สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

โซเซียลนักแต่งรถข้องใจ ม.44 กระทบเสรีภาพ

จาก โพสต์ทูเดย์

โดย…นิติพันธุ์ สุขอรุณ

กลายเป็นเรื่องถกเถียงกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันถึงกฎหมายมาตรา 44  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช 2557 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ในสังคมโซเซียลทันทีที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา
 
ทำให้เหล่าผู้นิยมแต่งรถเพื่อความสวยงาม แสดงความไม่พอใจต่อการบังคับใช้กฎหมาย เพราะเป็นการบีบบังคับสิทธิเสรีภาพ ความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ดุลพินิจเกินอำนาจหน้าที่
 
ชานันท์ คงวัดใหม่ พนักงานบริษัทเอกชน ผู้นิยมการแต่งรถเพื่อความสวยงาม เปิดเผยว่า การออกกฎหมายเช่นนี้เท่ากับบังคับไม่ให้คนทำในสิ่งที่รัก เพราะความชอบแต่งรถเพื่อความสวยงาม แตกต่างจากการแต่งรถไปแข่งขัน แข่งซิ่งบนท้องถนน ซึ่งส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับกลุ่มคนที่กระทำผิดกฎหมายจราจรมาโดยตลอด ดังนั้นการควบคุมบังคับใช้กฎหมาย หรือการจับกุมควรทำต่อผู้กระทำผิดซึ่งหน้า เช่น ถ้าตำรวจเห็นว่ามีการแข่งรถอยู่ ก็ควรไปดักล้อมปิดถนนจับกุมให้ได้คาหนังคาเขา และดำเนินการจับกุมอย่างเข้มงวดก็จะไม่มีใครกล้าไปแข่งรถบนถนนอีก
 
แต่เมื่อกฎหมายออกมาระบุครอบคลุมถึงอุปกรณ์แต่งรถที่ทำให้ “เชื่อได้ว่า” กำลังเตรียมการไปแข่งรถนั้นไม่ถูกต้อง ซึ่งกฎหมายควรเขียนให้ชัดเจนว่า “ดัดแปลงสภาพ” รวมถึงกรณีใดบ้าง เพราะรถที่ออกจากโรงงานมี 4 ล้อ 4 โช๊คอัพ มีเบาะนั่ง พวกนักแต่งรถจะนิยมเปลี่ยนล้อแม็กใหม่ เปลี่ยนเบาะนั่งใหม่ เสริมโรบาร์เพิ่มความปลอดภัยในห้องผู้โดยสาร ทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่าเป็นการดัดแปลงสภาพรถทั้งสิ้น
 
“แค่เปลี่ยนล้อแม็กก็ถูกตำรวจจับแล้ว ดังนั้นคำว่าดัดแปลงต้องชัดเจนกว่านี้ เราไม่ได้เอาล้อมาใส่เพิ่มเป็น 5 ล้อ หรือเอาอะไรที่ไม่ใช่ล้อรถยนต์มาใส่ หรือการใส่เบาะนั่งยี่ห้อดัง แม้จะเปลี่ยนจากเดิมของโรงงาน แต่มันก็ยังคือเบาะนั่ง เจ้าหน้าที่รัฐแก้ปัญหาแข่งรถบนถนนไม่เด็ดขาด จึงใช้วิธีเหมารวมเช่นนี้ไม่ถูกต้อง อยากให้คนบังคับกฎหมายได้ยินเสียงของเราบ้าง เราทำงานหาเงินก็เหนื่อยแล้ว แค่อยากใส่ล้อแม็กให้รถเราดูสวยงามก็เท่านั้น แต่เมื่อขับรถออกจากบ้านต้องไปเสียเงินให้ตำรวจอีก มันไม่ใช่เรื่อง” ชานันท์ กล่าว
 
เขากล่าวอีกว่า การสืบหาผู้วางแผนเตรียมนัดกันไปแข่งรถไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่า เวลามีแข่งรถทีไร เจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้แค่ขับรถวนเวียนไปมาเท่านั้น ผู้กระทำผิดก็ยกเลิกไป สรุปแล้วไม่ได้จับกุมอะไรเลย สิ่งที่วครทำคือต้องจับกุมให้ได้ ส่วนจะยึดรถหรือยึดใบขับขี่ตลอดชีวิต หรือให้ติดคุก 1 เดือนก็ทำได้เลยพวกเขาทำผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่มาออกกฎว่าห้ามแต่งรถ เพราะกลายเป็นการเหมารวมไปหมด ทำให้รู้สึกว่าคนเราไม่มีสิทธิทำอะไรอะไรขนาดนี้เชียวหรือ
 
ในสังคมโซเซียลแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ถึงดุลพินิจในการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  โดยส่วนใหญ่ระบุว่า ตำรวจมักมองหารถที่ใส่ล้อแม็ก โหลดเตี้ย ติดตั้งโรบาร์ ติดตั้งเกจวัดรอบหลายชิ้น สิ่งเหล่านี้มักเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่มองหาแล้วสรุปว่าเป็นรถแต่งดัดแปลงสภาพ ส่งผลกระทบถึงร้านจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 
ปิยะทูน งามสมพงษ์ เจ้าของร้านจำหน่ายอุปกรณ์ประดับยนต์ ย่านรังสิต กล่าวว่า ตั้งแต่มีการออกกฎหมายทำให้ลูกค้าเริ่มหดหาย เพราะไม่กล้าแต่งรถกัน ซึ่งร้านค้าที่ไม่ได้เปิดขึ้นมาเพื่อดัดแปลงรถยนต์ให้มีความแรงมากยิ่งขึ้นได้รับผลกระทบไปด้วย เช่น ร้านเราจำหน่ายเกจวัดรอบ พวงมาลัย หัวเกียร์ ฯลฯ ของเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับการแข่งรถบนถนน กลายเป็นจุดที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหา
 
“การเปลี่ยนไฟหน้ารถเป็นซีนอล ใส่ท่อไอเสียเสียงดัง ถ้าตำรวจจะจับก็จับได้เลย เพราะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น แต่การติดตั้งเอ็กบาร์ เปลี่ยนพวงมาลัย ใส่เบาะนั่งที่มีจุดยึดเข็มขัดนิรภัย 5 จุดถูกเหมารวมไปด้วย ทั้งที่เป็นอุปกรณ์เซฟตี้ช่วยชีวิตเวลาเกิดอุบัติเหตุได้ เรื่องนี้จึงลำบากใจกันมาก”
 

สำหรับมูลค่าการซื้อขายอุปกรณ์ประดับยนต์ ทุกวันนี้หลายร้านทั้งรายเล็กและรายใหญ่มียอดขายมากกว่าเดือนละ 1 ล้านบาท กำลังลดลงและจำหน่ายไม่ได้ ที่สำคัญมีผลกระทบต่อสินค้าจากความคิดสร้างสรรค์ การทุ่มเทออกแบบของคนไทยได้รับผลกระทบไปด้วย ทั้งที่อุปกรณ์แต่งรถที่ผลิตในประเทศไทยถูกส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ สร้างมูลค่ามหาศาล เช่น ฝากระโปรงคาร์บอนเคฟล่า ถูกส่งไปจำหน่ายถึงยุโรป ตะวันออกกลาง ล้วนแล้วเป็นสินค้าของแต่งงานฝีมือคนไทยทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังกระทบต่อการจัดงานแสดงสินค้าอุปกรณ์ประดับยนต์ จึงกลายเป็นเรื่องตลกร้ายในสังคมโซเซียลที่ประเทศมีการจัดงานแบบนี้ แต่กลับห้ามคนแต่งรถ มันขัดแย้งกันอย่างมาก
 
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า การใส่ล้อแม็กสวยๆไม่ถือว่าเข้าข่ายตกแต่งเพื่อการแข่งขัน แต่ถ้าใส่ท่อไอเสียเพิ่มความแรงทำให้เสียงดัง วัดค่าออกมาเกิน 95 เดซิเบล มีโทษความผิดติดคุก 6 เดือนทันที หรือติดตั้งเกจวัดรอบหลายตัว ใส่โรบาร์ เปลี่ยนปั๊มเบรกราคาแพงที่สามารถหยุดรถยนต์ขณะวิ่งได้ที่ความเร็ว 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ต้องถามกลับว่าใส่ไปทำไม เพราะของเหล่านี้ถูกออกแบบให้ใช้ในสนามแข่ง ถ้าไม่ใช่เพื่อรองรับความเร็วสูง จนกระทั่งนำไปสู่การประลองการแข่งขันกันบนถนนหลวง แล้วจะใส่ไปทำไม อุปกรณ์พวกนี้เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องจับกุม
 
ดังนั้นการจะอ้างว่าเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อเพิ่มสมรรถนะของรถยนต์ให้ดีมากยิ่งขึ้น ยังไม่ถือเป็นข้ออ้างที่รับฟังได้ เพราะไม่ว่าชิ้นส่วนใดก็ตามที่ตกแต่งใหม่นำไปสู่การทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่า ดัดแปลงโดยไม่มีเหตุอันควรนำไปสู่การแข่งขันได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถ ส่วนใหญ่สนันสนุนจัดให้มีการแข่งขันทั้งสิ้น แต่ที่ผ่านมาไม่มีกฎหมายเข้าไปกวดขัน
 
อย่างไรก็ตาม การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุม ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนเป็นภาพวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ที่ผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรได้แข่งขันกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเป็นการนัดรวมตัวพบปะกันอย่างเดียว เจ้าหน้าที่ก็ไปทำอะไรไม่ได้
 
“ผมเป็นคนเสนอร่างกฎหมายนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมานานไม่รู้กี่ปีแล้ว จะได้พ้นทุกข์ ต้องดูคนส่วนมากเป็นหลัก ไม่ควรมีงานอดิเรกบนความทุกข์ของคนอื่น คุณจะเลี้ยงสุนัข แมว ไม่มีใครว่า แต่ถ้าคุณจะเลี้ยงจระเข้ เสือ มันเลี้ยงไม่ได้  เป็นเรื่องที่ต้องสรรเสริญคนที่กล้าหาญออกกฎหมายนี้ด้วยซ้ำ เพราะเสนอกฎหมายให้บ้านเมืองสงบสุข แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกลั่นแกล้งคุณ ก็แก้ต่างได้ว่าไม่ได้แข่งรถ เอาหลักฐานมาชี้แจงกัน” พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว


ไร่รักษ์ไม้,Eosgear,มูลไส้เดือน,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,victorinox,แปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,servival Kit,ราคา,อร่อย

Tags : โซเซียลนักแต่งรถข้องใจ ม.44 กระทบเสรีภาพ

view