สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กลุ่มไอซีพี เล็ง3ปีขึ้นเบอร์1 ธุรกิจปัจจัยผลิตสินค้าเกษตร

จากประชาชาติธุรกิจ

กลุ่มไอซีพีมั่นใจอีก 3 ปีก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตรครบวงจร ด้วยส่วนแบ่งตลาด 22% หลังร่วมทุนกับกลุ่มลัดดา เล็งเพิ่มผลิตภัณฑ์และลูกค้าใหม่กระตุ้นยอดขายให้เติบโตปีละ 10-15% เผยปีนี้ทุ่มงบฯโฆษณากว่าเท่าตัว

นายพงษ์โรจน์ รัตนภักดีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทไอซีพี ประกอบด้วยบริษัท ไอซีพี เฟอติไลเซอร์ จำกัด และบริษัท ไอซีพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย "ปุ๋ยตราม้าบิน" และ "ปุ๋ยท็อปวัน ตราไอซีพี" ได้เข้าถือหุ้นในกลุ่มลัดดา ผู้ประกอบการชั้นนำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอารักขาพืชหรือเคมีเกษตร โดยการร่วมทุนทางธุรกิจครั้งนี้ จะทำให้กลุ่มบริษัทไอซีพีและกลุ่มลัดดา มีมูลค่ายอดขายรวมกันมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขึ้นแท่นผู้นำการผลิตและจัดจำหน่ายปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตรครบวงจร

การร่วมทุนกันครั้งนี้ อาจจะเห็นผลด้านการลดต้นทุนได้ไม่ชัดเจน แต่จะส่งผลให้มีการทำงานกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด้านการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมในอนาคต คาดว่าจะทำให้ยอดขายของกลุ่มมีอัตราการเติบโตปี 2560-62 ประมาณปีละ 10-15% ซึ่งจะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของผู้ผลิตปุ๋ยเคมีและปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตรของไทย ด้วยส่วนแบ่งตลาด 22% จากปัจุบัน 12-14% ยอดขายประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนผู้นำตลาดในขณะนี้ กลุ่มเจียไต๋ผู้ผลิตปุ๋ยเคมีตรากระต่ายและปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตรต่าง ๆ อยู่อันดับหนึ่ง 25% และปุ๋ยตราหัววัวคันไถของกลุ่มบริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่ากลุ่มไอซีพีเพียงเล็กน้อย ขณะที่ตลาดรวมมีมูลค่า 7.5-8 หมื่นล้านบาท

"ตลาดปุ๋ยเคมีมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง จากกำลังซื้อที่น้อยลง ประเภทซื้อใช้ไปก่อนและมีฤดูการขายที่สั้น ยิ่งสภาพอากาศทุกวันนี้แปรปรวน ต้องคาดการณ์ให้ใกล้เคียงที่สุด ปัจจุบันเรามีลูกค้าร้านค้าประมาณ 3,000 ร้าน มีดีลเลอร์รายใหญ่ 500-600 ราย กลุ่มลัดดามีลูกค้าประมาณ 1,500 ร้าน ซึ่งปีหน้าบริษัทจะเพิ่มร้านค้าขายอีก โดยปีนี้บริษัทได้ทุ่มงบฯโฆษณากว่า 200 ล้านบาทเศษ มากกว่าปกติกว่าเท่าตัวในหลายช่องทาง โดยเฉพาะการเพิ่มโฆษณาทางด้านทีวีดึงลูกค้ารายใหม่"

ทางด้านการลงทุนนั้น นายพงษ์โรจน์กล่าวว่า เมื่อ 1 ปีเศษที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนตั้งโรงงานผลิตปุ๋ยอัดเม็ด คอมแพ็คชั่น เป็นปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต 21-0-0+24 ซัลเฟอร์ กำลังการผลิต 1.5 แสนตัน/ปี มูลค่าลงทุน 600 ล้านบาทที่ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นปุ๋ยที่มีคุณสมบัติโดดเด่นด้านการให้กลิ่น สี และน้ำมันมาก เป็นปุ๋ยใส่ทางดิน เหมาะสำหรับไม้ผลและปาล์มน้ำมัน ซึ่งลูกค้าต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และประเทศเพื่อนบ้านให้การตอบรับดีมาก มูลค่าส่งออกตกประมาณ 5% ของยอดขายรวม ปัจจุบันทั้งปุ๋ยตราม้าบินและปุ๋ยท็อปวันมีกำลังการผลิต 7 แสนตัน/ปี จากกำลังการผลิตเต็มที่ 1 ล้านตัน/ปี

สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ปีหน้า คาดว่าตลาดปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตรจะโตขึ้น จากน้ำปีนี้ที่มีพอสมควร พื้นที่การเกษตรจะมากขึ้น แม้ข้าวราคาจะไม่ดี แต่สินค้าพืชเศรษฐกิจจะดี เช่น ยาง ปาล์มน้ำมัน อ้อยและไม้ผลต่าง ๆ ขณะที่มีความเสี่ยงด้านราคาปุ๋ยนำเข้า อัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม ราคาปุ๋ยต่ำมา 15 ปีแล้ว แนวโน้มในอนาคตจึงมีแต่จะขึ้นมากกว่าลง


อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส

Tags : กลุ่มไอซีพี เล็ง3ปีขึ้นเบอร์1 ธุรกิจปัจจัยผลิตสินค้าเกษตร

view