สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปลุกสำนึกคนไทย เล่นสงกรานต์อย่างมีสติ

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์สามัญสำนึก โดย ถวัลย์ศักดิ์ สมรรคะบุตร

เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ถือว่า แปลกกว่าปีก่อน ๆ เนื่องจากเป็นสงกรานต์ในสถานการณ์ขาดแคลนน้ำ จากการที่ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งติดต่อกันมาหลายปี และดูเหมือนว่าปีนี้จะหนักสุด เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนเมื่อเริ่มต้นปีน้ำ (เดือนพฤศจิกายน 2558) ต่ำกว่าปีที่ผ่านมามาก ส่งผลให้ภัยแล้งมาเยือนประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี 2559 เลยทีเดียว

รายงาน สถานการณ์น้ำในเขื่อนล่าสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม ปรากฏ 4 เขื่อนหลัก (ภูมิพล-สิริกิติ์-แควน้อยบำรุงแดน-ป่าสักชลสิทธิ์) เหลือน้ำใช้การได้รวมกันแค่ 2,837 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ขณะที่เขื่อนอื่น ๆ ที่มีน้ำเหลือน้อยกว่าร้อยละ 30 มีถึง 16 แห่ง ในจำนวนนี้ที่ย่ำแย่จริง ๆ หรือเหลือน้ำใช้งานได้จริงต่ำกว่าร้อยละ 10 ประกอบไปด้วย เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล (10%), เขื่อนแม่กวง (5%), เขื่อนกิ่วคอหมา (9%), เขื่อนห้วยหลวง (10%), เขื่อนกระเสียว (8%) โดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์ เหลือน้ำ 4 ล้าน ลบ.ม. (0%) หรือถึงขั้นต้องใช้น้ำก้นอ่างกันแล้ว ขณะที่เหลือจำนวนวันอีกไม่ต่ำกว่า 60 วันจึงจะเข้าสู่ฤดูฝนหากไม่เกิดปรากฏการณ์ฝนทิ้งช่วงเหมือนกับปีที่ผ่านมา อีก 

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตภัยแล้งของประเทศในปีนี้ว่าหนักหนาสาหัสเพียงใด

จาก จำนวนวันที่เหลืออยู่กว่า 60 วันก่อนที่ฝนจะตก กลายเป็นโจทย์ข้อใหญ่ของรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรมชลประทาน-การประปานครหลวง-การประปาส่วนภูมิภาค ที่ว่าจะฝ่าวิกฤตนี้ไปให้ถึงฤดูฝนได้อย่างไร เฉพาะลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้องอาศัยน้ำจาก 4 เขื่อนหลักเพื่อผลักดันน้ำเค็มและน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค (ไม่ต้องพูดถึงน้ำเพื่อการเกษตรแต่อย่างใด เพราะไม่มีจะจัดสรรให้อีกแล้ว) จากปริมาณน้ำจัดสรรตามแผนประมาณ 4,920 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้ใช้ไปแล้ว 2,494 ล้าน ลบ.ม. คงเหลือน้ำเพียง 2,427 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเชื่อกันว่าจะเพียงพอไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

ภาย ใต้เงื่อนไขที่ว่า ทั้ง 4 เขื่อนหลักจะต้องระบายน้ำไม่เกินวันละ 18 ล้าน ลบ.ม. (แน่นอนว่าไม่มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเลย) ซึ่งน้อยมากเกินกว่าจะจัดสรรน้ำเพื่อกิจกรรมอื่น ๆ นอกเหนือไปจากน้ำกินน้ำใช้เท่านั้น

ทว่าประเพณีสงกรานต์ต้องดำเนินต่อไป ตามความเห็นของกระทรวง วัฒนธรรม (วธ.) ที่ว่า "เป็นประเพณีที่มีสาระงดงาม ให้ความสำคัญต่อการแสดงความศรัทธาในศาสนา ความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ และการแสดงความปรารถนาดีต่อผู้อื่น" ทั้งหมดนี้จะต้องใช้ "น้ำ" เท่านั้น

แต่จะใช้ "น้ำ" กันอย่างไร เพื่อรักษาประเพณีที่งดงามนี้ไว้ ? 

จาก ข้อเท็จจริงที่ว่า ประเทศไทย "จำเป็น" ต้องจัดสรรน้ำกินน้ำใช้กันอย่างเข้มงวด เพื่อให้ผ่านพ้นช่วง 60 วันวิกฤตภัยแล้งไปให้ได้ ในความหมายที่ว่า น้ำทุกหยดมีคุณค่า ไม่ควรปล่อยทิ้งลงดินไปเสียเฉย ๆ 

ทั้งหมดนี้สร้างความลำบากใจให้กับรัฐบาล ที่ด้านหนึ่งรณรงค์ให้ประหยัดน้ำกันอย่างเข้มข้น อีกด้านหนึ่งก็ "ไม่ กล้า" ที่จะห้ามไม่ให้คนเล่นน้ำสงกรานต์ จนสุดท้ายกลับกลายมาเป็นสโลแกน หรือแนวคิดใหม่ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบของ ครม. เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี้ คนไทยจะต้องเล่น "สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า" ด้วยการ

1) ไปทำบุญตักบาตร 2) การสรงน้ำพระพุทธรูป 3) การสรงน้ำพระสงฆ์ 4) การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ ที่สำคัญก็คือ "การขอความร่วมมือ" ไม่ให้ใช้น้ำเล่นสงกรานต์กันอย่างฟุ่มเฟือย ในที่นี้ขยายความไปถึง การนำน้ำใส่รถกระบะเล่นสาดน้ำที่ชอบกันเหลือเกิน กับการใช้สายยางฉีดน้ำใส่กันบนท้องถนนหนทางต่าง ๆ ทั่วประเทศ 

ชัดเจนว่าเป็นแค่ขอความร่วมมือ ไม่ได้ใช้มาตรการทางกฎหมายบังคับ

ดัง นั้นการฝ่าวิกฤตภัยแล้ง 60 วันอันตรายในปีนี้ จึงสุดแท้แต่ "คนไทย" จะตัดสินใจเล่นสงกรานต์กันอย่างไร ระหว่าง "ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า" กับ "สาดน้ำโครม ๆ เอาสนุกลืมโลก 3 วัน 3 คืนกันอย่างเดียว"


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : ปลุกสำนึกคนไทย เล่นสงกรานต์อย่างมีสติ

view