จากประชาชาติธุรกิจ
กลุ่มวังขนายจับมือคูโบต้า ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอ้อยน้ำตาล ตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะเพิ่มปริมาณอ้อยอินทรีย์ให้ได้ถึงร้อยละ 30 ของปริมาณอ้อยทั้งหมด เผยโครงการนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนและค่าเเรงได้มากกว่า 70%
นายบุญญฤทธิ์ ณ วังขนาย ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มบริษัทน้ำตาลวังขนาย เปิดเผยว่า "โครงการ วังขนาย-คูโบต้า พลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล" จัดทำขึ้นมาเพื่อช่วยเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ปลูกอ้อยอินทรีย์ และตอบสนองนโยบายภาครัฐในเรื่องการส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ และเกษตรปลอดภัย ที่ผ่านมาทางกลุ่มวังขนายได้จัดทำโครงการปลูกอ้อยอินทรีย์มาเป็นเวลานานกว่า 15 ปีแล้ว ปัจจุบันมีเกษตรกรในโครงการฯจำนวน 1,000 กว่าราย มีพื้นที่ปลูกอ้อยอินทรีย์ที่ต้องดูแลประมาณ 30,000 ไร่
จากเดิมที่คิดใช้เพียงแรงงานเกษตรกร ขณะนี้กลุ่มวังขนายมั่นใจแล้วว่าโครงการปลูกอ้อยอินทรีย์จะต้องขยายใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ดังนั้นแรงงานคนอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จึงเล็งเห็นว่าสยามคูโบต้ามีความเหมาะสมที่จะร่วมมือผลักดันให้โครงการนี้ประสบผลสำเร็จ
"เราได้ทำการศึกษาร่วมกับคูโบต้ามา 1 ปี ลองผิดลองถูก ตั้งเเต่ทดลองกระทั่งส่งคนไปฝึกงานที่ออสเตรเลียเพื่อกลับมาพัฒนา สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือหากเรานำเครื่องจักรที่เหมาะสมกับอ้อยบ้านเรามาลดกำลังเเรงคน เฉพาะค่าจ้างเเรงงานลดลงได้ถึง 70-80% ส่วนต้นทุนเราถูกอยู่เเล้วเพราะออร์แกนิคไม่ต้องพึ่งปุ๋ย ซึ่งผมคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวหนึ่งของอุตสาหกรรมน้ำตาลในอนาคต"
สำหรับในปี 2558 นี้ กลุ่มวังขนายสามารถผลิตน้ำตาลออร์แกนิคได้ถึง 15,000 ตัน แบ่งเป็น ส่งจำหน่ายในประเทศ 75% และส่งออกไปต่างประเทศ 25% ได้แก่ เกาหลีใต้ ฮ่องกง มาเลเซีย สิงค์โปร์ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี โอเชียเนีย และนิวซีแลนด์
ส่วนราคาน้ำตาลออร์แกนิคภายในประเทศไทยที่จำหน่ายในห้างสรรพสินค้า ราคากิโลกรัมละ 26 บาท ส่วนราคาส่งออกน้ำตาลออร์แกนิค (FOB Price) นั้นจะสูงกว่าราคาขายปลีกในประเทศ 15%-50% ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้ทำสัญญากันไว้ โดยกลุ่มวังขนายตั้งเป้าหมายภายใน 3-5 ปีนี้ จะเพิ่มปริมาณอ้อยอินทรีย์ให้ได้ถึงร้อยละ 30 ของปริมาณอ้อยทั้งหมดของกลุ่มวังขนาย เพื่อนำไปผลิตเป็นน้ำตาลออร์แกนิคส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
"เป็นที่ทราบกันดีว่าราคาน้ำตาลซบเซามานาน เเต่เทรนด์ของตลาดขณะนี้ คือความปลอดภัย ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าออร์แกนิคได้รับความนิยมสูงทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งวังขนายผลิตน้ำตาลออร์แกนิคอยู่แล้ว ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี" นายบุญญฤทธิ์กล่าว
ด้านนายโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่าโครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของกลุ่มวังขนายและสยามคูโบต้า ที่ต้องการยกระดับศักยภาพขั้นตอนการผลิต สำหรับปลูกอ้อยข้ามแล้ง เพื่อให้ดินเก็บความชื้นไว้ในดินช่วงหน้าแล้ง โดยเครื่องปลูกอ้อย ที่ใช้แรงงาน 1- 2 คน สามารถทำงานได้สูงสุด 20 ไร่ต่อวัน จึงช่วยลดต้นทุนค่าจ้างแรงงาน
อีกทั้งเครื่องฝังปุ๋ย เครื่องคีบอ้อย และแทรกเตอร์ขนาดเล็กที่มีความคล่องตัวร่องอ้อยสูง เพื่อกำจัดวัชพืช ช่วยลดการใช้สารเคมีและสารปนเปื้อนไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้มั่นใจได้ว่าวัตถุดิบที่ป้อนสู่อุตสาหกรรมการผลิตน้ำตาลจะมีคุณภาพ สามารถนำไปผลิตเป็นน้ำตาลออร์แกนิคที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพเหมาะสำหรับการบริโภคเพื่อสุขภาพที่ดีต่อไป
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,#อุปกรณ์แค้มปิง,#อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต