สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

มท.ประชุมผู้ว่าฯรับมือผลผลิตเกษตรล้นตลาด

จาก โพสต์ทูเดย์

มหาดไทยประชุมเตรียมความพร้อมรับมือผลผลิตการเกษตรล้นตลาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

วันที่ 10 มิ.ย.ที่กระทรวงมหาดไทย นายประภาศ บุญยินดี   รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ประสานการกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค 74,963 หมู่บ้าน (MOI Distribution Center) กระทรวงมหาดไทย โดยประชุมทางวีดิทัศน์ทางไกลกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อหาแนวทางการป้องกันปัญหาผลผลิตสินค้าเกษตรล้นตลาด หรือราคาตกต่ำ ในช่วงผลผลิตกำลังออกสู่ตลาดเดือน มิ.ย.-ก.ย.นี้

นายประภาศ  เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้จัดตั้งศูนย์ประสานการกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค 74,963 หมู่บ้าน ขึ้นเมื่อปี 2556 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการกระจายผลผลิตด้านการเกษตร  ให้มือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทำให้ไม่เกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาดหรือราคาตกต่ำ

สำหรับ สถานการณ์ผลผลิตสินค้าเกษตรในปัจจุบัน ที่กำลังจะออกสู่ท้องตลาดอย่างใกล้ชิดห้วงเดือนมิ.ย. - ก.ย. พบว่ามีผลไม้หลายชนิดในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออก กำลังจะออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากและน่าจะมีปัญหา จึงจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้เชิญหน่วยที่เกี่ยวข้องได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ มาประชุมเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาดังกล่าว โดยกระทรวงมหาดไทย จะเป็นหน่วยงานสนับสนุน เน้นการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตโดยเร็วและมีประสิทธิภาพในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดกระจุกตัวเท่านั้น และไม่ไปทำลายระบบกลไกตลาดปกติ     

นอกจากนั้น ให้จับคู่จังหวัด (Matching) เพื่อรองรับการกระจายผลผลิตด้านการเกษตร ปัจจุบันมีการจับคู่  แล้ว 50 จังหวัด จำนวน 12 พืช คือ ลิ้นจี่ ลำไย เงาะ มังคุด ลองกอง ทุเรียนสับปะรด ข้าวหอมมะลิ หอมแบ่ง หอมแดง ลางสาด กระเทียม โดยมีจังหวัดต้นน้ำ อาทิ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา จันทบุรี ระยอง ตราด สระแก้ว สงขลา นครพนม ศรีสะเกษ เลย พังงา ตรัง เป็นต้น

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้มอบหมายจังหวัดที่ไม่มีผลผลิตสินค้าเกษตร (จังหวัดปลายน้ำ) เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสินค้าเกษตรของจังหวัดต้นน้ำไปกระจายสู่ผู้บริโภค โดยให้แจ้งความประสงค์จะรับผลผลิตสินค้าเกษตรในปริมาณที่เหมาะสม  เช่น  นครพนม สามารถกระจายผลผลิตหอมแบ่งออกนอกแหล่งผลิตได้ 195 ตัน และ เชียงใหม่ได้ขอให้จังหวัดที่ไม่มีผลผลิตลิ้นจี่ (จังหวัดปลายน้ำ) ติดต่อสั่งซื้อลิ้นจี่ในพื้นที่ไปแล้ว เป็นต้น

นายประภาศ กล่าว่า การดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดีในการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตได้อย่างรวดเร็ว  สามารถขายสินค้าเกษตรได้หมดในราคาคุ้มค่า  เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนในการผลิต ป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรได้อย่างทันท่วงที โดยกระทรวงมหาดไทยต้องขอความร่วมมือผู้บริโภคทั้งประเทศ รวมถึงเจ้าหน้าที่องค์กรหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ช่วยกันซื้อ และอุดหนุนสินค้าเกษตรของเกษตรกรไทย เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย


ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view