สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

จับตายางขาขึ้นแค่ ชั่วคราว

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย...สิทธิณี ห่วงนาค

จับตายางขาขึ้นแค่ "ชั่วคราว"

ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ จะเป็นวันแรกที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดจุดรับซื้อยาง 1,500 จุดทั่วประเทศ เพื่อรับซื้อน้ำยางจากเกษตรกรชาวสวนยางโดยตรงในราคานำตลาด โดยกำหนดราคารับซื้อยางแผ่นดิบชั้น 3 ที่ราคา 45 บาท/กิโลกรัม (หากเป็นยางประเภทอื่นๆ ราคาจะลดหลั่นกันไป) ปริมาณไม่เกิน 150 กิโลกรัม/ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 1 แสนตัน เพื่อดูดซับผลผลิตยางออกจากตลาด

ขณะที่ยางพาราที่ กยท.รับซื้อเข้ามา จะถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หรือวัสดุยางชนิดต่างๆ เพื่อใช้ในงานก่อสร้างของส่วนราชการ เช่น ทำผิวทางแอสฟัลท์ติก คอนกรีตผสมยางพารา ยางทำผนังบ่อดินหรือยางปูเคลือบบ่อน้ำ ฝายยางทดน้ำ ยางแผ่นปูอ่างเก็บน้ำ แผ่นยางปูคอกพื้นปศุสัตว์ สร้างสนามฟุตซอลและลู่วิ่งยางพารา ปรับปรุงสนามกีฬา อาทิ สนามฟุตซอล เซปักตระกร้อ วอลเลย์บอล สนามเด็กเล่น และลู่-ลานกีฬา

แตกต่างจากวิธีการเดิมที่รัฐบาลรับซื้อยางแล้วนำไปแปรรูปเป็น “ยางแผ่นรมควัน” เก็บไว้ในสต๊อก จนส่งผลให้ขณะนี้รัฐบาลมียางเก็บไว้ในสต๊อกเกือบ 4 แสนตัน และยังขายออกไม่ได้จนบัดนี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประเมินว่า แม้ว่า กยท.จะรับซื้อยางจากชาวสวนยางไม่เกิน 150 กิโลกรัม/ครัวเรือน แต่เป็นระดับที่เหมาะสม เนื่องจากรัฐบาลต้องการช่วยเหลือชาวสวนยางรายย่อยที่มีพื้นที่ปลูกไม่เกิน 15 ไร่ และขณะนี้ใกล้เข้าสู่ฤดูปิดกรีดแล้ว ดังนั้นเป้าหมายรับซื้อยางที่ 1 แสนตัน จะทำให้ราคายางในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ราคายางแผ่นดิบ (ท้องถิ่น) เพิ่มเป็น 36.50 บาท/กิโลกรัม ราคาน้ำยางสด (ณ โรงงาน) เพิ่มเป็น 38.50 บาท/กิโลกรัม และราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพารา อ.หาดใหญ่ เพิ่มเป็น 40.59 บาท/กิโลกรัม หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเข้ารับซื้อยางนำตลาดเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ซึ่งราคายางแผ่นดิบ (ท้องถิ่น) อยู่ที่ 32.50 บาท/กิโลกรัม ราคาน้ำยางสด (ณ โรงงาน) อยู่ที่ 32 บาท/กิโลกรัม และราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 35.53 บาท/กิโลกรัม

จึงเท่ากับว่ามาตรการซื้อยางนำตลาดได้ผล เพราะทำให้ราคายางในตลาดปรับเพิ่มขึ้น 4-5 บาท/กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้นกว่า 12% ในขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงจากระดับ 32 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เหลือ 28 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือลดลง 12%   

อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปต้องติดตามว่า กยท.จะสามารถบริหารจัดการไม่ให้การตั้งจุดรับซื้อยางในครั้งนี้เกิดข้อครหาทุจริตได้หรือไม่ เพราะในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า “ต้องการให้ทุกฝ่ายติดตามและควบคุมการซื้อยางไม่ให้เกิดการทุจริต หรือนำยางมาเวียนเทียน”

เชาว์ ทรงอาวุธ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการ กยท. กล่าวว่า เพื่อให้ชาวสวนยางรายย่อยเข้าถึงโครงการได้ทั่วถึง กยท.จะเปิดจุดรับซื้อยางกว่า 1,000 จุด โดยใช้พื้นที่ของสถาบันเกษตรกรต่างๆ เป็นจุดรับซื้อ และเนื่องจาก กยท.มีข้อจำกัด โดยเฉพาะจำนวนเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ไม่มาก กยท.จะประสานกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาประจำจุดรับซื้อยาง

สำหรับชาวสวนยางที่จะเข้าร่วมโครงการรับซื้อยางได้ เชาว์ ระบุว่า จะต้องเป็นชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท.เท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 1 ล้านราย สูงกว่าตัวเลขการขึ้นทะเบียนของกรมส่งเสริมการเกษตรที่พบว่ามีชาวสวนยาง 8.5 แสนราย เนื่องจากกฎหมาย กยท.ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นรายครัวเรือน ดังนั้นแต่ละครอบครัวอาจมีเจ้าของสวนยางมากกว่า 1 ราย

ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้นโยบายว่า กยท.ต้องสร้างระบบรับซื้อยางที่กระจายไปทั่วถึงทุกภาคและเป็นธรรม และให้เน้นรับซื้อน้ำยาง ยางแผ่น และยางก้อนถ้วยจากชาวสวนยางรายย่อยทั้งในภาคใต้ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แหล่งข่าวจาก กยท. เปิดเผยว่า ในขณะที่รัฐบาลอนุมัติงบซื้อยาง 1 แสนตัน จำนวน 4,500 ล้านบาท แต่พบว่ารัฐบาลอนุมัติงบ 979 ล้านบาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายแปรรูปและขนส่ง 739 ล้านบาท ค่าเก็บรักษายาง 150 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการไม่เกิน 90 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงเกินไป และหากมีระบบบริหารจัดการที่ดีค่าใช้จ่ายจะลดลงมาก

“ต้องทำแผนให้ชัดก่อนว่า เช่น ถ้าใช้น้ำยางผสมทำผิวหน้าถนน ก็ต้องรู้ว่าใช้เท่าไหร่ เมื่อซื้อแล้วจะได้นำไปผสมเลย ไม่ต้องเสียค่าเก็บรักษา”แหล่งข่าวเปิดเผย

แหล่งข่าวเตือนว่า การรับซื้อยางไม่เกิน 150 กิโลกรัม/ครัวเรือน ปริมาณ 1 แสนตันนั้น “อาทิตย์เดียวก็ซื้อหมดแล้ว” หลังจากนั้นอาจได้เห็นราคายางปรับลดลงได้

ดังนั้น รัฐบาลต้องเตรียมแผนสองสำรอง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางให้อยู่ในระดับ 45 บาท/กิโลกรัม ไม่เช่นนั้นเงินที่รัฐทุ่มลงไปกว่า 5,400 ล้านบาท อาจทำได้เพียงแค่ “ซื้อเวลา” ได้ไม่เกินชั่วเวลาครึ่งเดือนเท่านั้น


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : จับตายางขาขึ้นแค่ ชั่วคราว

view