จากประชาชาติธุรกิจ
“บิ๊กตู่” เผยชาวสวนยางไม่ขายยางให้รัฐ เพราะไม่สะดวกขนส่ง-พ่อค้าขยับราคาขึ้นตาม แนะการกรีดยางแบบไม่ต้องใช้คน
“บิ๊กตู่” ยันใช้เงินทุนประเดิม กยท. 500 ล้านรับซื้อยางเผย กระทรวงเกษตรยังไม่ขอเงินเพิ่ม “พล.อ.ฉัตรชัย” รายงาน ครม.คิ๊กออฟซื้อนำตลาดวันแรกได้ยาง70.6 ตัน ชี้เกษตรกรขายน้อยเพราะพ่อค้าคนกลางเริ่มขยับราคารับซื้อเพิ่มเท่าโครงการรัฐทำให้ชาวสวนยางซื้อกับเอกชนมากกว่ารัฐ
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2559 เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงโครงการรับซื้อยางจากภาครัฐเพื่อแก้ไขปัญหาราคายาง ว่า ตอนนี้ยังมีการรับซื้อในจำนวนน้อย เนื่องจากราคาท้องตลาดเพิ่มขึ้นมาที่อยู่ที่กิโลกรัมละ 40 กว่าบาท จึงทำให้ราคาจากพ่อค้าและรัฐบาลไม่ต่างกันมาก รัฐบาลเพียงแค่ซื้อนำราคาเฉยๆ ส่วนการนำไปสู่การผลิต จะดำเนินการต่อ โดยกำลังจับคู่กันให้ได้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งระยะยาว ประชาชนเองก็ต้องยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะถ้าทุกคนยังยืนหยัดอันเดิมอยู่ก็จะไปด้วยกันไม่ได้
พล.อ.ประยทธ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่มีการของบประมาณช่วยเหลือยางเพิ่มเตืม เพราะเงินเก่ายังใช้ไม่หมด ตอนนี้เพิ่งซื้อมา 70 ตัน เมื่อขนมาไกลเกษตรกรก็ไม่อยากเอามา และต้องมีการแปรรูปมาก่อนด้วย เพราะถ้าซื้อน้ำยางแล้วขนขึ้นมาก็จะเป็นปัญหา รัฐก็ต้องมองในแง่ของการหางบประมาณลงไปเพื่อให้เกิดการแปรรูปขึ้นต้นในท้องถิ่นแทน
สำหรับการพัฒนายางพาราในอนาคต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องมีการดูในเรื่องการกรีดยางที่ไม่ต้องใช้คน ตั้งเวลาใบมีด โดยที่ จังหวัดบึงกาฬ มีการนำมาโชว์แล้ว แต่ต้องดูด้วย ถ้าใช้เครื่องมือมากขึ้นพวกกรีดยางจะตกงานหรือเปล่า แต่ถ้าใช้เครื่องมือการกรีดยางก็จะเร็วขึ้น ต้นทุนก็ลดลงด้วย การปลูกพืชแซมในสวนยางรัฐเองก็สนับสนุนมาโดยตลอด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการแก้ปัญหาราคายางจะใช้งบการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) ถ้าไม่พอเขาก็จะขอเพิ่มขึ้นมา ซึ่งกรอบวงเงินได้มีการอนุมัติล่วงหน้า แต่เวลาจะใช้ก็ต้องนำเสนอขออนุมัติต่อครม.อีกครั้ง อะไรที่ทำไปแล้ว และงบไม่พอก็ต้องขออนุมัติงบเพิ่มเติม มีทั้งเงินต้น เงินชดเชยดอกเบี้ย
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า หลังจากการซื้อยางรอบแรก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แจ้งที่ประชุมครม.ว่า 70.6 ตัน ซึ่งน้อยมาก แบ่งเป็นยางแผ่นดิบ 47.3 ตัน น้ำยาง 4.2 ตัน และยางก้อนถ้วยอีกประมาณ 19.3 ตัน สาเหตุที่ได้น้อยเกิดจากฝนตก เกษตรกรเอามาขายน้อย และบรรดาพ่อค้าคนกลางที่เห็นรัฐบาลมารับซื้อเขาก็ขยับราคาตามขึ้นมาไม่ต่างกันแค่ 2-3 บาท เกษตรกรจึงคิดว่าถ้ามาขายรัฐต้องแยกให้ชัดเจน ยางต้องมีความบริสุทธ์พอสมควร มีน้ำปนอยู่เท่าไหร่ แต่ถ้าขายกับพ่อค้าคนกลางเขาจะขายรวมๆกัน ซึ่งราคาลดลงแค่ 2-3 บาทเขายอมเพื่อความสะดวก อีกส่วนก็มาดูก่อนว่าตลาดเป็นอย่างไร จึงเป็นสาเหตุให้ยังรับซื้อได้น้อย ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้มีความกังวลใด
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
