สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

รู้จักภัตตาคารจีนชื่อดังแห่ง ซิลิคอน วัลเลย์ ทำไมซีอีโอระดับโลกถึงติดใจร้านนี้

จากประชาชาติธุรกิจ

เป็นที่ทราบกันดีว่า "ซิลิคอน วัลเลย์" เป็นแหล่งรวมบริษัทด้านเทคโนโลยีชื่อดังของโลก ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิลหรือกูเกิล ในขณะเดียวกัน ก็เป็นที่ตั้งของภัตตาคารอาหารจีนที่ยอดเยี่ยมและมีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่ง นั่นก็คือภัตตาคาร "Chef Chu’s"

เว็บไซต์ nextshark ได้พาไปรู้จักกับเจ้าของภัตตาคารคือ "เชฟ Chu" รวมถึงที่มาที่ไปและเรื่องราวที่ทำให้ภัตตาคารแห่งนี้ประสบความสำเร็จ


เครดิตภาพจาก Melly Lee

ภัตตาคาร "Chef Chu’s" เปิดกิจการขึ้นเมื่อปี 1970 โดย "Lawrence Chu" ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นแหล่งรวมตัวของตัวพ่อด้านเทคโนโลยี เหล่าคนดังและนักการเมืองมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น เซเรน่า วิลเลียม นักเทนนิสชื่อดัง , จัสติน บีเบอร์ นักร้องขวัญใจวัยรุ่น และอดีตซีอีโอแห่งอินเทล เคร็ก บาร์เร็ต ต่างก็เคยมาลิ้มลองรสชาติอาหารที่ภัตตาคารแห่งนี้ตั้งแต่ช่วงที่เปิดตัวใหม่ๆ รวมไปถึง "สตีฟ จอบส์" ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิลที่ล่วงลับ ก็เคยมาเยี่ยมเยือนที่นี่ ก่อนเขากลายจะมาเป็นตำนานแห่งเทคโนโลยีอย่างทุกวันนี้

"เชฟ Chu" เจ้าของภัตตาคารบอกว่า ในช่วงปี 2012 สตีฟ จอบส์ เคยมารอคิวจองโต๊ะเหมือนกับคนทั่วไป ใช้เวลาอยู่เกือบ 45 นาที ในตอนนั้นเขากำลังจดจ่ออยู่กับนิตยสารไทม์ แต่เชฟ Chu เองยุ่งมากจนไม่ได้สนใจว่าใครเป็นใคร


เครดิตภาพจาก Melly Lee

เหตุการณ์สำคัญที่น่าจดจำของร้านนี้ คือในช่วงกลางปี 1980 เมื่อ George Shultz อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องการจัดประชุมด่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสมัยประธานาธิบดี Ronald Reagan เขาได้เลือกร้าน "Chef Chu’s" เป็นสถานที่นัดพบ

และเมื่อไม่นานมานี้ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ก็มีโอกาสมารับประทานอาหารที่ภัตตาคาร "Chef Chu’s" เช่นกัน
เชฟ Chu บอกว่า มาร์คมาที่นี่พร้อมกับ Priscilla ภรรยาของเขาบ่อยครั้ง รวมถึงครอบครัวของเขาก็มาด้วย


แม้ว่าจะมีเหล่าคนดังมากหน้าหลายตาเข้ามารับประทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งนี้ เชฟ Chu ก็ยังคงยึดถือคติที่ว่า
" ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน เราก็จะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน " ด้วยเหตุผลง่ายๆคือทุกคนจ่ายเงินค่าอาหารเท่ากัน ไม่ว่าคุณจะเป็นวิศวกร หมอหรือเจ้าหน้าที่ราชการ


เครดิตภาพจาก Melly Lee

แม้จะดำเนินกิจการมาเป็นเวลา 45 ปีและเชฟ Chu ก็มีอายุ 72 ปีแล้ว เขายังคงทำงานด้วยความรัก และกระตือรือร้นเหมือนเดิม นอกจาก เชฟ Chu จะเปิดภัตตาคารแล้ว เขายังเป็นเจ้าของหนังสือสูตรทำอาหาร และเริ่มต้นธุรกิจบริการจัดเลี้ยงอาหาร รวมเปิดคอร์สสอนทำอาหารอีกด้วย

ประวัติคร่าวๆของเชฟ Chu เกิดในประเทศจีน แต่เติบโตในไต้หวันและฮ่องกง หลังจากนั้นครอบครัวของเขาก็ย้ายมาอาศัยที่แคลิฟอร์เนียร์ในช่วงปี 1960 ซึ่งพ่อของเขาได้พลิกผันจากสถาปนิกมาเป็นเจ้าของภัตตาคารในซิลิคอน วัลเลย์ และไม่กี่ปีต่อมาเชฟ Chu ก็ย้ายมาที่นี่ตอนอายุ 20 ปี

งานแรกที่เขาเริ่มทำคือการเป็นผู้ช่วยบริกรที่ภัตตาคาร Trader Vic’s ในซานฟรานซิสโก หลังจากที่ได้ทำงานอย่างหนัก และทำหน้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ช่วยบริกร บริกร บาร์เทนเดอร์ และสุดท้ายเขาก็รักในอาชีพนี้ จึงตัดสินใจว่าจะต้องมีกิจการเป็นของตัวเองสักวันหนึ่ง และขณะนั้นเชฟ Chu ก็ได้พบรักกับ Ruth Ho ภรรยาในปัจจุบันของเขา ที่กำลังศึกษาปริญญาเอกอยู่ที่มหาวิทยาลัย Stanford เขาหยอกภรรยาเสมอๆว่า ตนก็เป็นนักศึกษาปริญญาเอกยากจนคนหนึ่งที่จริงใจ จนกระทั่งเขาเอาชนะใจเธอได้สำเร็จรวมถึงพ่อตาของเขาด้วย    

เชฟ Chu เล่าอีกว่า เขาบอกความฝันที่จะเปิดร้านอาหารจีนแบบฟาสต์ฟู้ดในอเมริกาให้พ่อฟัง พ่อของเขาเห็นด้วยและให้การสนับสนุนอย่างดี โดยไม่ได้สนใจว่าเขาต้องเรียนจบอะไร คิดเพียงแค่ว่าเขาคือชายหนุ่มวัย 25 คนหนึ่งที่มีความฝัน

และในปี 1970 เชฟ Chu ก็เริ่มเปิดกิจการตามความฝันที่ตั้งใจ โดยเปิดร้านในพื้นที่ที่เคยเป็นร้านซักรีดเล็กๆ แห่งหนึ่งมาก่อน ตั้งอยู่ระหว่างร้านเสริมสวยและร้านซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ จากนั้น 6 เดือนถัดมา เขาขยายกิจการและเปลี่ยนจากการขายแบบฟาสต์ฟู้ดเป็นมีบริการที่นั่งในร้าน และสามปีจากนั้น เขาปรับปรุงร้านครั้งใหญ่ด้วยเงินเก็บและเงินจากการสนับสนุนของพ่อตา

แม้ ว่าในขณะนั้นเขาจะประสบความสำเร็จกับการเป็นเจ้าของกิจการร้านอาหารแต่ เชฟChuก็ยังต้องเรียนรู้การทำอาหารจากเชฟที่เขาจ้างมาเพื่อที่จะพัฒนาฝีมือ ในการทำอาหารให้ดีขึ้นกว่าเดิม เขาฝึกฝนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมากว่า 20 ปี


ไม่นานนักหลังจากที่ร้านอาหารของพ่อเขาถูกปิด เนื่องจากความเข้มงวดของกรมสุขอนามัย ทำให้เขาตระหนักว่าจะต้องให้ความสำคัญกับสุขอนามัยในร้านอาหารของตน เชฟ Chu จึงเข้าเรียนในวิทยาลัยเกี่ยวกับสุขอนามัยอาหาร ทำให้ทุกวันนี้สิ่งที่เขาให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่งก็คือความสะอาดและสุขอนามัยที่ดี


เครดิตภาพจาก Melly Lee

ในช่วงแรกเชฟ Chu คิดอยากจะเปิดสาขาภัตตาคารของเขาไปทั่วโลก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าจะโฟกัสเพียงแค่ร้านเดียว ขณะเดียวกัน แม้อยู่ในวัย 72 ปี เขาก็ยังเดินทางท่องเที่ยวไปหลายประเทศในเอเชียเพื่อค้นหาสูตรอาหารใหม่ๆ

เขาได้รับคำถามมากมายไม่ว่าจะเป็นเหตุใดจึงเปิดร้านเพียงสาขาเดียว,อายุ72แล้ว ทำไมยังทำงานอยู่ ทำไมถึงไม่จ้างพนักงานแล้วเปิดหลายๆสาขา คำถามเหล่านี้ก็ได้คำตอบจากเชฟ Chu ว่า นี่เป็นภัตตาคารในแบบที่เขาอยากจะทำ เขาเชื่อว่าการทำงานอย่างหนัก ท้ายที่สุดมันจะทำให้คุณเป็นผู้นำ นอกจากนี้เขายังมีทีมงานที่เยี่ยมยอด พวกเขาทำงานกับเชฟ Chu นานถึง 20-30 ปี เพราะความเชื่อใจที่มีให้กัน

เชฟ Chu มีความกระตือรือร้นและพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นผู้นำในการทำงานที่แท้จริง
 
ไม่เพียงแค่เชฟChu ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต Jon M. Chu ลูกชายคนกลางของเขาก็ยังประสบความสำเร็จ
กับอาชีพไดเร็คเตอร์ โดยมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง "G.I. Joe : Retaliation"  “Step Up 2: The Street”
และผลงานเพลงของ  “Justin Bieber ในเพลง Never Say Never” รวมถึงลูกชายอีกคน Larry Chu ยังมีแผนจะสานต่อกิจการภัตตาคารของเขาอีกด้วย
 
แม้ว่าเชฟ Chu จะมีความรู้ในการทำอาหารและประสบความสำเร็จในชีวิตมากเพียงใด เขาก็ไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้ และนี่ก็คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้
 
เชฟ Chu ยังกล่าวปิดท้ายอีกว่า เขาภูมิใจกับอาชีพนี้ ยังเชื่อมั่นในคติประจำใจและสัญชาตญาณของตน เขาให้ใจกับงานนี้ 100 เปอร์เซ็นต์ และยังเชื่อว่าเพราะโลกไม่เคยหยุดหมุน เฉกเช่นกับตัวเขาที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง 


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : รู้จักภัตตาคารจีนชื่อดังแห่ง ซิลิคอน วัลเลย์ ทำไมซีอีโอระดับโลกถึงติดใจร้านนี้

view