สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เดินหน้าพักหนี้เกษตรกร6แสนรายมูลหนี้6.3หมื่นล้าน

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 เดินหน้าพักหนี้เกษตรกร 6 แสนรายมูลหนี้ 6.3 หมื่นล้าน

ปัญหาหนี้สินของเกษตรกร เป็นภารกิจลำดับแรกๆของรัฐบาลนี้ โดยม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้กระทรวงเกษตรฯเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สิน เพื่อลดภาระที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกรให้มากที่สุด นำไปสู่การฟื้นฟูและการกระตุ้นในระดับรากหญ้า

นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มาตรการการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อย ที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท ผ่านสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ขณะนี้รัฐบาลได้กำหนดแนวทางในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา ซึ่งครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2556 เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินการโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยฯ โดยให้มีการพักหนี้กับสมาชิกที่มีหนี้เป็นระยะเวลา 3 ปี (ปี พ.ศ.2556 - 2558) กรอบงบประมาณรวม 3,684.714 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือ

1.กรณีหนี้ค้างชำระ สมาชิกได้รับการพักชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยรัฐบาลรับภาระจ่ายดอกเบี้ยแทนสมาชิก ในอัตรา 4% ต่อปี ของมูลหนี้ที่คงเหลืออยู่จริง 2.กรณีหนี้ปกติ สมาชิกเลือกพักต้นเงิน และลดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยรัฐบาลรับภาระจ่ายดอกเบี้ยแทนสมาชิกในอัตรา 3% ต่อปี ของมูลหนี้ที่คงเหลืออยู่จริง หรือไม่พักต้นเงิน แต่ลดดอกเบี้ย โดยรัฐบาลรับภาระจ่ายดอกเบี้ยแทนสมาชิกในอัตรา 3% ต่อปี ของมูลหนี้ที่คงเหลืออยู่จริง และ 3.การดำเนินกิจกรรมฟื้นฟูอาชีพเพื่อพัฒนาอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกที่มีหนี้ค้างชำระให้สามารถชำระหนี้แก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร

นายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า กรมฯได้รับกรอบงบประมาณในการดำเนินการรวม 3 ปี (ปี พ.ศ.2556 - 2558) กรอบงบประมาณรวม 3,684.714 ล้านบาท โดยการดำเนินการในปีที่ 1 ได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน 1,966.960 ล้านบาท ซึ่งกรมฯได้จ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ที่พักหนี้หรือลดหนี้ให้สมาชิก จำนวน 1,796 แห่ง งบประมาณที่ชดเชยดอกเบี้ยรวมจำนวนทั้งสิ้น 1,092.397 ล้านบาท สมาชิกได้รับการชดเชยดอกเบี้ยจำนวน 653,563 ราย และจ่ายเป็นเงินอุดหนุนเพื่อดำเนินกิจกรรมฟื้นฟูอาชีพสมาชิก จำนวน 264.351 ล้านบาท มีสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมฟื้นฟูอาชีพจำนวน 88,117 ราย

สำหรับการดำเนินการในปีที่ 2 เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2557 ครม.ได้พิจารณาเห็นว่าเพื่อเป็นการบรรเทา ความเดือดร้อนของเกษตรกรจากปัญหาหนี้สิน และสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ สามารถส่งชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรตลอดจนมีเงินเหลือออม สำหรับสร้างฐานะให้มีความมั่นคงได้ จึงได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณเพื่อจ่ายชดเชยดอกเบี้ยให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่พักหนี้หรือลดหนี้ให้สมาชิกในปีที่ 2 จำนวน 1,355 แห่ง งบประมาณที่ชดเชยดอกเบี้ยรวมจำนวนทั้งสิ้น 699.990 ล้านบาท สมาชิกได้รับการชดเชยจำนวน 258,001 ราย

“หากดำเนินการได้ตามเป้าหมายซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2558 จะส่งผลให้สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร จำนวน 623,369 ราย จาก 2,326 สถาบันเกษตรกร มูลหนี้ จำนวน 63,864.708 ล้านบาท ที่ได้รับการพักหนี้สามารถนำเงินทุนไปหมุนเวียนประกอบอาชีพอย่างน้อยปีละ 2 รอบ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มปีละ 20,490.180 ล้านบาท เฉลี่ยผลตอบแทนจากการลงทุนภาคเกษตร 20% ขณะเดียวกันสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ที่ได้รับการอบรมกิจกรรมฟื้นฟูอาชีพเพื่อพัฒนาอาชีพให้เกิดรายได้แก่สมาชิกสามารถส่งหนี้ให้แก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรได้ภายหลังจากการเข้าร่วมโครงการ และสามารถลดต้นทุนดอกเบี้ย 4% อีกด้วย” นายโอภาส กล่าว

ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนอื่นนั้น นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เกษตรฯได้ว่าจ้างให้ทางสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เป็นผู้ศึกษาวางกรอบการแก้หนี้ทั้งระบบ

จากข้อมูลเบื้องต้น พบว่าปัจจุบันหนี้ภาคการเกษตรทั้งหมดมีอยู่ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท แต่ยังไม่รวมหนี้นอกระบบ ส่วนใหญ่เป็นหนี้ของธ.ก.ส. ประมาณ 1 ล้านล้านบาท โดยหลักการการแก้ปัญหา หรือปรับโครงสร้างหนี้ มีอยู่ไม่กี่แนวทาง เช่น การลดดอกเบี้ย การขยายระยะเวลาการชำระหนี้ มีระยะเวลาการปลอดชำระ เป็นต้น แต่จะเป็นแนวทางไหนคงต้องรอผลการศึกษาก่อน เรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการพิจารณา


ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,ไร่รักษ์ไม้สวนศิริผล,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,สินค้าเกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : เดินหน้าพักหนี้เกษตรกร6แสนรายมูลหนี้6.3หมื่นล้าน

view