จากประชาชาติธุรกิจ
บิสซิเนส อินไซเดอร์ รายงานว่า จีนประสบปัญหาหมอกควันพิษมาอย่างยาวนาน อ้างอิงจากจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยสาเหตุดังกล่าวกว่า 1 ล้านคน ในปี 2010 และอย่างที่ทราบกันดีว่า ปักกิ่งนั้นถือเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก เนื่องจากการเป็นเมืองอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม สาเหตุของปัญหามลพิษในจีน อาจมาจากปัจจัยที่ไม่ได้คาดคิดอย่าง "เกษตรกรรม" โดยพบว่าการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนมีผลกระทบอย่างมากต่ออากาศ น้ำ และคุณภาพดินในจีน
ทั้งนี้ จีนมีพื้นที่เพาะปลูกที่ใช้ปุ๋ยไนโตรเจนเป็นสัดส่วน 35% ของโลก โดยพบว่าทั่วโลกมีการเพาะปลูกที่ใช้ปุ๋ยไนโตรเจนอยู่เพียง 7%
เห็นได้ว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง
การ ใช้ปุ๋ยไตรเจนในปริมาณมากเกินกำหนดจะส่งผลกระทบต่อด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมใน หลายๆด้านทั้งทำลายระบบนิเวศใต้น้ำลดอัตราการให้ผลผลิตของพืช รวมถึงทำให้เกิดมลพิษทางน้ำ
ผลกระทบที่สำคัญของการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนคือ เป็นมลพิษทางอากาศ โดยเมื่อไนโตรเจนทำปฏิกิริยากับอากาศและมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมจะทำให้จับตัวกันหนาแน่น กลายเป็นหมอกควันพิษ ที่ไม่เพียงแค่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ อาทิ โรคหอบหืด และยังเป็นสาเหตุของปัญหาภาวะโลกร้อนในระดับนานาชาติอีกด้วย
เนื่องจากข้าวเป็นอาหารหลักของชาวจีนจึงมีการใช้ปุ๋ยไตรเจนในการเพาะปลูกเพื่อเร่งผลผลิต
แต่เดิม มีการปลูกข้าวกันอย่างจริงจังในภาคเหนือของประเทศจีน ซึ่งต่อมาเป็นข้าวที่เคยมีการตกแต่งทางพันธุกรรม ทำให้การดูดซับไนโตรเจนน้อยลง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกษตรกรต้องใช้ปุ๋ยไนโตรเจนเป็นสารอาหารหลัก
อย่าง ไรก็ตามมีความพยายามในการลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนโดยนักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนา ข้าวสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถดูดซับไนโตรเจนจากดินได้ดีกว่าพันธุ์เดิมซึ่งจะ สามารถลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนลงได้ในขณะเดียวก็จะช่วยลดมลพิษทางอากาศอีกด้วย
การพัฒนาทางวิทยาศาตร์ในครั้งนี้จึงมีความสำคัญ ที่อาจช่วยแก้ปัญหาหมอกควันอันเกิดจากใช้ปุ๋ยไนโตรเจน ทั้งยังลดการทำลายระบบนิเวศทางน้ำ แม้ปัญหานี้อาจเป็นเพียงสาเหตุเล็กๆ และเป็นการทดลองเริ่มต้นเท่านั้น ก็ถือว่าจีนแก้ปัญหาได้ถูกทาง
เรียบเรียงโดยประชาชาติฯออนไลน์
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต