จากประชาชาติธุรกิจ
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และวันครบรอบ 31 ปี ของการก่อตั้งวันอนุรักษ์มรดกไทย เพื่อให้เด็กๆ และคนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงมรดกของชาติไทย พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงได้จัดเสวนาวิชาการเรื่อง พิพิธภัณฑ์ไทยในศตวรรษที่ 21 "ทิศทางพิพิธภัณฑ์ยุคใหม่ควรเป็นอย่างไร?" เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนารูปแบบของพิพิธภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ในศตวรรษที่ 21 ณ ห้องประชุม 1 พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ
อ.ประภัสสร โพธิ์ศรีทอง นักวิชาการอิสระที่คร่ำหวอดในงานด้านพิพิธภัณฑ์ เผยว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเห็นว่าพิพิธภัณฑ์ที่ดี เนื้อหาไม่ควรอัดแน่นด้วยตัวหนังสือ แต่ควรมีรูปแบบ วิฌ่วล พรีเซนเทชั่น ไม่ว่าจะเป็นป้ายคำบรรยาย หรือรูปต่างๆ แผนผังต้องง่าย ที่สำคัญต้องคุ้มค่ากับการลงทุน เพราะพิพิธภัณฑ์ไม่ใช่แค่แหล่งเรียนรู้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องสร้างจินตนาการได้ด้วย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ขยายวงกว้าง และควรสร้างเพื่อผู้ใช้ต่างวัย อย่างพิพิธภัณฑ์ที่ออสเตรเลียจะมีพื้นที่สำหรับเด็ก เป็นพิพิธภัณฑ์ก่อนวัยเรียน แบ่งห้องต่างๆ ให้เรียนรู้ เช่น การใช้เทคโนโลยีภาพถ่าย ระบายสี หรือการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติ นี่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเขาอยากให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์จริงมากที่สุด
ขณะที่ ดร.พธู คูศรีพิทักษ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวัฒนธรรมศึกษา กลุ่มวิชาพิพิธภัณฑ์ศึกษา สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัย มหิดล เล่าว่า เมื่อหลายปีก่อนมีโอกาสได้ฟังสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายครั้งหนึ่งว่า พิพิธภัณฑ์จะต้องสนุกสนาน และมีชีวิตชีวา เหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต และต้องเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับทุกคน ซึ่งเป็นแบบอย่างในการทำพิพิธภัณฑ์ไม่ว่าจะศตวรรษไหนก็ยังใช้ได้อยู่ และจากประสบการณ์ที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์ที่ดีคือต้องมีชีวิตชีวา ให้คนเรียนรู้ประสบการณ์ที่เชื่อมโยงระหว่างภายในและภายนอก รวมทั้งสื่อสารผ่าน รูป รส กลิ่น เสียง และเกิดความเปลี่ยนแปลงทัศนคติให้ดีขึ้นได้ เพราะพิพิธภัณฑ์ต้องไม่มีพรมแดน สลายกำแพงของการเรียนรู้ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
พิพิธภัณฑ์ยุคใหม่เสริมสร้างความรู้และจินตนาการ
นสพ.มติชนรายวัน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
