สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กลาโหมไฟเขียวงบฯ 200 ล้าน อุทยานฯ-ป่าไม้ ซื้อปืนลูกซอง กันบุกรุกป่า

จากประชาชาติธุรกิจ

เมื่อวันที่ 4 เมษายน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จัดประชุมระหว่างประเทศ ไทย จีน ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูงผิดกฎหมาย โดยมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีทส.เป็นประธานให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าประเทศไทยจะเข้มงวดกับการป้องปราบและปราบปรามการลักลอบตัด ไม้พะยูง แต่ยังพบว่าอัตราการลักลอบตัดไม้พะยูง ยังมีจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ป่าพะยูงลดลง ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีไม้พะยูงเหลือมากที่สุดในโลก ดังนั้น จึงมีการนำปัญหาเรื่องการลักลอบตัดไม้พะยูงมาหารือกับประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คือ จีน ลาว กัมพูชา และเวียดนาม เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดและ ซื้อขายไม้พะยูง เพราะระดับการป้องกันที่ผ่านมายังไม่ได้ผลมากนัก โดยสาเหตุหลักมาจากความต้องการของตลาดมืดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาล พยายามสืบหาขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงอยู่แต่ข้อมูลยังไม่ชัดเจน

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ทส.จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ ในการปราบปรามให้เข้มงวดมากขึ้นรวมทั้งจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ที่แม้จะไม่มีหน้าที่ไล่ล่าขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูง แต่ก็มีหน้าที่ป้องกันตัวเองและทรัพยากรป่าไม้ของไทย จึงได้เตรียมจัดซื้ออาวุธปืนลูกซอง โดยในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติฯ จำนวน 3,385 กระบอก ใช้งบประมาณ 142 ล้านบาท ของกรมป่าไม้ 445 กระบอก ใช้งบประมาณกว่า 18 ล้านบาทเศษ โดยปืนที่จัดซื้อเป็นปืนลูกซอง 8 นัด ราคาเฉลี่ยกระบอกละ 40,000 บาทเศษ

เมื่อถามว่า แต่เดิมกระทรวงกลาโหมและกองทัพบก เคยไม่ให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองใช่หรือไม่ เพราะเกรงว่าจะกระทบความมั่นคง พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงกลาโหม ได้อนุญาติให้กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ มีอาวุธปืนในครอบครองแล้ว เพื่อภารกิจในการปกป้องทรัพยากรของประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ไม่อนุญาติให้กรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ มีอาวุธปืนในครอบครองตั้งแต่ปี 2549

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ได้มอบให้นายศิริ อัคคะอัคร ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปรมและควบคุมไฟป่า เป็นประธานจัดซื้ออาวุธปืนลูกซองลำกล้องเดี่ยวขนาด 12 เกจ ลำกล้องยาวไม่น้อยกว่า 18 นิ้ว บรรจุได้ 8 นัด โดย 7 นัดบรรจุในหลอดกระสุนและ 1 นัดบรรจุในรังเพลิง บรรจุกระสุนด้วยมือผู้ยิง สามารถใช้ได้กับทุกสภาพพื้นที่ สามารถใช้กระสุนความยาว 2 นิ้วและ 3 นิ้วได้ โดยจะเปิดให้ผู้มีคุณสมบัติเข้ายื่นประกวดราคา โดยการที่เจ้าหน้าที่มีอาวุธ ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้การป้องกันและปราบปรามมีประสิทธิภาพขึ้น เพราะกลุ่มขบวนการที่ลักลอบตัดไม้พะยูงและบุกรุกฟื้นที่ป่ามีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพและครบมือกว่าเจ้าหน้าที่ จึงไม่มีความเกรงกลัว

ขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า อาวุธปืนที่กรมป่าไม้ จะจัดซื้อเป็นปืนลูกซอง 9 นัด โดย 8 นัดบรรจุในหลอดกระสุนและ 1 นัดบรรจุในรังเพลิง มีกล้อง ไฟส่องสว่าง พานท้ายปืนยืดหดได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ที่เข้าวิจารณ์หรือบริษัทที่ให้ควมสนใจการประมูลการจัดซื้ออาวุธปืนของกรมอุทยานฯ จำนวน 3,385 กระบอกงบประมาณ 142,170,000 บาท มีจำนวน 6 คน/บริษัท ได้แก่ 1.นายธนเสฏฐ์ ขันทองฐิติภัทร์ 2..บริษัท ยี.เอ็ช.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 3.ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปืนศรีดำริห์ 4.บริษัท แอ็ดวานซ์อาร์มส จำกัด 5.ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปืนธำรงรตน์และ 6.บริษัท จีเอเอ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ไทยแลนด์) จำกัด



ที่มา : มติชนออนไลน์


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : กลาโหมไฟเขียวงบฯ 200 ล้าน อุทยานฯ-ป่าไม้ ซื้อปืนลูกซอง กันบุกรุกป่า

view