จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
CMMU เผยโฮสเทลดาวรุ่งธุรกิจท่องเที่ยวปี 59 ระบุเปิดแล้วกว่า 2,000 แห่ง แบ่งตลาดนักท่องเที่ยวราคาประหยัดเข้าพักกว่า 12% และคาดสิ้นปีนี้อัตราเปิดใหม่จะเพิ่มอีกกว่า 10% แนะภาครัฐเร่งจัดระเบียบสร้างมาตรฐาน ขณะที่งานวิจัยระบุงานดีไซน์หัวใจแห่งความสำเร็จ แนะ 5 กลยุทธ์พิชิตใจแบ็กแพกเกอร์
นายบุริม โอทกานนท์ รองคณบดีงานสนับสนุนการศึกษา และอาจารย์ประจำสาขาวิชาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่า จากการเติบโตของธุรกิจโฮสเทลในปัจจุบันถือเป็นโอกาสดีสำหรับอุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยวของประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้หลักเข้าประเทศ โดยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2558 ที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 22 ล้านคน โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศได้ถึง 1.8 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ ประเทศไทยยังติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่นักท่องเที่ยวคนเดียวไม่ควรพลาดจากการจัดอันดับของเว็บไซต์ www.lifehack.org
ทั้งนี้ ปัจจุบันในประเทศไทยมีโฮสเทลมากกว่า 2,000 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 12 ของที่พักนักท่องเที่ยวทั้งหมด ถือได้ว่ามีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากในช่วงปีที่ผ่านมา และหากพิจารณาถึงด้านรูปแบบของตัวธุรกิจแล้วนั้น โฮสเทลเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูงและไม่มีข้อจำกัดที่ตายตัว ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจโฮสเทลมีอิสระในการออกแบบรูปแบบของโฮสเทลได้ตามต้องการ โดยอาศัยความโดดเด่นและเอกลักษณ์ประจำตัวเป็นจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่อง เที่ยว
นายบุริมเสริมต่อว่า จากปัจจัยทั้งในแง่ของมูลค่าอุตสาหกรรมและเทรนด์พฤติกรรมการท่องเที่ยวใน ปัจจุบันทำให้ธุรกิจโฮสเทลจึงเป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการทั้งหน้าเก่าและหน้า ใหม่หันมาให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจโฮสเทลมีโอกาสเพิ่มเติบโตขึ้นอีกกว่าร้อยละ 10 ภายในสิ้นปีนี้ (2559) โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ควรให้ความสำคัญหลังจากนี้ ภาครัฐควรจะมีการจัดระเบียบผู้ประกอบธุรกิจโฮสเทลอย่างเป็นทางการ เมื่อให้เกิดมาตรฐานและความปลอดภัย เอื้อประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจนี้ที่ดำเนินธุรกิจได้คุณภาพ ในขณะเดียวกัน สกัดผู้ประกอบการที่ผิดระเบียบไม่ให้ก่อความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจ ดาวรุ่งนี้
รองคณบดีฯ ระบุด้วยว่า คาดว่าความนิยมของธุรกิจโฮสเทลจะยังสูงขึ้นต่อเนื่องตามการเติบโตของธุรกิจ ท่องเที่ยวประเทศไทย อย่างไรก็ตาม สถานที่เปิดใหม่จะกระจายไปยังต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทำเลในกรุงเทพฯ หายากมาก โดยจังหวัดที่คาดว่าจะมีโฮสเทลเปิดใหม่สูง คือ จังหวัดที่มีเศรษฐกิจดีตามภาคต่างๆ จังหวัดที่มีวัฒนธรรมเฉพาะตัว และจังหวัดตามชายแดน เป็นต้น นอกจากนั้น ธุรกิจโฮสเทลจะเข้ามาแย่งคู่แข่งและแบ่งสัดส่วนตลาดไปจากโรงแรมราคาถูก ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมราคาถูกต้องปรับตัว สร้างคุณภาพเพื่อจะขยายหาลูกค้าระดับบนขึ้นไป
ด้าน น.ส.อัฐภิญญา ปุณณมากุล นักศึกษาวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่า จากการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนากลยุทธ์การทำธุรกิจโฮสเทลให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา Consulting Practice ที่ออกแบบให้นักศึกษาได้ปฏิบัติจริง เพื่อสามารถนำไปต่อยอดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยงานวิจัยเริ่มต้นจากการสอบถามผู้ใช้บริการโฮสเทล 200 คน และสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มตัวอย่างทั้งนักท่องเที่ยวฝั่งยุโรปและเอเชียจำนวน 30 คน เมื่อได้ผลออกมาสามารถสรุปเป็น 5 กลยุทธ์ดังนี้
1. เข้าใจ - เข้าใจความต้องการและจุดประสงค์ในการเข้าพักของผู้เข้าพัก โดยผู้เข้าพักอาจไม่ได้ต้องการบริการที่เพียบพร้อมเหมือนเข้าพักในโรงแรม แต่ต้องการบรรยากาศสบายๆ เสมือนบ้าน และแหล่งพบปะเพื่อนใหม่ๆในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การท่องเที่ยว
2. เข้าทาง - เข้าทางการดึงจุดเด่นของสถานที่มาเป็นจุดขาย หรือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อสร้างความโดดเด่นและแตกต่าง ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์และเกิดการจดจำ เนื่องจากสถานที่คือหนึ่งในจุดขายที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีที่สุด
3. เข้าพัก - สร้างให้ผู้เข้าพักได้เข้าพักโฮสเทลที่ใช่ มีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน เป็นที่จดจำของลูกค้าได้ นำไปสู่การบอกต่อในหมู่นักท่องเที่ยวได้ต่อไป
4. เข้าถึง - เข้าถึงช่องทาง โดยเฉพาะทางด้านเว็บไซต์ต่างๆ ที่สามารถทำการจอง และแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างผู้เข้าพักได้ โดยช่องทางนี้เป็นช่องทางที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกเข้าพักของนักท่อง เที่ยวเป็นอย่างมาก
5. เข้าหา - เข้าหาลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีใส่ใจในทุกรายละเอียดของลูกค้า เพื่อสร้างความสุขและสนุกสนานในการอยู่ร่วมกันเสมือนคนในครอบครัว ซึ่งการเข้าหาลูกค้านั้นยังทำให้ทางเจ้าของโฮสเทลได้รับทราบผลตอบรับเพื่อนำ มาพัฒนาโฮสเทลให้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนการศึกษาวิจัยดังกล่าวได้ศึกษาข้อมูลการท่องเที่ยวในปัจจุบันพบว่า เทรนด์การท่องเที่ยวคนเดียว (Solo Traveling) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวกล้าที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวมากขึ้น โดยผลสำรวจของ Visa Global Travel Intentions Study ปี 2558 ที่สอบถามนักท่องเที่ยวจำนวน 13,000 คนจาก 25 ประเทศ พบว่ามีการท่องเที่ยวคนเดียว ร้อยละ 24 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ10 เมื่อเทียบกับปี 2557 และจากเทรนด์ดังกล่าวทำให้ธุรกิจโฮสเทลเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากร้อยละ 64 ของนักท่องเที่ยวคนเดียวนั้นเลือกใช้บริการที่พักประเภทโฮสเทล โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในช่วงอายุ 18-30 ปี ซึ่งมีเหตุผลหลักคือเรื่องราคา ความต้องการพบปะเพื่อนใหม่ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ท่องเที่ยวระหว่างกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วยกัน
ด้านนายคมสิทธิ์ แสงมณี ผู้ร่วมก่อตั้งโอลด์ทาวน์โฮสเทล (Old Town Hostel) โฮสเทลชื่อดังย่านเจริญกรุง ที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแบ็กแพกเกอร์ (Backpacker) ชาวต่างชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจโฮสเทลได้รับความนิยมในต่างประเทศมาระยะใหญ่แล้ว เนื่องจากเทรนด์ของการท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันเปลี่ยนผ่านสู่การท่องเที่ยว ในรูปแบบการท่องเที่ยวคนเดียวและใช้บริการที่พักแบบโฮสเทล ทั้งนี้ก็เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนร่วมเดิน ทางใหม่ๆ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยวแบบแบ็กแพกเกอร์ และจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้ท่องเที่ยวแบบแบ็กแพกเกอร์และเข้าพักโฮสเท ลมากว่า 75 ประเทศ หนึ่งในปัจจัยหลักที่สำคัญที่ทำให้ผู้เข้าพักมีความพึงพอใจกับโฮสเทลนั้น คือพื้นที่ส่วนรวม (Common area) ซึ่งมีจุดประสงค์หลักสำหรับใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และ เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักท่องเที่ยวแบ็กแพกเกอร์ที่เข้า พักในโฮสเทลเดียวกันมากขึ้น จึงกล่าวได้ว่าการยอมสละพื้นที่ห้องพักและสร้างเป็นพื้นที่ส่วนรวมมากขึ้น จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการโฮสเทลไม่ควรมองข้ามเพราะหากนักท่อง เที่ยวมาใช้บริการและประทับใจในโฮสเทลและการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมเดิน ทางใหม่ๆ แล้วนั้น การบอกต่อแบบปากต่อปากผ่านอินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นจุดสำคัญที่ ทำให้ธุรกิจโฮสเทลประสบความสำเร็จได้ภายใต้ระยะเวลาอันสั้น
ด้านนายธรรมนูญ วิสิษฐ์ศักดิ์ อีกผู้ร่วมก่อตั้งโอลด์ทาวน์โฮสเทล (Old Town Hostel) ระบุว่า ที่พักโฮสเทล ในประเทศไทย เริ่มมีแนวโน้มการแข่งขันดุเดือด จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. มีผู้สนใจเข้ามาทำธุรกิจกลุ่มนี้มากขึ้น และ 2.มีการพัฒนาตึกแถวที่ว่างเปล่าจำนวนมาก ในรูปแบบที่พักดังกล่าว เพื่อรองรับกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่มาคนเดียว (แบ็กแพกเกอร์) ในไทย
ขณะที่ปัจจุบันธุรกิจบริการดังกล่าวมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นแบบเท่า ตัว หรือ มีผู้ให้บริการโฮสเทลไม่ต่ำกว่า 400 แห่ง เปรียบเทียบกับช่วง 4-5 ปีก่อนที่มีจำนวนกว่า 200 แห่ง เพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ทั้งชาวเอเชีย และ ยุโรป ที่ยังต้องการเดินทางท่องเที่ยวมายังไทย แต่จะปรับรูปแบบการพักผ่อนหรือใช้ชีวิตที่คุ้มค่าคุ้มราคามากขึ้นตามงบ ประมาณที่กำหนดไว้ต่อการเดินทาง
“โฮสเทลเริ่มเป็นที่นิยมในต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว จากเทรนด์การท่องเที่ยวในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปสู่การท่องเที่ยวคนเดียวและ ใช้ที่พักแบบโฮสเทล เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น” นายธรรมนูญ กล่าว
เจาะลึกพฤติกรรม ‘แบ็กแพ็คเกอร์’ ในการเลือก “โฮสเทล”
ปัจจัยต่อการตัดสินใจเลือกโฮสเทล
เอเชีย ทำเล 56% ราคา 47% ความคุ้มค่า 41%
ยุโรป ราคา 62% บรรยากาศ 49% ทำเล 35%
เลือกทำเลโฮสเทลจากอะไร
เอเชีย -ใกล้รถไฟฟ้า -พื้นที่โดยรอบปลอดภัย -อยู่ใจกลางเมือง -ใกล้แหล่งท่องเที่ยวกลางคืน
ยุโรป - อยู่ใจกลางเมือง-ใกล้แหล่งท่องเที่ยว -พื้นที่โดยรอบปลอดภัย -ใกล้แหล่งท่องเที่ยว
ราคาที่ยินดีจ่าย
เอเชีย =>600-1,000 บาท
ยุโรป =>300-400 บาท
สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการเลือกโฮสเทล
เอเชีย รีวิว 61% เพื่อนบอกต่อ 20%
ยุโรป รีวิว 74% เพื่อนบอกต่อ 19%
รู้จักโฮสเทลผ่านช่องทางใด
เอเชีย agoda 59% Booking.com 43% tripadvisor 14% airbnb 14%
ยุโรป Hostelworld.com 38% Booking.com 34% agoda 22% airbnb 22%
สิ่งที่ผู้เข้าพักคาดหวังจะได้รับจากโฮสเทล
เอเชีย - WiFi -เครื่องปรับอากาศ -น้ำดื่ม -เตียงสะอาด -ปลั๊กไฟบริเวณที่นอน
ยุโรป -พื้นที่ทำกิจกรรมส่วนกลาง -ผ้าเช็ดตัว-ยาสระผม สบู่ -อุปกรณ์อื่นๆที่ช่วยไม่ให้เสียเงินเพิ่ม
ข้อมูลโดย : การศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนากลยุทธ์การทำธุรกิจโฮสเทลให้ประสบความสำเร็จ
โดยนักศึกษาปริญญาโท วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU)
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต