สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ภัยแล้งทำผลไม้ภาคเหนือวูบ ลำไยเชียงใหม่ตาย 1.1 หมื่นไร่

จากประชาชาติธุรกิจ

ดร.สมสวย ปัญญาสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนลำไยพื้นที่ภาคเหนือในปีนี้ว่า กรณีต้นลำไยใบแห้งเหี่ยวเฉามากจนยืนต้นตายนั้น หากไม่ได้รับน้ำเกิน 15 วัน ก็อาจจะเสียหายมากกว่านี้ แต่ขณะนี้ฝนเริ่มมาแล้ว แต่เมื่อฝนตกโดยธรรมชาติหากได้รับน้ำที่เพียงพอ ต้นลำไยก็สามารถแตกใบใหม่ได้ เพราะลำไยรากลึกเป็นพืชทนแล้งมาก การที่จะยืนยันว่ายืนต้นตายหรือไม่ตายเสียทีเดียวคงไม่ได้ ซึ่งปัญหานี้มีอยู่ทุกพื้นที่ ส่วนมากจะอยู่ในเขตเชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย ส่วนผลผลิตของปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้ว ปัจจัยหลักคือไม่มีน้ำ อุณหภูมิร้อนขึ้น ทำให้ลำไยไม่ติดผล หรือติดผลน้อยลง รวมทั้งใบไหม้

"เหตุการณ์แบบนี้เมื่อปี 2534 และปี 2540 ก็เคยเกิดมาแล้ว เกษตรกรที่ปลูกลำไยมานาน หรือคนที่เข้าใจสถานการณ์และดูแลรักษาดีก็ไม่มีปัญหา และที่สำคัญคงไม่หันไปปลูกอย่างอื่นเพราะลำไยให้ราคาดีกว่าทุกพืชมาก แล้งขนาดนี้ก็พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ หากมี 100 ต้น มีต้นที่สมบูรณ์อยู่ 30 ต้น แต่กิโลกรัมหนึ่งราคาเกือบร้อยบาท รวมแล้วดีกว่าการที่ได้ผลทุกต้น แต่ราคาเหลือ กก.ละ 10-20 บาทก็ไม่คุ้ม ซึ่งในท้องที่ตอนนี้ราคาหน้าสวนกิโลกรัมละ 45 บาท ถือว่าราคาสูงหากเทียบในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 35 บาท" ดร.สมสวยกล่าว

สรุปความเสียหาย ก.ค.นี้

นายอนุสรณ์ พรชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ (สศท.1) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงประมาณการผลผลิตลำไยและลิ้นจี่ปี 2559 ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน และตาก ของคณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนือ ครั้งที่ 3/2559 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2559ลำไยมีเนื้อที่ให้ผลผลิตจำนวน 819,111 ไร่ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 2 ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 579 กิโลกรัมต่อไร่ ลดลงประมาณร้อยละ 11 โดยแยกเป็นลำไยในฤดู 428 กิโลกรัมต่อไร่ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 14 และลำไยนอกฤดูประมาณ 1,278 กิโลกรัมต่อไร่ ลดลงร้อยละ 5 เนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนและแล้ง ฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ทำให้ลำไยได้รับน้ำฝนไม่เพียงพอ

ลำไยติดลูกแล้ว 60%

ด้านผลผลิตรวม คาดว่าจะมี 473,913 ตัน ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 13 โดยเป็นลำไยในฤดู 288,013 ตัน ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 16 และลำไยนอกฤดู 185,900 ตัน ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 7

ซึ่งขณะนี้ลำไยอยู่ในช่วงออกผลเท่ากับเมล็ดถั่วเหลืองร้อยละ 60 โดยผลผลิตจะออกมากในช่วงเดือนสิงหาคม ร้อยละ 53ลิ้นจี่มีเนื้อที่ให้ผลผลิต 102,604 ไร่ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 4 ให้ผลผลิตต่อไร่ 287 กิโลกรัมต่อไร่ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 34 ผลผลิตรวม 29,475 ตัน ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 37 โดยผลผลิตลิ้นจี่จะออกมากในช่วงเดือนพฤษภาคมร้อยละ 63 และต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมิถุนายนร้อยละ 29 ซึ่งขณะนี้ลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยอยู่ในช่วงเปลี่ยนสีกำลังจะเก็บเกี่ยวได้

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานสำรวจไม้ผลฯยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศแล้งและขาดน้ำส่งผลกระทบให้ลำไยที่ติดผลแล้วร่วง และในบางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งโดยยืนต้นตาย (เสียหายสิ้นเชิง) เบื้องต้นจังหวัดเชียงใหม่ประมาณการพื้นที่ความเสียหายสิ้นเชิงของลำไย จำนวน 11,345 ไร่ จังหวัดลำพูนจำนวน 602 ไร่ และจังหวัดเชียงรายจำนวน 300 ไร่ ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ยังไม่มีการรายงานความเสียหาย

"ทั้งนี้ คณะทำงานสำรวจไม้ผลฯคาดว่า หากภายในเดือนพฤษภาคมนี้ฝนไม่ตก ลำไยจะได้รับผลกระทบทางด้านผลผลิตและมีพื้นที่เสียหายเพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้ ซึ่งจะได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และจะมีการประชุมพร้อมทั้งสรุปเป็นข้อมูลเอกภาพไม้ผลเศรษฐกิจภาคเหนืออีกครั้งในเดือนกรกฎาคมนี้" นายอนุสรณ์กล่าว


สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : ภัยแล้งทำผลไม้ภาคเหนือวูบ ลำไยเชียงใหม่ตาย 1.1 หมื่นไร่

view