จากประชาชาติธุรกิจ
ภายหลังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 375) พ.ศ.2559 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการนำเข้าอาหารที่มีความเสี่ยงจากโรควัวบ้า โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ล่าสุดหลายประเทศท้วงติงว่า ประกาศดังกล่าวเข้มงวดเกินไป ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (Office International des Epizooties: OIE) นั้น
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ประกาศดังกล่าวมุ่งควบคุมการนำเข้าเนื้อโคในกลุ่มประเทศต่างๆ ที่มีการแบ่งกลุ่มความเสี่ยงจากโรควัวบ้าไว้ 1.กลุ่มประเทศหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากโรควัวบ้าน้อยมาก 2.กลุ่มประเทศหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากโรควัวบ้าที่ควบคุมได้ 3.กลุ่มประเทศหรือพื้นที่ที่ยังไม่มีการประเมินความเสี่ยงจากโรควัวบ้า โดยแต่ละกลุ่มจะมีเกณฑ์ควบคุมโรคที่แตกต่างกันไป อาทิ เนื้อถอดกระดูก ต้องได้จากโคที่ผ่านขั้นตอนการฆ่าและชำแหละ แต่ต้องผ่านการตรวจโรคก่อน เป็นต้น แต่หลังจากมีหนังสือเวียนไปยังนานาประเทศ กลับถูกบางประเทศท้วงติงว่าไม่ดำเนินการตามโอไออี ล่าสุดจึงนำเรื่องนี้หารือในคณะกรรมการอาหาร และเชิญผู้แทนกรมปศุสัตว์เข้าให้ข้อมูลยืนยันสถานการณ์ของโรค เพื่อนำไปพิจารณาปรับลดมาตรการใดมาตรการหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรื่องการปรับแก้ประกาศควบคุมโรควัวบ้านั้น จะมีการพิจารณาอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการอาหารครั้งต่อไปช่วงเดือนมิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับโรควัวบ้า หรือโรคสมองฝ่อ เป็นโรคระบาดสัตว์ที่ก่อความรุนแรงในโค และระบาดไปยังคนได้ โดยจะส่งผลต่อระบบประสาท หากอาการรุนแรงจะทำให้เสียชีวิต
นสพ.มติชนรายวัน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
