จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“พาณิชย์” แจ้งข่าวดีรับผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาด ฮ่องกงแจ้งผลตรวจสอบไม่พบการชุบขมิ้นและสารตกค้าง ทำให้ทุเรียนไทยเข้าสู่ตลาดฮ่องกงได้ปกติ เตือนผู้ส่งออกไทยปฏิบัติตามระเบียบ หวั่นทำตลาดส่งออกทุเรียน 6,000 ล้านบาทเสียหาย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ณ เมืองฮ่องกง เกี่ยวกับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการชุบสารขมิ้นและสารตกค้างในทุเรียนของ ไทยที่ส่งออกไปตลาดฮ่องกง โดยล่าสุดทางหน่วยงานสุขอนามัยของฮ่องกงได้แจ้งว่า จากการทำงานแก้ไขปัญหาร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ของไทย ทำให้ไม่พบปัญหาสารตกค้างในทุเรียนที่ส่งออกจากไทย แต่เนื่องจากยังเป็นช่วงต้นฤดูกาล กระทรวงพาณิชย์จะมีการติดตามปัญหาดังกล่าวและประสานการทำงานกับฮ่องกงอย่าง ใกล้ชิด
สำหรับปัญหาสารเร่งการสุกที่ตกค้างในทุเรียนเกิน 2 ppm ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหากัน โดยฝ่ายไทยได้เชิญหน่วยงานสุขอนามัยของฮ่องกงเยี่ยมชมขั้นตอนการเตรียม สินค้าผลไม้เพื่อส่งออกต่อไป
“จากการเดินทางไปเยือนฮ่องกงระหว่างวันที่ 5-8 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้หารือกับ รมว.กระทรวงการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกงในการร่วมกันแก้ไขปัญหาการ ชุบสารขมิ้นและสารตกค้างในทุเรียน เพราะตามระเบียบของฮ่องกงไม่อนุญาตให้ชุบสารใดๆ รวมถึงขมิ้น ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบดังกล่าว เพราะตลาดฮ่องกงถือเป็นตลาดสำคัญในการส่งออกทุเรียนของไทย ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกมากกว่า 50% โดยปี 2558 มียอดการส่งออกทุเรียนไปฮ่องกงประมาณ 6,000 ล้านบาท” นางอภิรดีกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฮ่องกงในการ เร่งแก้ไขปัญหากรณีที่ฮ่องกงมีความเข้มงวดการนำเข้าทุเรียนจากไทย หลังพบแช่สารสีเหลืองก่อนส่งออก โดยทูตพาณิชย์ของไทยประจำฮ่องกงได้ทำการชี้แจงต่อหน่วยงาน Food & Environmental Hygiene Department (FEHD) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสาธารณสุขของฮ่องกงแล้วว่าสารสีเหลืองเป็นขมิ้น ซึ่งเป็นสารธรรมชาติ เป็นสมุนไพร ไม่เป็นอันตราย และเป็นการชุบเพื่อให้สีผิวสวย
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น มีสาเหตุมาจากการที่ผู้นำเข้ารายย่อยในฮ่องกงได้ไปนำเข้าทุเรียนของไทยที่ ส่งออกไปยังจีนเพื่อนำมาจำหน่ายในฮ่องกงอีกต่อหนึ่ง เนื่องจากความต้องการบริโภคในฮ่องกงเพิ่มสูงขึ้น และราคาจำหน่ายสูงขึ้นจากเดิมขีดละ 5 เหรียญฮ่องกงเป็นขีดละ 10 เหรียญฮ่องกง จึงทำให้มีพ่อค้ารายย่อยไปนำเข้าทุเรียนผ่านทางจีนเข้ามา และเมื่อนำเข้ามาแล้วก็ถูกเจ้าหน้าที่จากหน่วยงาน FEHD ไปสุ่มตรวจ และเจอปัญหาดังกล่าว และยังเจอสารเร่งสุกสูงเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดไม่เกิน 2 ppm ด้วย
อย่างไรก็ตาม ปกติไทยส่งออกทุเรียนไปจีนมีการชุบขมิ้นได้ แต่ที่ฮ่องกงไม่ได้ พอเมื่อพ่อค้าไปนำเข้ามาจากจีนแล้วมาขายก็เลยมีปัญหา ดังนั้น ผู้ส่งออกของไทยต้องปฏิบัติตามระเบียบให้เข้มงวด เพราะถ้ายังคงใช้และหากตรวจพบเกินปริมาณที่กำหนดก็จะส่งผลกระทบต่อการส่งออก ทุเรียนไปยังฮ่องกงในอนาคตได้
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
