สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เสม็ดห้ามกระบองไฟ เรือลากร่มชูชีพ อึ้งจนท.รัฐเอี่ยว แอบย้ายหลักเขตอุทยาน ผลประโยชน์อื้อ

จากประชาชาติธุรกิจ

ต่อไปนี้ห้ามเด็ดขาด กระบองไฟ เรือกล้วย เรือลากร่มชูชีพ น้ำมันเลอะหาดกำจัดยาก พญาเสือลงพื้นที่พบ จนท.รัฐเอี่ยวอื้อ สลด หลักเขตอุทยานฯถูกขยับออกไกล 300 เมตร ผลประโยชน์อื้อ

กรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และ จ.ระยอง จะเข้าทำการจัดระเบียบ ฟื้นฟูพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เพราะพบว่าที่ผ่านมามีปัญหาหลายด้าน ทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม การบุกรุกที่ดิน ความไร้ระเบียบของการจัดการพื้นที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นเข้าไปหาผลประโยชน์ เอารัดเอาเปรียบชาวบ้านอย่างมากนั้น

วันที่ 19 พฤศจิกายน นายณัฐพล รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเล กรมอุทยานแห่งชาติฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ความจริงแล้วการเข้าไปแก้ปัญหาต่างๆ ในพื้นที่เกาะเสม็ดนั้นทำมาระยะหนึ่งแล้ว ภายใต้นโยบายของ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี ทส.ที่ได้ติดตามความคืบหน้าอยู่เสมอ โดยก่อนหน้านี้ ทีมงานชุดปฏิบัติการพิเศษ ชุดพญาเสือ ที่นำโดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการส่วนจัดการต้นน้ำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการพญาเสือได้ลงพื้นที่ เพื่อหาข้อมูล เพื่อดำเนินการเรื่องการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯมาแล้ว มีข้อมูลพร้อมที่จะดำเนินการรื้อถอนกลุ่มทุนที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่อุทยานฯสร้างประโยชน์ให้ตัวเองมานานแล้ว

นายณัฐพลกล่าวว่า การดำเนินการของกรมอุทยานฯที่จะเข้าไปจัดระเบียบที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดนั้น ได้รับการสนับสนุนจากภาคประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการที่ทำมาหากินอย่างสุจริตบนเกาะจำนวนมาก ทั้งนี้ พล.อ.สุรศักดิ์ และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯได้ให้นโยบายหลักมาเลยว่า การดำเนินการ จัดระเบียบนั้นต้องไม่ทำให้ประชาชนที่ทำมาหากินอย่างสุจริตเดือดร้อนอย่างเด็ดขาด

"จัดระเบียบคือทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย อะไรที่ผิดต้องเอาออกไป เช่น การเล่นกระบองไฟ ที่นิยมกันมาก มีทุกหน้าหาด หลายรีสอร์ตเอาไปเป็นตัวโฆษณาให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักในรีสอร์ตของตัวเอง เพราะมีการเล่นกระบองไฟ ขอบอกว่าอันนี้ผิดกฎหมายชัดเจน สร้างมลพิษแก่สิ่งแวดล้อม เกือบทุกที่ภายหลังจากการแสดงกระบองไฟสิ้นสุดมีน้ำมันหกเลอะเทอะผืนทราย ซึ่งน้ำมันจะปนเปื้อนอยู่บนชายหาด ทำความสะอาดยาก ต่อไปทุกหาดห้ามไม่ให้มีการเล่นกระบองไฟอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้เรือกล้วย ซึ่งเกือบทุกลำมีเรือเร็ว หรือสปีดโบ๊ตลากแล่นไป แล้วมาลากกันอยู่ใกล้หาด ซึ่งอันตรายอย่างยิ่ง ไม่มีการจัดระเบียบ แล่นกันเกะกะไปหมด อันนี้ความจริงแล้วก็ผิดกฎหมายชัดเจน แต่อาจจะมีการอนุโลมเอาทุ่นไข่ปลาไปกั้นเป็นเขตที่สามารถทำกิจกรรมนี้ได้ แต่ทั้งหมดก็ต้องเข้ามาขออนุญาตให้ถูกต้อง" นายณัฐพลกล่าว

ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเลกล่าวว่า ตามบัญชีรายการ การขออนุญาตแล้ว น่าตกใจมากที่พบว่าเรือเร็วหรือสปีดโบ๊ตที่วิ่งไปวิ่งมา รับส่งนักท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเกาะเสม็ดนั้นเกือบ 200 ลำ มีขออนุญาตถูกต้องแค่ 1 ลำเท่านั้น อยู่ระหว่างการขออนุญาตอีก 4 ลำ ที่เหลือวิ่งแบบเถื่อนๆ ทั้งหมด นอกจากนี้ที่จะต้องเอาออกไป ห้ามเล่นเลยก็คือ เรือที่แล่นลากร่มชูชีพ อันนี้อันตราย ห้ามทำในเขตอุทยานเด็ดขาด หากจะทำก็ต้องไปทำนอกเขตอุทยาน หรือต้องห่างจากชายฝั่งออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร” นายณัฐพลกล่าว และว่า เนื่องจากปัญหาต่างๆ ที่เกาะเสม็ดนั้นสะสมมานานกว่า 20 ปี การแก้ไขให้เกิดความเป็นระเบียบในทันทีทันใดอาจจะไม่ได้ แต่ก็จะทำให้เร็วที่สุด เพราะเวลานี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว

เมื่อถามเรื่องการจัดการพื้นที่ชายหาดทุกหาดบนเกาะเสม็ด ต่อไปนี้ห้ามไม่ให้มีเตียงผ้าใบ เตียงชายหาดและร่ม ให้เหลือแต่หาดเปล่าๆ เลยใช่หรือไม่ นายณัฐพลกล่าวว่า ปัญหาของชายหาดบนเกาะเสม็ดคือ ร้านค้าเกือบทุกร้านบุกลงไปหน้าหาดหมด แทบจะไม่เหลือพื้นที่เดินเล่นเลย โดยเฉพาะช่วงกลางคืน บางร้านถึงกับเอาโต๊ะ เก้าอี้ไปวาง คนไปกินอาหารเท้าจุ่มในน้ำได้เลย ซึ่งเป็นการเอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบธรรมชาติอย่างยิ่ง ตรงนี้ต้องดำเนินการจัดระเบียบก่อน ไม่ถึงขั้นว่าชายหาดห้ามมีเตียง หรือร่ม แต่สิ่งเหล่านี้ต้องอยู่ในที่ที่ควรอยู่ ไม่ใช่ตั้งรุกล้ำไปในที่สาธารณะ

"ไม่รวมเรื่องของปัญหาขยะกับน้ำเสียที่เราต้องดำเนินการด้วยนะครับ ทุกรีสอร์ต และโรงแรม ทิ้งน้ำเสียลงทะเลหมด ขยะก็จัดการยาก มีระบบจัดการขยะอยู่ก็จริงแต่ไม่สามารถจัดการขยะทั้งหมดแต่ละวันได้ มีขยะเหลือจากการจัดการอีกหลายตัน เรื่องนี้ก็ต้องทำไปพร้อมๆ กันเลยกับการจัดระเบียบ เราเริ่มเรียกผู้ประกอบการรีสอร์ตและโรงแรมมาคุยบ้างแล้ว" นายณัฐพลกล่าว

ด้านนายชัยวัฒน์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ลงพื้นที่แฝงตัวอยู่ที่เกาะเสม็ดเพื่อหาข้อมูลเรื่องการบุกรุกที่ดินอุทยานแห่งชาติเกาะเสม็ดกับการหาผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก และน่าเสียใจที่พบว่าหลายเรื่องมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง เช่น เรื่องการเรียกเก็บผลประโยชน์จากชาวบ้านที่ทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำ หรือกระทั่งการแอบไปเลื่อนหลักเขตอุทยานออก เพื่อหาผลประโยชน์ เรื่องการบุกรุกที่ดิน พบหลักฐานชัดเจนจากแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมว่าหลักเขตอุทยานถูกเลื่อนออกไป บางจุดขยับเลื่อนออกไปไกลจากเขตเดิมถึง 300 เมตรด้วยกัน หมายความว่าที่ดินอุทยานถูกฉ้อโกงออกไปจำนวนมาาก ซึ่งวิธีการแบบนี้ ชาวบ้านทั่วไปจะทำกันเองไม่ได้อย่างแน่นอน

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า การตรวจสอบเรื่องการบุกรุกพื้นที่อุทยานเกาะเสม็ดนั้น ใช้แผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม ปี 2545 สำหรับบริเวณชายหาดต่างๆ นั้น ในภาพรวมแล้วพบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ริมหาดราว 10% ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งสามารถชี้ได้ชัดเจนว่ามีที่ไหนบ้าง จะต้องรื้อทิ้งทั้งหมด และทำให้เร็วที่สุด



ที่มา มติชนออนไลน์


อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส

Tags : เสม็ดห้ามกระบองไฟ เรือลากร่มชูชีพ อึ้งจนท.รัฐเอี่ยว แอบย้ายหลักเขตอุทยาน ผลประโยชน์อื้อ

view