สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ดราม่าบุฟเฟ่ต์ไทย...กินแต่พอดีหรือยัดเต็มที่ให้คุ้มค่า?

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย....ศศิธร จำปาเทศ

ที่ผ่านมา "ร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์" ครองใจคนไทยมานานนับสิบปี วัดได้จากร้านหมูกระทะ กุ้งย่าง และอื่นๆอีกมากมายก่ายกองที่ผุดขึ้นตามหัวมุมถนนราวดอกเห็ดในฤดูฝน เพราะความที่กินไม่อั้นในราคาเท่าเดิมนี่เอง ทำให้คนจำนวนมาต่างใช้บริการกันอย่างคึกคัก จนบางร้านต้องกำหนดกติกาใหม่ เช่น จำกัดเวลา กินไม่หมดถูกปรับ แต่กระนั้น ดูเหมือนความนิยมในร้านอาหารเหล่านี้ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย

กินสนุก ...เสน่ห์ดึงดูดใจของบุฟเฟ่ต์

ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย นักการตลาดชื่อดัง อธิบายว่า สาเหตุที่ร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์ได้รับความนิยมก็เพราะกินแล้วสนุก

"ก่อนที่ร้านอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์จะเข้ามา เราก็กินอาหารตามสั่ง สั่งเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น แต่ร้านบุฟเฟ่ต์ได้รับความนิยมก็เพราะกินได้ไม่จำกัดแต่จ่ายราคาเท่าเดิม บุฟเฟ่ต์ในต่างประเทศเน้นความเป็นวาไรตี้ ขายความหลากหลายในราคาเดียว ขณะที่บุฟเฟ่ต์บ้านเน้นราคาถูกมากกว่าความหลากหลายเพื่อให้คนรู้สึกว่าคุ้ม คนไทยเลยคิดว่าต้องกินให้เต็มที่ คิดเรื่องคุ้มเป็นหลัก ส่วนใหญ่เจ้าของร้านจะคิดว่าลูกค้าคงไม่นั่งเกินชั่วโมงครึ่ง เต็มที่ 2 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นร้านที่จึงกำหนดเวลาไว้เท่านี้ แล้วก็ตั้งกติกาว่าถ้าคุณกินเหลือต้องจ่ายเท่าไหร่ เพราะคนตักมาแล้วกินเหลือ ร้านเขาก็เสียหายเพราะนั่นคือต้นทุน เป็นธรรมดาที่ร้านหมูกระทะบุฟเฟ่ต์ทุกร้านต้องคำนึงค่าเสียหายอยู่แล้ว"

นักการตลาดรายนี้แนะว่าการกินบุฟเฟ่ต์ควรเลือกกินในปริมาณที่เหมาะสม กินอย่างพอดี ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป

"บุฟเฟ่ต์อย่าไปเน้นที่ราคามาก แต่ควรเน้นที่คุณภาพ ถึงแม้ว่าเราจะจ่ายสูงนิดนึงแต่ได้คุณภาพที่ดีกว่าเราก็ควรเลือกคุณภาพ อย่าเป็นชูชก เรากินเพื่ออยู่ไม่ได้อยู่เพื่อกิน หิวก็กิน แล้วการกินให้เกินคุ้มใส่เข้าไปในร่างกายมากๆมันไม่ใช่ผลดีต่อร่างกายเลย"

กินเหลือ-แอบห่อกลับ-ชักดาบ สารพัดพฤติกรรมหัวหมอ

ร้านบาร์บีคิวรีสอร์ท หนึ่งในร้านอาหารปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์ที่เปิดให้บริการมานาน 6 ปี ทุกๆเย็นย่ำไปจนถึงดึกดื่นโต๊ะกว่า 200 ที่นั่งจะเนืองแน่นไปด้วยลูกค้า ชิรวิน วริทธิ์ธรานนท์ กรรมการผู้จัดการร้านบาร์บีคิวรีสอร์ท เล่าว่า ร้านบาร์บีคิวรีสอร์ทคิดราคาหัวละ 229 บาทมีอาหารกว่า 120 เมนูให้เลือกสรร เน้นคุณภาพของวัตถุดิบสดใหม่วันต่อวัน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัว นั่งแช่กันนานตั้งแต่ 1- 4 ช.ม.

"พฤติกรรมทั่วไปของลูกค้าที่ร้านก็นั่งนานแต่ไม่ได้ทานเยอะ บางคนก็มาพบปะพูดคุยกัน บางคนมาร้องเพลงกันที 3-4 ชั่วโมง บางคนรีบกินรีบกลับ การนั่งนานนี่มันมีทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ ขณะเดียวกันยังมีพฤติกรรมอื่นๆของลูกค้าที่เอาเปรียบ เช่น กินแล้วไม่จ่าย เดินออกจากร้านไปหน้าตาเฉย ทางร้านก็ต้องตามตัวมาให้จ่าย บางคนแอบเอาอาหารกลับบ้าน ทั้งที่มีป้ายบอกว่าไม่ให้นำอาหารออกนอกบริเวณร้าน เข้าข่ายลักขโมย ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็ต้องเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย แต่ส่วนมากเราจะใช้วิธีพูดคุยมาคุยและขอร้องไม่ให้ทำอีกมากกว่า ส่วนเรื่องกินเหลือแล้วปรับเงิน ก็ต้องดูปริมาณก่อนว่าเยอะหรือไม่ ถ้าเยอะมาก ก็ใช้วิธีคุยกับลูกค้าให้ทานให้หมด หรือให้เหลือน้อยที่สุดเราจะได้ไม่ปรับ แต่ถ้าตักมาทานแล้วไม่ทาน ตักมาเล่นๆ ก็ต้องปรับขีดละ 30 บาท ส่วนที่กินเหลือนั้นเรานำมาแยกเป็นเศษอาหารใส่ถังแกลอนส่งต่อให้พนักงานเก็บขยะ"

กรรมการผู้จัดการร้านบาร์บีคิวรีสอร์ท บอกว่า อยากให้เห็นใจซึ่้งกันและกัน ร้านก็อยากให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ บรรยากาศชั้นยอด รสชาติอาหารชั้นเยี่ยม เพื่อให้ลูกค้าประทับใจ ตัวลูกค้าเองก็ควรทานอย่างพอดี ไม่ทานเหลือ ไม่แอบขโมยอาหารกลับบ้าน รักษากติกามารยาท เพื่อสร้างสังคมที่ดีร่วมกัน

"อย่าจำกัดเวลา พวกเราอยากนั่งชิล"เสียงจากลูกค้า

จิราภรณ์ เชยสุวรรณ ลูกค้ารายหนึ่งของร้านหมูกระทะ เธอมักจะมานั่งทานบุฟเฟ่ต์เฉพาะโอกาสพิเศษ เพราะได้เลือกกินอาหารที่หลากหลาย ราคาประหยัด และต้องการสังสรรค์กับเพื่อนฝูง

"วันนี้นั่งนานกว่า 4 ชั่วโมงแล้ว การที่บางร้านมีนโยบายจำกัดเวลาโดยส่วนตัวก็คิดว่าเกินไปนะ เราเข้าใจผู้ประกอบการว่าเขาเสียรายได้เพราะทำให้เขาไม่มีลูกค้าเพิ่มจากการนั่งเป็นเวลานานของเรา แต่บางทีลูกค้าก็อาจจะไม่ตั้งใจนั่งเกินเวลา อย่างเราเองก็จะชอบนั่งกินเรื่อยๆจนกว่าจะหมด สาเหตุที่นั่งแช่เพราะว่าอาหารยังเหลือ เลยนั่งกินชิลๆเรื่อยๆกินไปคุยไปกับเพื่อน"

กมลนัทร์ ตระกูลใต้ บอกว่า ทุกครั้งที่มาจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เพราะคิดว่ามาทั้งทีต้องกินให้คุ้ม

"ต้องกินพอประมาณ พอเราตัวว่าอิ่มแล้วก็ไม่ควรจะตักมาเผื่อ เราเข้าใจกับทางร้านนะว่าเขาจะต้องเสียวัตถุดิบเยอะ เราเลยไม่เคยกินเหลือเลย แต่ขอให้เห็นใจผู้บริโภคด้วยว่าอย่าจำกัดเวลาเวลาเลย เราเสียตังค์แล้วก็อยากได้สิ่งที่มันคุ้มจริงๆ บางคนไม่ได้มากินอย่างเดียวแต่มานั่งคุยพบปะกันด้วย ถ้าจะจำกัดเวลาจะรียกบุฟเฟ่ต์ได้อย่างไร บางครั้งเราอยากนั่งชิลๆเรื่อยๆ"

กินมากเสี่ยงตาย แถมโลกร้อน

น้อยคนจะรู้และใส่ใจว่าการกินอาหารปิ้งๆย่างๆในปริมาณที่มากเกินไปนั้นส่งผลเสียต่อร่างกายเกินจะคาดคิด

ยศสินี หัวดง อาจารย์ประจำหลักสูตรโภชนาการและการประกอบอาหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวว่า พฤติกรรมการรับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์ของคนไทยจะเน้นกินเนื้อสัตส์มากกว่าผัก

"การกินเนื้อสัตว์ในปริมาณมากเกินกว่าร่างกายจำเป็น ทำให้ร่างกายต้องใช้น้ำปริมาณมากในการขับสารอาหารประเภทโปรตีนออกมา ซึ่งจะทำให้ไตทำงานหนักอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคไต โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคมะเร็ง อันเกิดจากสารคาซิโนเซน เวลาเราย่างอาหารจะติดเป็นเขม่าปนมากับอาหาร หรือจุดดำๆหรือสีดำๆบนเนื้อ แม้จะตัดออกก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย 100 % เพราะโดนความร้อนโดยตรงจากแผ่นกระทะ เราไม่รู้ว่ากระทะนั้นเคลือบสารอะไรหรือปล่า มีสารตะกั่วปะปนไหม เมื่อรวมกับเขม่าที่ปนออกมาด้วยมันเลยทำปฏิกิริยากันกลายเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง"

นักโภชนาการรายนี้ แนะนำว่า การกินบุฟเฟ่ต์ให้ปลอดภัยต้องเลือกผักให้เยอะ ส่วนเนื้อสัตว์ก็ควรเลือกเนื้อสันที่ไม่ติดมัน หรือจะเป็นเนื้อปลาเลยก็ได้ เวลาปิ้งให้สุกพอดี แต่อย่าให้เกรียมมาก เพราะยิ่งเกรียมมากก็จะมีสารคาสิโนเซนเยอะตามไปด้วย

ขณะที่ เบญจมาส โชติทอง ผู้จัดการแผนสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย มองว่า การกินบุฟเฟ่ต์แบบไม่อั้นเกินความจำเป็นอาจทำให้เสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักในบ้านเรา

"ถ้าเศษอาหารที่ทิ้งไม่ถูกจัดการอย่างดีพอไปรวมกับขยะอื่นมันจะสร้างภาระในการเก็บและการกำจัดของหน่วยงานท้องถิ่น  เวลาเอาไปกำจัดไม่ใช่แค่ผู้บริโภคคนใดคนหนึ่งแต่มันเป็นเงินของสังคมที่ได้จากภาษีที่ต้องจ่ายให้กับหน่วยงานเหล่านี้ เราสูญเสียทรัพยากรอย่างมากมายกว่าจะได้อาหารหนึ่งจาน ไม่อยากให้มองแค่เป็นเพียงอาหาร แต่อยากให้มองตั้งแต่ต้นทางว่าเราเสียทรัพยากรอะไรไปบ้างจนถึงปลายทางของอาหาร ทั้งกระบวนการผลิต การขนส่ง การปรุงอาหาร หากเราทานไม่หมดอาหารเหล่านั้นก็เปล่าประโยชน์เพราะการกินทิ้งกินขว้างอย่างไม่คิด"

ถึงบรรทัดนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การบริโภคแต่ละครั้งควรคำนึงถึงความพอดี เพราะการรับประทานอย่างพอเพียงจะทำให้สังคมไม่ต้องรับภาระจากการรับประทานแบบไม่อั้นของเราด้วย


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : ดราม่าบุฟเฟ่ต์ไทย...กินแต่พอดีหรือยัดเต็มที่ให้คุ้มค่า?

view