จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ชี้เศรษฐกิจโลกชะลอ ฉุดราคาข้าวไทยไม่สูงขึ้น เชื่อหากศก.ฟื้นจะดันให้ราคาข้าวไทยกลับมาดีขึ้นได้
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ ประธานที่ปรึกษา สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า หากปัญหาภัยแล้งปี 2559 มีความรุนแรงมาก น่าจะกระทบสินค้าภาคการเกษตรโดยเฉพาะข้าวค่อนข้างมาก และจากการประเมินโดยกรมวิชาการเกษตรหากปัญหาภัยแล้งรุนแรงจะกระทบการเพาะ ปลูกข้าวเปลือกนาปรังที่คาดว่าปริมาณผลผลิตจะหายไปร้อยละ 40-50 ซึ่งมียอดรวมผลผลิตข้าวเปลือกนาปรัง 8-9 ล้านตันข้าวเปลือก หรือข้าวเปลือกน้อยลงไม่ต่ำกว่า 4 ล้านตันข้าวเปลือก คิดเป็นข้าวสารไม่ต่ำกว่า 3 ล้านตัน ทำให้ผู้ส่งออกยังมีความวิตกกังวลจากปัญหาดังกล่าวพอสมควร แต่คงต้องติดตามปัญหาภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นปีนี้อาจจะไม่รุนแรงอย่างที่คาด กันไว้ก็เป็นได้ หากปริมาณผลผลิตจะลดประมาณร้อยละ 20-30 ก็จะไม่กระทบการทำตลาดข้าวไทยมาก
นอกจากนี้ หากคิดในเชิงการตลาดปริมาณผลผลิตที่ลดลง แต่ราคาผลผลิตน่าจะสูงขึ้น ซึ่งยอมรับว่าปี 2558 จนถึงครึ่งแรกปี 2559 จากปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้หลายประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยกำลังซื้อลดลงหันไปบริโภคและซื้อสินค้า เกษตรชนิดอื่นแทนการบริโภคข้าว เช่น ข้าวสาลีและข้าวโพดแทน ทำให้ระดับราคาสินค้าข้าวในตลาดโลกไม่ได้สูงขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงต่อเนื่องจนทำให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ หันไปสั่งซื้อข้าวจากประเทศคู่แข่งไทยที่มีราคาถูกกว่าแทน แต่ก็มีการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น ทำให้ราคาข้าวไทยในตลาดโลกโดยเฉพาะข้าวขาวในช่วงไตรมาส 1-2 น่าจะอยู่ที่ 370-395 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และเมื่อเศรษฐกิจโลกดีขึ้นในช่วงครึ่งปีจะส่งผลให้ราคาข้าวขาวไทยจะปรับ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 420-440 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันก็เป็นได้ ทำให้ราคาข้าวเปลือกภายในประเทศจะกลับมาอยู่ในระดับที่สูงขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ภาคส่งออกข้าวมีความกังวลใจมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะเดินหน้าเร่งระบาย สต็อกข้าวค้างเก่าโดยเฉพาะข้าวที่มีคุณภาพดีที่ยังคงเหลือกว่า 5-6 ล้านตันให้หมดภายในปีนี้อาจจะทำให้ราคาข้าวไทยในตลาดโลกไม่ได้ปรับตัวสูง ขึ้นได้ ซึ่งต้องระมัดระวังตรงนี้เป็นอย่างมาก แต่จากการติดตามดูตัวเลขการส่งออกข้าวปี 2558 ประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 คือ อินเดียส่งออกมากสุดถึงกว่า 11 ล้านตัน อันดับ 2 ไทยส่งออกได้ถึง 10 ล้านตัน อันดับ 3 เวียดนาม 6.5 ล้านตัน และปี 2559 ไทยน่าจะกลับมาเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ได้ โดยคาดว่าจะส่งออกได้ 9-9.5 ล้านตัน อินเดียอยู่ที่ 8.5 ล้านตันจากปัญหาผลผลิตที่น้อยลง แม้ว่าปริมาณผลผลิตข้าวไทยปีนี้จะลดลงไปบ้าง แต่ขณะนี้ความต้องการข้าวไทยทั้งข้าวขาวและข้าวพรีเมี่ยมโดยเฉพาะข้าวหอม มะลิไทยเริ่มกลับมามีความต้องการจากหลายประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงแนวทางการทำตลาดและการเดินหน้าประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดโลกต่อ เนื่อง ซึ่งปีนี้กำลังซื้อจะเน้นกลุ่มตลาดเอเชียและอาเซียน รวมถึงตลาดแอฟริกา รัสเซีย จีน ส่วนตลาดตะวันออกกลางยังคงต้องติดตามหากราคาน้ำมันยังไม่สูงขึ้นมากประเทศ เหล่านี้จะหันไปสั่งซื้อข้าวประเทศที่มีราคาถูกว่าข้าวไทยแทน เป็นต้น
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
