จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เพชรบูรณ์/พิษณุโลก - ผอ.สำนัก 4 กรมป่าไม้ ยกคณะอุ่นเครื่องขึ้น “ภูทับเบิก” ก่อนสนธิกำลังลุยแก้ปัญหารีสอร์ตผุดเกลื่อนดอย เผยปี 55-57 จับดำเนินคดี 27 รีสอร์ต ศาลตัดสินแล้ว 10 ราย แต่ยังดื้อเเพ่งไม่ยอมออกจากพื้นที่จนถึงวันนี้
วันนี้ (11 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรที่ 4 สาขาพิษณุโลก นายชิต อินทระนก ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ นายสมศักดิ์ ชวนชม หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ พช.2 (เขาค้อ) นายประจักษ์ มิยา หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ พช.18 (น้ำชุน) ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และทหารลงพื้นที่ “ภูทับเบิก” ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
หลังสื่อมวลชนนำเสนอข่าวการก่อสร้างห้องพัก รีสอร์ตบนภูทับเบิกอย่างไม่ถูกต้องจำนวนมาก บนที่ดิน ซึ่ง “กรมประชาสงเคราะห์” ขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ ตามมติ ครม.09 ประมาณ 12,000 ไร่ ในเขตอำเภอหล่มเก่า เพื่อให้คนในพื้นที่สูง คือ เผ่าม้ง นอกจากนี้ ยังมีการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินใน 2 หมู่บ้านเขต ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ทำให้ไร่กะหล่ำปลีชาวม้ง แปรสภาพรีสอร์ตมากมาย
นายมานพ สายอุ่นใจ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรที่ 4 สาขาพิษณุโลก กล่าวว่า เป็นการเดินทางมาเพื่อประเมินทิศทางสภาพปัจจุบัน ก่อนที่จะสนธิกำลังหลายฝ่ายของจังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อแก้ปัญหารีสอร์ตภูทับ เบิก ซึ่งยอมรับว่าที่ดินส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวน พ.ศ.2507 จึงไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ ทำได้เพียงการบังคับใช้ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ทำให้นายทุนไม่เกรงกลัว ดำเนินการซื้อขายที่ดิน สร้างรีสอร์ตเพิ่มเติมไม่หยุด
ทั้งที่ในห้วงปี 2555-57 กรมป่าไม้ดำเนินการจับกุม และตรวจยึดที่ดินรีสอร์ตตลอดแนวภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ จนเป็นคดีสู่ สภ.หล่มเก่า รวมทั้งสิ้น 27 คดี ศาลพิพากษาไปแล้ว 10 คดี โดยหนึ่งในนั้นมีคดีที่สำคัญคือ กรณีรีสอร์ตร้านอาหาร “โรงเตี้ยม” ซึ่งเป็นร้านอาหารตั้งอยู่ริมถนน และเปิดบริการห้องพักบริเวณด้านหลัง โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 6 เดือน และปรับ 5,000 บาท ส่วนโทษจำให้รอลงอาญา 1 ปี ให้การสารภาพลดกึ่งหนึ่ง จึงเสียค่าปรับ 2,500 บาท และให้บริวารออกจากพื้นที่
แต่จำเลยอุทธรณ์ ศาลพิพากษายืน กรณีนี้กรมป่าไม้ กำลังรอหนังสือสำคัญคดีถึงที่สุดจากอัยการ จากนั้นกรมป่าไม้โดยสำนักฯ 4 พล. จะยื่นให้อัยการบังคับคดีให้จำเลยปฏิบัติตามคำสั่งศาล
นอกจากนี้ ยังมีรีสอร์ตบนภูทับเบิกที่ถูกดำเนินคดีลักษณะเดียวกันกับ “โรงเตี้ยม” คือ 1.ไร่เติมรัก 2.ริมธารรีสอร์ท 3.ช้างทอง 4.สมบุญรีสอร์ท 5.กาแฟแม่ล้ำ 6.เอนกาย@ทับเบิก 7.ยูงทอง 8.ทับภูเบิกวิลเลจ 9.ภูทองคำ เช่นเดียวกับรีสอร์ตที่เหลือ 17 ราย (รวม 27 ราย) ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้วก็จะต้องดำเนินการบังคับตามคำสั่งศาลไม่มียกเว้น
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
