหิมพานต์ของเวียดนามและสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับที่รัฐบาลโมซัมบิกพยายามผลักดันการเพาะปลูกและแปรรูปเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ให้เป็นพืชเศรษฐกิจเพื่อการส่งออกที่สำคัญของประเทศ การหารือแนวทางความช่วยเหลือระหว่างกันจึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย"


"โมซัมบิก"เคยขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์สูงที่สุดของทวีปแอฟริกาและขึ้นเป็นแชมป์ผู้ส่งออกเบอร์หนึ่งของโลก เมื่อหลายทศวรรษก่อน ความสูญเสียที่มาจากยุคไล่ล่าอาณานิคมจากโปรตุเกสและฝรั่งเศส เป็นเหตุให้รัฐบาลโมซัมบิกพยายามฟื้นการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศหลังได้รับเอกราชการที่รัฐบาลโมซัมบิกพยายามฟื้นชีพพืชเศรษฐกิจอย่างเม็ดมะม่วงหิมพานต์อีกครั้งโดยผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีทุกขั้นตอนจากเวียดนามนับเป็นความร่วมมือที่น่าจับตามอง นักวิเคราะห์ท้องถิ่นในเวียดนามมองว่า "แทนที่เราจะมองว่าโมซัมบิก เป็นคู่แข่งของเวียดนาม หากเรามีการเจรจาที่ดี การร่วมกันพัฒนาสินค้าเกษตรนี้ภายใต้ผลประโยชน์ที่เท่าเทียม จะเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดกว่า"

ทั้งนี้ การย้ายฐานการผลิตและแปรรูปไปยังทวีปแอฟริกา ถือเป็นกลยุทธ์การเอาตัวรอด เพราะการย้ายฐานเท่ากับเป็นการลดต้นทุนการผลิตของเวียดนาม อีกทั้งโมซัมบิกและหลาย ๆ ประเทศในแถบแอฟริกา ยังอยู่ในอาณาบริเวณที่ใกล้กับประเทศยุโรปมากกว่า ซึ่งเป็นตลาดหลักการส่งออกของเวียดนามในเวลานี้

น่าสนใจว่าเพียง 15 ปีเท่านั้น ที่เวียดนามสามารถขึ้นแท่นเป็นผู้ส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์เบอร์หนึ่งของโลก แซงหน้าอินเดียและจีนได้ สะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์เชิงลึกและเทคนิคขั้นสูงในการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว และการแปรรูปผลมะม่วงหิมพานต์

การเคลื่อนไหวนี้บ่งชี้ชัดเจนว่า เวียดนาม ประเทศที่เคยพึ่งพารายได้หลักจาก "ข้าวและยางพารา" แต่เนื่องจากที่ผ่านมา เวียดนามเป็นประเทศเดียวที่ประสบภาวะภัยแล้งและน้ำท่วมบ่อยที่สุด ทำให้ "เม็ดมะม่วงหิมพานต์" ได้กลายมาเป็นอุตสาหกรรมตัวชูโรงเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเวียดนามในทันที


อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส

Tags : เวียดนามผนึก โมซัมบิก รักษาแชมป์ ส่งออก เม็ดมะม่วงหิมพานต์

view