สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ม.ล.ปนัดดา เผยตรวจข้าวเสียหายเพียบ ยันฟันตาม กม.-ป.ป.ท.ชี้ชัดคนรัฐร่วมโกง

ม.ล.ปนัดดา” เผยตรวจข้าวเสียหายเพียบ ยันฟันตาม กม.-ป.ป.ท.ชี้ชัดคนรัฐร่วมโกง

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

ปลัดสำนักนายกฯ แจงปัญหาข้าวเสียหายเพียบจากการลงพื้นที่ตรวจโกดัง บริษัทที่รับผิดชอบไม่ทำงาน ขอไม่เกิน ก.ย.สรุปผล แจงหากสอบพบข่าวดีพร้อมเร่งระบาย ข้าวเสียต้องทำตาม กม. เจ้าของโกดังรับผิดชอบ ชี้ ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่แล้ว อุบไต๋ไม่บอกตรวจจังหวัดใดต่อ เลขาฯ ป.ป.ท.เผยข้อมูลมัด จนท.รัฐเอี่ยวโกงข้าว พร้อมย้าย-สอบวินัยร้ายแรง
       
       วันนี้ (4 ก.ค.) ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปตรวจโกดังข้าวในพื้นที่ต่างๆ โดยพบว่ามีปัญหาหลายอย่างทั้งข้าวหาย ข้าวเกิน ข้าวเน่าเสีย รวมถึงการจัดระเบียบโกดังข้าวไม่เป็นไปตามรูปแบบ บริษัทที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการรมยาก็ไม่มาทำหน้าที่ เพราะถ้าทำข้าวก็คงไม่เสียมากมายเช่นนี้ จึงชัดเจนว่าบริษัทที่รับผิดชอบกับโกดังนั้นๆ ไม่ทำงาน คงต้องตรวจสอบให้ลึกลงไปอีก ทั้งนี้จะใช้เวลาในการตรวจสอบโกดังข่าวเหล่านี้ประมาณ 1 เดือน หรือไม่เกินเดือนกันยายน โดยทางผู้ตรวจราชการกระทรวงจะสรุปรวมและรายงานให้ส่วนกลางได้รับทราบต่อไป ต้องสรุปทั้งหมดทั้งความไม่เรียบร้อยของโกดัง หรือมีการนำข้าวจากต่างประเทศมาสวมสิทธิหรือไม่ โดยต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
       
       ปลัดสำนักนายกฯรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ในการตรวจสอบหากพบว่าพื้นที่ไหนยังมีข้าวดีเป็นที่ต้องการของตลาด ทางกระทรวงพาณิชย์ก็จะเร่งระบายข้าว ส่วนข้าวที่เสียก็ต้องมีผู้รับผิดชอบ เบื้องต้นก็คงไม่พ้นเจ้าของโกดังข้าวที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง ซึ่งทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย
       
       เมื่อถามว่า ข้อมูลทุจริตที่ได้จะส่งต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ป.ป.ช.ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว เราก็ทำงานของเรา ป.ป.ช.ก็ทำงานของเขา แต่สุดท้ายคือนำไปสู่การรับรู้ของประชาชน ทั้งนี้ตนจะลงพื้นที่อีกครั้งในสัปดาห์หน้า แต่ยังไม่ชัดเจนจะลงพื้นที่จังหวัดไหนบ้าง
       
       “ที่ผ่านมาผมจะลงไปพร้อมกับคณะกรรมการที่มีการแจ้งล่วงหน้า ไม่ใช่การสุ่มตรวจ ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่พบความจริงที่ต้องการ เซอร์เวเยอร์ หรือโกดังที่ไม่ทำงานหรือไม่ทำตามหน้าที่ก็ต้องรับผิดชอบ ในเมื่อตัวเองมีหน้าที่แล้วจะไม่ทำหน้าที่ได้อย่างไร ความผิดนั้นมีแน่นอน แต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น” ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
       
       ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยภายหลังการหารือกับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าทาง ป.ป.ท.ได้หารือถึงแนวทางในการดำเนินการตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบเพื่อให้การบริหาร ราชการของ คสช. เพื่อหาแนวทางป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยเฉพาะเรื่องข้าวหากพบว่าผลการตรวจสอบการนับสต็อกข้าวภาครัฐของคณะผู้ตรวจ 100 คณะ พบว่ามีข้อมูลชี้ชัดว่าเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยหลักฐานดังกล่าวทาง สปน.จะจัดส่งหลักฐานมายังทาง ป.ป.ท.เพื่อให้ดำเนินการ หากพบว่ามีหลักฐานชัดเจนทาง ป.ป.ท.จะดำเนินการ 2 มาตรการต่อข้าราชการผู้นั้น คือ โยกย้าย และสอบวินัยร้ายแรงทันที


พิรุธพบ “ข้าวเจ้า” โผล่ปนคลัง “ข้าวเหนียว” จำนำที่ลำพูน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ลำพูน - ผู้ว่าฯ พร้อมทหาร นำคณะทำงานตรวจสอบข้าวในคลังกลางลำพูน เจอพิรุธมีข้าวเจ้าปนในกองข้าวเหนียว แถมบางกระสอบไร้ป้าย-ตัวอักษรแสดงรายละเอียด จนต้องสั่งปิดโกดังรอสอบละเอียดซ้ำ

       วันนี้ (4 ก.ค.) นายสุวรรณ กล่าวสุนทร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน และพ.อ.บุญยืน อินกว่าง เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 7 เชียงใหม่ ส่วนแยก 1 ลำพูน นายโอภาส กลิ่นบุศย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 63 ภาคเหนือ จ.ลำพูน-ลำปาง-อุตรดิตถ์-แพร่ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโกดังข้าวสารในคลังสินค้ากลางตามโครงการรับจำนำ ข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/56
       
       เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจที่คลังเจริญเมือง เลขที่ 115 หมู่ 5 ต.ม่วงน้อย อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ของนายอาคม ตาลเงิน ผู้เข้าร่วมโครงการกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) รับมอบข้าวสารเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 56 ถึงวันที่ 31 ตุ.ค. 56 จำนวน 38,609 กระสอบ ปริมาณ 38,546,268 ตัน แยกเป็นข้าวเหนียวขาว 10% เมล็ดยาว 38,605 กระสอบ ปริมาณ 3,854,286,219 ตัน
       
       โดยเป็นปี 2555/56 จำนวน 19,289 กระสอบ ปริมาณ 1,925,955,619 ตัน ปี 2555/56 ครั้งที่ 2 จำนวน 19, 316 กระสอบ ปริมาณ1,928,330,600 ตัน ปลายข้าวเหนียว A 1 เลิศ แยกเป็นปี 2555/56 ครั้งที่ 2 จำนวน 4 กระสอบ
       
       โดยมีโรงสีที่ส่งข้าวเข้าคลังสินค้ากลาง 6 แห่ง ได้แก่ หจก.หลิ่มเซ่งเฮง จ.เชียงราย 6,439 กระสอบ บจก.เชียงรายชัยธนภัทร จ.เชียงราย 3,533 กระสอบ โรงสีแม่จันโกลเด้นเกรน จ.เชียงราย 9,333 กระสอบ โรงสีวัชระกิจ จ.เชียงใหม่ 675 กระสอบ โรงสีพีพีดรายอิ้ง จ.ลำพูน 18,627 กระสอบ บมจ.มีขุมทรัพย์หทัยรัตน์ จ.ลำพูน 2 กระสอบ
       
       คณะทำงานการตรวจสอบได้ขึ้นไปสุ่มตรวจสอบบนกองกระสอบข้าวสารด้านบนทาง ทิศเหนือ พบว่ามีข้าวสารเจ้าปลอมปนกับข้าวสารเหนียวซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ตาม เอกสาร คือ รับจำนำข้าวเหนียว แต่มีการนำมาปนกัน ทางคณะทำงานจะได้นำข้าวสารดังกล่าวไปตรวจสอบต่อไป
       
       เมื่อตรวจสอบต่อไปอีกพบว่าบริเวณกระสอบข้าวสารที่บรรจุไว้บางกระสอบ ไม่ติดป้ายหรือรายละเอียดใดไว้บนกระสอบข้าว จึงทำการปิดโกดังไว้อย่างแน่นหนาเพื่อรอตรวจสอบโดยละเอียดต่อไป


งัดไม้แข็ง-พบขรก-เอี่ยวทุจริตข้าวสั่งเด้งทันที

จาก โพสต์ทูเดย์

สปน.-ปปท. งัดไม้แข็งสนอง คสช. พบเชื้อทุจริตข้าว สั่งเด้ง สอบวินัยร้ายแรงทันทีภายใน 24 ชม.


วันที่ 4ก.ค.เวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)เปิดเผยภายหลังการหารือกับม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าทางปปท.ได้หารือถึงแนวทางในการดำเนินการตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบเพื่อให้การบริหารราชการของคสช. เพื่อหาแนวทางป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยเฉพาะเรื่องข้าว หากพบว่าผลการตรวจสอบการนับสต็อกข้าวภาครัฐของคณะผู้ตรวจ 100 คณะ พบว่ามีข้อมูลชี้ชัดว่าเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยหลักฐานดังกล่าวทาง สปน.จะจัดส่งหลักฐานมายังทาง ปปท.เพื่อให้ดำเนินการ ซึ่งหากพบว่ามีหลักฐานชัดเจนทาง ปปท.จะดำเนินการ 2 มาตรการต่อข้าราชการผู้นั้น คือ โยกย้าย และสอบวินัยร้ายแรงทันที

ทั้งนี้ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานราชการทุกกระทรวงทบวงกรม เร่งดำเนินการจัดทำรายงานศึกษาวิเคราะห์จุดอ่อนขององค์กรหรือหน่วยงานของตัวเองว่ามีจุดอ่อนใดที่เปิดช่องโหว่ให้มีการใช้อำนาจทุจริตคอร์รัปชันในทางราชการได้ โดยจะต้องส่งรายงานภายในวันที่ 15 ก.ค.นี้ เพื่อนำรายงานดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาจัดทำแผนเพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตทั้งระบบพร้อมกับจะได้หาแนวทางสนับสนุนโดยเฉพาะงบประมาณ หรือการแก้ไขระเบียบ เป็นต้น นวลน้อย ตรีรัตน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมคณะภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น (ภตค.)นำโดย นายมานะ นิมิตมงคล ร่วมหารือกับ สปน.และปปท. ว่าทางคณะเสนอให้มีการจัดทำข้อตกลงคุณธรรมในการจัดซื้อจัดจ้างและราคากลางซึ่งข้อตกลงดังกล่าวต้องการให้เป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการร่วมกันลงนามและปฎิบัติตามข้อตกลงที่จะกำหนดกรอบหรือมาตรการป้องกันและป้องปรามไม่ให้มีการทุจริตโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐอีกต่อไป


พบโกดังข้าวพิจิตรมี7คลังสินค้าส่อทุจริต

จาก โพสต์ทูเดย์

พิจิตร-ทหารลุยตรวจโกดังข้าวพบ 3 อำเภอ 7 คลังสินค้าส่อทุจริตขอเวลาทำงาน25วันล้างบางคนโกง


เมื่อวันที่ 4 ก.ค.57พล.ต.ไสว พลการ  ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ประจำพื้นที่จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.พิจิตรนำกำลังทหารและฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจปริมาณและคุณภาพข้าวในโครงการรับจำนำที่มีฝากเก็บไว้ใน 83 คลัง 16 ไซโลปริมาณข้าวกว่า 10 ล้านกระสอบ โดยเริ่มปฏิบัติการเข้าตรวจที่คลังสินค้าเจียมศรีพงษ์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นดังเก็บข้าวสารฤดูกาลปี 56/57ของ อ.ต.ก. ซึ่งมีการตรวจอย่างละเอียด แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติมีข้าวสารอยู่ครบและยังมีคุณภาพดี ซึ่งการตรวจโกดังแห่งนี้ถือเป็นจุดเรียนรู้แบบ Learning By Doing คือมีการสาธิตเหมือนจริงเนื่องจากมีกรรมการหลายท่านเพิ่งจะได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจปริมาณและคุณภาพข้าวครั้งนี้เป็นครั้งแรกจึงต้องมีการเรียนภาคปฏิบัติ ซึ่งหลังจากเรียนรู้แล้วก็จะไปทำงานคู่กับทหารที่ผ่านการอบรมเรียนรู้มาแล้วให้ไปตามเป้าหมายที่วางไว้
 
พล.ต.ไสว กล่าวว่า การเข้าตรวจโกดังครั้งนี้ถือเป็นจุดเรียนรู้ภาคปฏิบัติให้กับคณะกรรมการซึ่งจากนี้ไปทุกคนก็จะแยกย้ายไปตรวจตามคลังสินค้าและโกดังต่างๆมีข้าวสารของ อตก.และอคส.ฝากเก็บเอาไว้ ส่วนข้อมูลในทางลับที่ได้มานั้นมีเป้าหมายใน 3 อำเภอ 7 สินค้าใหญ่ที่มีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ว่าคลังสินค้า 7 แห่งนี้น่าจะมีสิ่งผิดปกติหรือการทุจริตแต่ยังไม่สามารถระบุชื่อและสถานที่ได้จนกว่าจะได้เข้าไปตรวจหลักฐานชัดเจน ขอเวลาให้ทหารและทุกฝ่ายทำงาน 25 วัน เพื่อจะล้างบางขบวนการโกงโครงการรับจำนำข้าวของจังหวัดพิจิตรให้สิ้นซากให้ได้
 
อย่างไรก็ตามในส่วนการปฏิบัติงานได้มีคำสั่งว่าทุกคนจะต้องรายงานผลภายใน 4 โมงเย็นของทุกวันโดยให้ส่งข้อมูลทาง อีเมล์ หรือส่ง ไลน์ ที่จะต้องมีทั้งข้อมูลและภาพถ่ายเพื่อรายงานยังกองทัพภาคที่ 3 และหัวหน้า คสช.ให้ได้ทราบต่อไป


ประเดิมตรวจ11โกดังวันแรก พบบุรีรัมย์'ข้าวเสื่อม'คุณภาพ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คสช.ลุยตรวจโกดังทั่วประเทศวันแรก ประเดิม11แห่งวันแรกยังไม่พบผิดปกติ พบที่บุรีรัมย์ข้าวเสื่อมคุณภาพ

คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจโกดังข้าวทั่วประเทศวานนี้(3 มิ.ย.) เป็นวันแรกจำนวน 11 โกดัง เพื่อตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวที่ค้างในสต็อกรัฐบาลจากนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดที่แล้ว

การตรวจสอบในวันแรกหลายจังหวัด เจ้าหน้าที่ยังไม่พอความปิดปกติเกิดขึ้น แม้ก่อนหน้านั้นมีการตรวจพบปัญหาข้าวในโกดังรัฐบาลบางแห่ง ทั้งมีการปลอมปนและเสื่อมคุณภาพ โดยการตรวจสอบครั้งนี้ คสช.ได้กำหนดกรอบเวลาไว้ประมาณ 1 เดือนทั่วประเทศ

คณะกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวชุดที่ 99 นำโดยนางอรวรรณ ขุมทรัพย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน พร้อมคณะอาทิ พลตรีนพวงศ์ สุรวิชัย รองแม่ทัพภาคที่ 4 เข้าร่วมตรวจสอบ ในคลังสินค้ากลางอุปถัมภ์หลังที่ 1 ซึ่งเป็นจุดแรกที่ได้เข้าตรวจเป็นจุดนำร่องของ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ในบริเวณโรงสีอุปถัมภ์ เลขที่ 13 หมู่ที่ 1 ตำบลบางจาก อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งมีข้าวสารในโครงการจำนำปี 2555/56 รับจำนำระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2555 จนถึง 15 ก.ย. 2556 โดยทยอยนำมาเก็บไว้ในคลังสินค้าแห่งนี้ตั้งแต่ต้นปี 2557 เป็นจำนวน 163,200 กระสอบ

ทั้งนี้ เมื่อมีการไขกุญแจ 4 ฝ่ายคือ อคส. เซอร์เวเยอร์ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายทหาร จำนวน 4 ชุดออกแล้ว ได้มีการเริ่มเข้าตรวจสอบในช่วงเช้า โดยคณะกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตถึงความเหลื่อมล้ำของกองข้าว และการจัดวางไม่ตรงกับรูปแผนที่ จึงมีการสั่งตรวจสอบอย่างละเอียด โดยวิธีการผ่ากองข้าวและเก็บตัวอย่าง รวมทั้งสำรวจปริมาณให้ตรงกับจำนวน 163,200 กระสอบ หรือน้ำหนักรวม 16.298 ล้านกิโลกรัม

ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เอกสารข้อมูลที่อยู่ในมือของคณะกรรมการ ไม่ตรงกับข้อมูลหน้าคลังสินค้า โดยทางเจ้าหน้าที่ อคส.ได้ชี้แจงว่า ปริมาณที่ไม่ตรงกันนั้นสืบเนื่องจากมีการนำข้าวไปเก็บไว้ในคลังสินค้าในอำเภอทุ่งสง ซึ่งนางอรวรรณจะตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร

ขณะที่เจ้าหน้าที่ อคส.ชี้แจงว่า สาเหตุที่กระสอบข้าวมีความเหลื่อมล้ำกันนั้นสืบเนื่องจากข้าวจำนวนมากได้มาจากโรงสีถึง 32 แห่งด้วยกัน และแต่ละโรงสีไม่ได้สั่งกระสอบจากแหล่งผลิตเดียวกันทำให้กระสอบมีขนาดเหลื่อมล้ำไม่เท่ากันรวมทั้งความหนาบาง จึงส่งผลให้กองข้าวมีความเหลื่อมล้ำ

เริ่มตรวจสอบพื้นที่อีสานวันนี้

ในส่วนของการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวฯ ของ จ.อุดรธานี พล.ต.สิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก (มทบ.)ที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ จ.อุดรธานี กล่าวว่าทาง มทบ.24 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปรับการอบรมการตรวจสอบปริมาณข้าวฯ ซึ่งขณะนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับคณะใหญ่ที่โรงสีใน จ.นครราชสีมาอยู่ คาดว่าในวันนี้ (4 มิ.ย.) คณะตรวจสอบจะเข้าตรวจสอบโรงสีในเขตจังหวัดภาคอีสาน

“ส่วนการเข้าตรวจสอบโรงสีในเขต จ.อุดรธานี คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการตรวจสอบได้ในช่วงกลางเดือนนี้ มีห้วงการตรวจตั้งแต่วันที่ 15-27 ก.ค.นี้ โดยการเข้าตรวจสอบจะมีตัวแทนจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของทหาร จะทำการตรวจปริมาณและคุณภาพของข้าวที่เก็บไว้ในคลังสินค้ากลาง ซึ่งใน จ.อุดรธานี มีคลังสินค้ากลางที่เก็บข้าวของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ตั้งแต่ฤดูการผลิตปี 2554-57 จำนวน 21 แห่ง หากเมื่อมีการตรวจสอบพบสิ่งผิดปกติ ทาง ป.ป.ช.สามารถเข้าดำเนินการ ตามระบบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้ทันที” พล.ต.สิทธิ กล่าว

บุรีรัมย์พบข้าวเสื่อมคุณภาพ

ทางด้านเจ้าหน้าที่ทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ร่วมกับนายอำเภอนางรอง เจ้าหน้าที่องค์กรการคลังสินค้า (อคส.) และตัวแทนบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว หรือเซเวเยอร์ ร่วมตรวจสอบการขนย้ายข้าวสารชนิด “ปลายข้าวหอมมะลิ (เอวันเลิศ)” ออกจากโกดังกลางที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อส่งออกต่างประเทศตามสัญญาการซื้อขายที่บริษัทเอกชนได้รับการประมูล

ข้าวสารดังกล่าวเป็นข้าวในโครงการรับจำนำปี 2555/56 เบื้องต้นมีคำสั่งให้ทำการขนย้ายเพื่อส่งออกจำนวน 3,000 ตัน หรือ 30,000 กระสอบ จากที่ตามบัญชีมีข้าวสารเก็บในโกดังกลางดังกล่าว 41,349 กระสอบ การขนย้ายข้าวในครั้งนี้ทางหน่วยทหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันตรวจนับปริมาณที่ทำการขนย้ายออกจากโกดัง ว่าครบตามจำนวนที่มีคำสั่งขนย้ายหรือไม่เพื่อป้องกันการทุจริตหรือข้าวสูญหาย

จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แต่มีข้าวสารที่ใกล้เสื่อมคุณภาพที่ถูกคัดแยกไว้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้เก็บไว้เป็นเวลานานถึงกว่า 2 ปี

ทั้งนี้จากข้อมูลของสำนักงานการค้าภายในจังหวัด พบว่า จ.บุรีรัมย์ มีโกดังกลางจัดเก็บข้าวสารอยู่ทั้งหมด 7 แห่ง มีข้าวสารที่จัดเก็บไว้ในโกดังกลางตามบัญชีที่ระบุไว้ รวมทั้งสิ้น 362,962 กระสอบ ส่วนการเข้าตรวจนับข้าวสารในโกดังกลางอยู่ระหว่างรอคำสั่งจาก คสช.

ตรวจสอบโกดังโคราชยังไม่พบผิดปกติ

เช่นเดียวกับ ที่จ.นครราชสีมา นางพูลทรัพย์ สกุณี ผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าคณะตรวจสอบปริมาณข้าวและคุณภาพข้าว พร้อมกับ พล.ต.อาชาไนย ศรีสุข รองแม่ทัพภาคที่ 2, นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำกำลังทหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า และเจ้าหน้าที่การค้าภายในจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังข้าวในโรงสีเจียเม้ง ต.หนองงูเหลือม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว มีข้าวสารเก็บไว้จำนวน 10 โกดัง มีปริมาณข้าวสารกว่า 2 หมื่นตัน

พล.ต.อาชาไนย ศรีสุข รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่าการลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณข้าวและคุณภาพข้าวในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ คสช. โดยในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ได้แบ่งชุดตรวจสอบไว้ทั้งหมด 3 ชุด โดยจะเริ่มทยอยตรวจสอบโกดังในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาทั้งหมด ระหว่างวันที่ 3 - 27 ก.ค. ซึ่งมีอยู่จำนวน 47 โกดัง อยู่ในพื้นที่ 14 อำเภอ มีปริมาณข้าวที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปีการผลิตที่ 2554/2555 ถึง 2556 อยู่ทั้งสิ้นกว่า 5 แสนตัน

"การตรวจสอบในวันแรกนี้ ยังไม่พบอะไรผิดปกติ สำหรับวิธีการในการตรวจสอบครั้งนี้ ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ทหาร ทำการสุ่มเจาะเอาข้าว 7 จุดต่อ 1 กอง แต่ละกองที่สุ่มเจาะ จะนับจากกระสอบบนลงลึกไปอีก 15 กระสอบ เพื่อป้องกันการสอดไส้ในไว้ นำข้าวที่ได้มารวมกันใส่ถุง โดยข้าวขาวจะใส่ถุงไว้ 3 ชุด ส่วนข้าวหอมมะลิ 4 ชุด จะแยกเก็บไว้ที่ อคส. ชนิดข้าวละ 1 ชุด ส่วนที่เหลือคณะตรวจสอบปริมาณข้าวและคุณภาพข้าว จะนำไปตรวจสอบดีเอ็นเอว่าเป็นข้าวชนิดเดียวกับที่รับจำนำไว้หรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบคุณภาพอื่นๆ อีกครั้งที่กรุงเทพมหานครต่อไป"

ตรวจโกดัง"สิงห์โตทองไรซ์"

นายนพดล เมฆเมฆา ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 18 พล.ต.คู่ชีพ เลิศหงิม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองทัพภาคที่ 3 นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยกองกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ฝ่ายปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบคลังสินค้ากลางเก็บข้าว 5 % ในโครงการจำนำข้าวเปลือก ภายในคลังสินค้ากลาง จำนวน 15 หลัง ของบริษัทสิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เลขที่ 99/1 หมู่ที่ 1 ต.ธำมรงค์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร

ในการตรวจครั้งนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าข้าวอยู่ครบตามจำนวน เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจนับประมาณ 1 สัปดาห์ ถึงจะสรุปได้ว่าข้าวอยู่ครบตามจำนวนหรือไม่ ส่วนการสุ่มเจาะกระสอบพบว่าข้าวสารในกระสอบส่วนใหญ่อยู่ในสภาพดี แต่ก็มีข้าวสารบางกระสอบที่เริ่มเสื่อมคุณภาพตามเวลา รวมทั้งมีการสุ่มตรวจกองข้าว ขนย้ายกระสอบข้าวสารขึ้นมาตรวจดูว่ามีการนำลังไม้มาวางไว้ข้างล่าง แล้วนำกระสอบข้าวสารทับลงบนหลังหรือไม่ จากการสุมตรวจก็ไม่พบแต่อย่างไร

สำหรับ คลังกลางเก็บรักษาข้าวสารจังหวัดกำแพงเพชร ที่เข้าร่วมกับโครงการฯกับ อคส. และ อ.ต.ก. ปี 2554/2555, 2555 และ ปี 2555/2556 และปี 2556/57 ประกอบด้วยคลังกลางจากอำเภอเมือง คลองขลุง ปางศิลาทอง คลองลาน ลานกระบือ และขาณุวรลักษบุรี รวม 124 คลังกลาง ปริมาณข้าวสาร รวมทั้งหมด 23,135,637 กระสอบ น้ำหนัก 2,310,441.911 ตัน หากตรวจนับทั้งจังหวัด คาดว่าประมาณ 1 เดือนจะสรุปได้ในภาพรวมทั้งจังหวัด


'ปนัดดา'เผยตรวจสต๊อกข้าว2วันพบข้าวหาย-เน่า

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ปนัดดา"เผยตรวจสต๊อกข้าว 2 วัน พบข้าวหาย-เน่า โกดังไม่เรียบร้อยหลายจุด เตรียมลงพื้นที่เองสัปดาห์หน้า

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมการลงพื้นที่สุ่มตรวจสต๊อกข้าวในโกดังทั่วประเทศ ว่า หลังจากการตรวจเจ้าสู่วันที่ 2 จะเห็นว่าหลายจุด โกดังข้าว ไซโลต่างๆ ในหลายจุดไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย กระสอบข้าวล้ม มีข้าวเน่าเสีย ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องใช้เวลาในการศึกษาวิเคราะห์ รวมทั้งการตรวจคุณภาพข้าว และดีเอ็นเอด้วย ทั้งนี้การสรุปภาพรวมทั้งหมดต้องอาศัยเวลา ก่อนนำเรียนสู่หัวหน้าคสช.ได้ สำหรับกรอบเวลาในการดำเนินการตรวจสอบสต๊อกข้าวนั้นเป็นไปตามกรอบเวลาเดิมคือ 1 เดือนเป็นอย่างต่ำ ส่วนกรอบเวลาทั้งกระบวนการทั้งการตรวจสอบข้าวในโกดัง และการวิเคราะห์ในห้องแลปคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนก.ย. นอกจากนี้ตนจะลงพื้นที่เองในช่วงสัปดาห์หน้าด้วย

ส่วนกรณีข้าวหายนั้น ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า มีคละกันไปในแต่ละจังหวัด ทั้งข้าวหาย ข้าวเกิน ข้าวเน่าเสีย และการจัดรูปแบบโกดังไม่เป็นไปตามที่คาดคิดไว้ แม้กระทั่งบริษัทที่จะมารับผิดชอบในการรมยาในโกดังนั้นๆ ก็ไม่ทำงาน เป็นผลให้ข้าวเน่าเสีย ซึ่งจะต้องศึกษาในส่วนที่ลึกลงไป นอกจากนี้ทางป.ป.ช. ได้ร่วมติดตามกับคณะทำงานในหลายจุด ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าจะไปด้วยกันในทุกจุด ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นหน้าที่ของผู้ตรวจราชการกระทรวง แต่ในภาพรวมจะมีการสรุปมายังส่วนกลางให้รับทราบต่อไป และเมื่อมีการตรวจสอบแล้ว หากพบข้าวคุณภาพดี ก็จะให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการสู่การระบายข้าว ซึ่งมีผู้รอซื้ออยู่ ส่วนที่มีข้าวเสียหาย ทางโกดังต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวว่า หากพบว่าผลการตรวจสอบการนับสต็อกข้าวภาครัฐของคณะผู้ตรวจ 100 คณะ พบว่ามีข้อมูลชี้ชัดว่าเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยหลักฐานดังกล่าวทาง สปน.จะจัดส่งหลักฐานมายังที่ ปปท.เพื่อให้ดำเนินการ ซึ่งหากพบว่ามีหลักฐานชัดเจนทาง ป.ป.ท.จะดำเนินการ 2มาตรการต่อข้าราชการผู้นั้น คือ โยกย้าย และสอบวินัยร้ายแรงทันที

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

เจ้าท่าฯระยองนำเจ้าหน้าที่สำนักบังคับคดีลุยรื้อถอนรีสอร์ตเสม็ด3หลัง หลังศาลปกครองมีคำสั่งรื้อถอน

วันนี้( 3 ก.ค.) เจ้าหน้าที่สำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครอง กรุงเทพฯ พร้อมด้วย นายพีรธร นาคสุข เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญงาน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาระยองและเจ้าหน้าที่เดินทางข้ามไปเกาะเสม็ดหมู่ 4 ต.เพ อ.เมืองระยองไปตรวจสอบเรื่องการรื้อถอนรีสอร์ต 3 หลัง ที่ปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด

ตามที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระยอง รายงานผลการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขแดงที่ อ.242/2550 ระหว่างหัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาระยองผู้ฟ้องคดีกับเจ้าของรีสอร์ตทั้ง 3 หลัง ได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำแล้ว การรายงานผลการดำเนินการตามคำพิพากษาประกอบเอกสารหลักฐาน ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่ชัดแจ้งในส่วนของการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างถูกต้องครบถ้วนตามคำพิพากษาแล้วหรือไม่ จึงให้เจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาระยอง ร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่สำนักบังคับคดี

จากนั้นเจ้าหน้าที่สำนักบังคับคดีปกครองพร้อมด้วยนายพีรธร นาคสุข เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญงาน และเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบบริเวณซอยอ่าวละมุ หมู่ 2 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยองที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาระยองฟ้องกลุ่มประมงปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ตามพ.ร.บ.การเดินเรือน่านน้ำไทยบริเวณชายหาดใกล้หินสวย-น้ำใส รวม 11 หลังเมื่อปี 2547 ที่ผ่านมาและศาลปกครองมีคำพิพากษาเมื่อปี 2550 ให้รื้อถอน จำนวน 6 หลัง ส่วนอีก 5 หลังให้ยกฟ้องเนื่องจากไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของเจ้าท่าภูมิภาค ซึ่งอยู่ในอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่สำนักบังคับคดีปกครองมาดูความคืบหน้าของคดี ปรากฏว่าวันนี้ได้มาพบว่ามีการรื้อถอนไปแล้วจำนวน 3 หลังยังไม่ยอมรื้อถอนอีก 3 หลังและพบว่ามีการปลูกสร้างขึ้นใหม่ก็จะต้องดำเนินการตามกฏหมาย ซึ่งจะต้องรองบประมาณในการรื้อถอ

จากนั้นจึงเดินทางไปที่บริเวณคลองลาวน หมู่ 1 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อนำหนังสือให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำเข้าไปในลำคลองไปติด เนื่องจากพบว่ามีการปลูกสร้างโรงเรือนล่วงล้ำเข้าไปในลำคลองลาวน ลักษณะเป็นบ้านไม้ยื่นออกไปจำนวน 9 หลัง เป็นการกระทำความผิดฐานปลูกสร้างอาคารล่วงล้ำเข้าไปในลำคลอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า มาตรา 117 แห่งพ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 23 แห่งพ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย(ฉบับที่ 14)พ.ศ.2535 จึงมีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 35 วัน นับแต่วันที่ปิดคำสั่งหากท่านประสงค์จะอุทธรณ์หรือโต้แย้งคำสั่งฉบับนี้ สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วันท่ามกลางความไม่พอใจของกลุ่มประมงและพร้อมที่จะอุทธรณ์คำสั่งฉบับนี้.


ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : ม.ล.ปนัดดา , ตรวจข้าว , เสียหายเพียบ , ยันฟัน , ตามกม. , ป.ป.ท. , ชี้ชัด , คนรัฐ , ร่วมโกง

view