จากประชาชาติธุรกิจ
เมื่อเวลา 18.30 น. วันนี้ (19 เมษายน 2559) นายพรสถิตย์ ทองอ่อน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/6 หมู่ 9 บ้านดงแหลมโขด หมู่ที่9 ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เกษตรกรชาวสวนทุเรียนรายย่อย เปิดเผยว่า ได้ปลูกทุเรียนหลายพันธุ์ อาทิ พันธุ์หมอนทอง , ก้านยาว ขนุนพันธุ์ต่างๆ และลองกอง ในเนื้อที่ 4 ไร่ หมุนเวียนกันเก็บเกี่ยวผลผลิต ล่าสุดจากสภาพอากาศร้อนจัดและภาวะภัยแล้ง สวนทุเรียนกำลังประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติ ทำให้ผลผลิตที่จะออกมาในปีนี้มีน้อยกว่าปีที่ผ่านมา อาทิ กระรอกเจาะลูกทุเรียน ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นได้มีการดูแลสวนทุเรียนเป็นกรณีพิเศษ โดยการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ให้ปุ๋ยพรวนดินแต่ยังขาดแคลนน้ำอยู่ดี
“แหล่งน้ำคลองสวนพริก บ่อบาดาล บ่อที่ขุดไว้ไม่เพียงพอ แหล่งน้ำมีการแบ่งกันใช้เนื่องจากแห้งแล้งยาวนาน แหล่งน้ำร่วมกันหลายหมู่บ้านที่ทำสวนผลไม้พบว่า แหล่งน้ำหลายแห่งที่แห้งขอด ชาวบ้านต้องช่วยกันใช้ท่อสูบน้ำขนาดใหญ่แบ่งปันน้ำเข้าสวนผลไม้ บวกกับอากาศที่ร้อนมาก ทำให้ดอกทุเรียนที่กำลังออกดอกแห้ง และฝ่อ-สลัดผล ไม่ได้ผลผลิตเท่าที่ควร จึงทำให้ปีนี้ได้ผลผลิตน้อยไม่คุ้มทุนที่ลงไป” นายพรสถิตย์ กล่าว และว่า
ผลผลิตที่ส่งออกจากสวนไปยังตลาดมีราคา ตั้งแต่ 90-150บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและพันธุ์ อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานใดเพราะต้องดิ้นรนจนสุด ความสามารถ
ด้านนายทศพล เหมือนพิทักษ์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพระหมู่ที่9 (ส.อบต.) อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีพร้อมด้วยนายอดิศร บุญฤทธิการ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านดงแหลมโขด หมู่ที่9 ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ต่างกล่าวว่า พื้นที่การปลูกสวนทุเรียนในหมู่ 9 มีประมาณ 200 ไร่ แล้งนี้ส่งผลกระทบกับเกษตรกรทั้งหมดในหมู่บ้านขาดแคลนน้ำในสวนไม้ผลจึงได้ขอ งบประมาณไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพระ (อบต.) ในการขุดลอกคลองได้งบมาจำนวน 400,000 บาท ทำการขุดลอกคลองลึก เมตร และได้สูบน้ำจากคลองสวนพริกเข้ามายังคลองเปรม หากน้ำที่สูบเข้ามาลดลงก็จะขอแบ่งจากแหล่งน้ำเอกชนต่อไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในหมู่บ้าน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
