จากประชาชาติธุรกิจ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม 2559 ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายไกรสร กองฉลาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกสวนยางพารา อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ กรณีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ต.หลักด่าน ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว นำโดยนางอังคณา ทองสุข และนางกรกนก เอกวรรณัง ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดพยัคฆ์ไพร อ้างคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าขับไล่ราษฎรออกจากพื้นที่ทำกิน พร้อมเรียกร้องให้ถอดป้ายตรวจยึดออกจากพื้นที่ สั่งให้ยกเลิกคดีความที่ทางป่าไม้กล่าวหาประชาชนและยกเลิกหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำหนาว โดยมีตัวแทนกลุ่มชาวบ้านดังกล่าวเข้าร่วมประชุม รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการที่ถูกพาดพิงเข้าร่วมชี้แจง
โดยก่อนเปิดการประชุมกลุ่มชาวบ้านมีการชูป้ายโจมตีการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ จนนายไกรสรต้องขอความร่วมมือชาวบ้านให้ลดป้ายดังกล่าวลง เพื่อให้บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
จากนั้นทางชาวบ้านได้ออกมาโต้แย้งถึงนโยบายการทวงผืนป่า ตามคำสั่ง คสช.66/2557 ซึ่งชาวบ้านปลูกยางพาราสร้างป่าเศรษฐกิจแต่มาถูกตัดฟันทำลาย ในขณะที่พืชเศรษฐกิจอย่างอื่นยังทำกินได้ปกติ จากนั้นยังตั้งข้อสังเกตในที่ประชุมว่ามีแต่ยางพาราที่บุกรุกป่าเพียงอย่างเดียวหรือไม่ นอกจากนี้ชาวบ้านยังจี้ถามถึงแผนปฏิบัติการดังกล่าวดำเนินการทำเฉพาะยางพาราอย่างเดียว และตอนนี้ก็ไม่เห็นดำเนินการต่อเนื่อง
นายชีวภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพรกล่าวชี้แจงว่า การจับกุมใช้ พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 เป็นหลักและมติ ครม.ปี 2541 รวมทั้งคำสั่ง คสช.66/2557 เป็นองค์ประกอบ หากชาวบ้านอยู่ก่อนปี 2541 ฐานข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมปี 2545 ก็ได้รับการผ่อนปรนตามเงื่อนไข ฉะนั้น หากมีหลักฐานขอให้ยื่นแสดงมาทางเจ้าหน้าที่ซึ่งพร้อมจะพิจารณาให้เป็นรายๆ ไป ส่วนการยกเลิกคดีคงทำไม่ได้เพราะอยู่ในชั้นสอบสวน แต่หากมีหลักฐานโต้แย้งในทางคดีอาจจะได้รับการยกฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง
“การถอดป้ายตรวจยึดก็เช่นกัน เนื่องจากเป็นระเบียบคงปลดออกไม่ได้และอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ แต่หากจะให้พิจารณาจุดติดตั้งใหม่หรือปรับข้อความใหม่ตรงนี้มาคุยกัน แต่ยืนยันว่าในการทำกินของชาวบ้านยังคงทำกินต่อไปได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้จะนำประเด็นนี้หารือทางอธิบดีอีกครั้ง” นายชีวภาพกล่าว
ด้าน พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน.สวนรื่นฤดี กล่าวชี้แจงว่า แผนปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าทำทั่วประเทศ เพียงแต่ช่วงแรกจะดำเนินการกับสวนยางพาราก่อน และเน้นพื้นที่ต้นน้ำและกลุ่มทุน รวมทั้งผู้บุกรุกใหม่ และไม่ต้องกังวลทางเจ้าหน้าที่ยังต้องปฏิบัติการต่อเนื่อง และระหว่างการจับกุมก็ยังมีชาวบ้านออกรับแทนนายทุนด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนปิดการประชุม นายไกรสรกล่าวให้กำลังใจชาวบ้านโดยแจ้งว่า ไม่อยากให้สิ้นหวังเพราะเชื่อว่ายังมีหนทางและทางออก ฉะนั้น หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้ยากไร้, รายได้น้อย และไร้ที่ทำกิน จึงน่าจะเป็นอีกทางออกและเป็นแนวทางการต่อสู้ จึงอยากให้พิจารณาว่าพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการเหล่านี้หรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าเสียงชาวบ้านเริ่มอ่อนลงและให้ความสนใจพร้อมซักถามข้อมูลมากขึ้น
ที่มา มติชนออนไลน์
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
