สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

มทบ.24 แจงข่าวลือชายแต่งคล้ายทหารบุกยึดเครื่องมือทำเกษตร ย้ำมีหลักฐานเอาผิดแน่

มทบ.24 แจงข่าวลือชายแต่งคล้ายทหารบุกยึดเครื่องมือทำเกษตร ย้ำมีหลักฐานเอาผิดแน่

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       อุดรธานี - ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุดรธานี นำทีมเปิดโต๊ะแถลงแจงกรณีกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายทหารบุกยึดเครื่องมือทำการ เกษตร ถังแก๊สจากชาวบ้านในหลายพื้นที่ ไม่เป็นความจริง เชื่อเป็นการปล่อยข่าว แต่หากพบการกระทำดังกล่าวจริงให้บันทึกภาพเป็นหลักฐานแจ้งความตำรวจท้องที่ เพื่อติดตามจับกุมดำเนินคดี ขณะเดียวกันขอความร่วมมืออย่ากระพือข่าวหากไม่เห็นด้วยตาหรือเจอด้วยตัวเอง หวั่นเข้าใจผิดวงกว้าง
       
       วันนี้ (30 พ.ค.) ที่กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม พล.ต.สิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผบช.มทบ.ที่ 24 ในฐานะ ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และ พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี รอง ผบช.ภ.4/ รกก.ผบก.ภ.จสว.อุดรธานี ได้ร่วมกันทำความเข้าใจ กรณีข่าวลือแต่งกายคล้ายทหารเข้าไปทำการตรวจค้นและยึดเอาเครื่องตัดหญ้า ถังแก๊ส เครื่องมือทางการเกษตรของพี่น้องประชาชนในพื้นที่หลายแห่งในจังหวัดอุดรธานี
       
       พล.ต.สิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ผบช.มทบ.ที่ 24 กล่าวว่า ตามที่มีข่าวปรากฏว่ามีบุคคลแต่งกายคล้ายทหารเข้าไปตรวจค้นและยึดเครื่องตัด หญ้า ถังแก๊ส และเครื่องมือทางการเกษตรของพี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่นั้น มณฑลทหารบกที่ 24/กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุดรธานี ขอแจ้งให้ทราบว่า เจ้าหน้าที่ที่ไปทำการตรวจค้น หรือยึดสิ่งของ และ/หรือเอกสารตามกฎอัยการศึกจะต้องประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายปกครอง, ตำรวจ และทหาร การแต่งกายของเจ้าหน้าที่เรียบร้อย หากผู้เสียหายสงสัยให้ถ่ายภาพเป็นหลักฐาน แล้วแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง เพื่อเป็นหลักฐานในการจับกุมดำเนินคดีต่อไป
       
       ทั้งนี้ หากผู้ใด (พลเมืองดี) พบเห็นบุคคลดังกล่าว กรุณารวบรวมหลักฐาน ภาพถ่าย, คลิปวิดีโอ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือตำรวจในพื้นที่ใกล้ที่สุด เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดีจับกุม และหากท่านได้รับข่าวสารลักษณะนี้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หากไปเผยแพร่ต่อจะทำให้ข่าวเท็จแพร่กระจายมากขึ้น จึงขอความกรุณาถามบุคคลที่บอกข่าวกับท่านว่าได้เห็นด้วยตา ได้ยินด้วยหูหรือไม่
       
       “หากไม่มีการยืนยัน ขอให้ท่านได้กรุณาไตร่ตรองให้รอบคอบว่าอาจเป็นเรื่องไม่จริง ขณะนี้ยังไม่ได้รับการแจ้งความหรือดำเนินคดีจากผู้เสียหายในกรณีนี้แต่อย่าง ใด”
       
       ด้านนายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวเสริมว่า ทางจังหวัดมีเจ้าหน้าที่ข้าราชการในพื้นที่ ทั้งนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร คณะกรรมการหมู่บ้าน ทางจังหวัดได้สั่งการลงไปยังนายอำเภอทุกพื้นที่แล้วเพื่อให้ทำความเข้าใจกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้ไปประชุมทำความเข้าใจกับประชาชนในทุกพื้นที่ต่อไป โดยให้ทำการประสานงานปฏิบัติกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกพื้นที่เพื่อให้ เกิดผลอย่างกว้างขวาง
       
       พล.ต.ต.วีรพงษ์ ชื่นภักดี รกก.ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวยืนยันว่าข่าวดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น เพราะตำรวจในพื้นที่ทุกแห่งในจังหวัดยังไม่เคยได้รับการแจ้งความร้องทุกข์ จากประชาชนเลยสักราย จึงขอร้องไปยังประชาชนในพื้นที่ว่าการรับข่าวที่ไม่มีความชัดเจนแล้วนำไป กระจายข่าวต่อไปยังผู้อื่นก็จะกลายเป็นคนกระจายข่าวที่ไม่เป็นความจริง
       
       จึงขอให้ผู้ที่ได้รับข่าวแล้วให้ใช้ความพิจารณาไตร่ตรองให้ดี พร้อมกันนี้ ในส่วนของตำรวจ ก็ได้มีการสั่งการไปยังทุกพื้นที่ให้คอยติดตามหาที่มาของข่าวดังกล่าวแล้ว เช่นกัน


ทหารพบชาวนาขอข้อมูลถูกทวงหนี้

จาก โพสต์ทูเดย์

ลำปาง-ทหารพบชาวนาถูกทวงหนี้ขอข้อมูลเพิ่มด้านเจ้าหนี้เอารถจยย.ที่ยึดไปฝากไว้ที่โรงพัก

เมื่อวันที่30พ.ค.57 เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 32  ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง เข้าพบ พ.ต.ท.สมควร เกตุเทศ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อขอข้อมูลและเอกสาร กรณีนายชวน ชัยเลิศ ชาวนาต.ชมพู อ.เมือง ถูกนางแสงหล้า ไชยจุก เจ้าหนี้ข่มขู่เพื่อทวงเงินกู้ตามสัญญา 80,000 บาท ถึงหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธกส.)สาขาอาลัมภางค์ลำปาง หลังนายชวนได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าว พร้อมกับยึดสมุดบัญชีธนาคารและรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ อีก 1 คัน มูลกว่ากว่า 50,000 บาทไป ทำให้นายชวนต้องเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองลำปาง เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา
 
อย่างไรก็ตามหลังขอ ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารยังได้เดินทางไปพบ กับชาวนาผู้เสียหายพร้อมภรรยา ก่อนที่จะเชิญตัวชาวนาไปยังค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง เพื่อสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

ส่วนเจ้าหนี้จากการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลำปาง ได้นัดหมายให้ไกล่เกลี่ยกับชาวนาในวันนี้ เวลา 10.00 น. แต่ไม่สามารถเดินทางมาได้ เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัด และจะเดินทางกลับมาเพื่อให้การในวันที่1มิ.ย.57 ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ยึดไปได้นำมาฝากไว้ที่ สภ.เมืองลำปางเพื่อคืนรถให้กับชาวนา
 
ด้านพ.ต.ท.สมควร  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง กล่าวว่า เจ้าหนี้ให้การกับตำรวจเมื่อวันที่ 29 พ.ค. อ้างว่าสาเหตุที่ต้องยึดรถจักรยานยนต์เพราะว่าชาวนาได้กู้ยืมเงินไปกว่า 170,000 บาท แต่ทำสัญญาเพียง 80,000 บาท ส่วนที่เหลือให้ยืมในฐานะคนที่รู้จักกันและทำการค้าด้วยกันจึงให้กู้ยืมเงิน โดยไม่มีดอกเบี้ย แต่เมื่อชาวนาได้เงินจากโครงการรับจำนำข้าว จึงได้ขอเงินที่กู้ยืมไปคืนโดยดี ไม่ได้ทำการข่มขู่แต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้รับ จึงต้องขอยึดรถจักรยานยนต์ไป ซึ่งชาวนาก็ยินยอมให้ยึดอีกทั้งยังช่วยยกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถยนต์กระบะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นข่าวโด่งดังเช่นนี้ แต่พร้อมที่จะเดินทางไปยังค่ายทหารใน จ.ลำปาง เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นความจริง และยินดีที่จะไกล่เกลี่ยกับชาวนาลูกหนี้รายหนี้
 
ด้านภรรยาของนายชวน กล่าวว่า ทางครอบครัวได้เป็นหนี้อยู่ 80,000 บาท เมื่อไม่มีเงินจ่าย เจ้าหนี้ก็ได้มายึดรถไถไป ก่อนที่จะตามมายึดรถจักรยานยนต์ไป เพราะไม่มั่นใจรถไถที่ยึดไปจะดีหรือไม่ จึงจะต้องยึดทรัพย์สินอื่นๆ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าเงินที่กู้ยืมเจ้าหนี้มานั้นเพียงแค่ 80,000 บาท เท่านั้น ไม่ได้เป็นเงินกว่า 100,000 บาท ตามที่เจ้าหนี้ระบุให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไม่เป็นความจริง หลังจากได้รับเงินจำนำข้าวมา ถือว่าชีวิตจะอยู่ต่อไปได้ เพราะมีเงินไปจ่ายหนี้ต่างๆ ที่มีเพื่อที่จะได้ดำเนินชีวิตตามปกติและประกอบอาชีพเกษตรกรรมต่อไป


ตำรวจภาค7ล้างบางแก๊งทวงหนี้ชาวนา

จาก โพสต์ทูเดย์

กาญจนบุรี-รองผบช.ภ.7สั่งทุกท้องที่กวาดล้างแก๊งหมวกกันน็อคทวงหนี้ชาวนา

เมื่อวันที่ 30 พ.ค.57 พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ออกคำสั่งไปยังสถานีตำรวจทุกท้องที่ เร่งปราบปรามขบวนการแก๊งกันน็อคข่มขู่ทวงหนี้ชาวนา ตามประกาศฉบับที่ 46/2557 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ห้ามนายทุนเงินกู้นอกระบบข่มขู่ทวงหนี้ชาวนาที่กำลังได้รับเงินค่าจำนำ ข้าวทั่วประเทศ

สำหรับแก๊งเงินกู้จะเป็นชายฉกรรจ์สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบเพื่อไปทวงเงิน จากลูกหนี้ หากไม่ได้ก็จะข่มขู่ลูกหนี้ และหากมีการแจ้งความร้องทุกข์เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเข้าจับกุมในทันที  ดังนั้นอยากฝากไปถึงกลุ่มนายทุนที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า แก๊งหมวกกันน็อค ขอให้เลิกพฤติการณ์การข่มขู่ลูกหนี้โดยเฉพาะลูกหนี้ที่เป็นชาวนา ซึ่งหากถูกจับกุมจะถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหากรรโชกทรัพย์ และยังมีความผิดอื่นๆ ประกอบเข้าไปด้วย นอกจากนี้จะต้องถูกส่งฟ้องตามขบวนของศาลเท่านั้น
 
"หากต้องการ ประกอบธุรกิจให้กู้เงินแข่งกับธนาคารจะต้องมีระบบการทวงถามโดยถูกกฎหมาย หากระบบการทวงถามผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายต่อผู้ให้กู้อย่างเด็ดขาด และหากยังพบว่าแก๊งหมวกกันน็อคมีการข่มขู่ลูกหนี้ โดยเฉพาะเกษตรกรชาวนา ถือว่ากระทำการฝ่าฝืนคำสั่งของ คสช.ฉบับที่ 46/2557 อย่างเด็ดขาดด้วยเช่นกัน"พล.ต.ต.วิทยา กล่าว


ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view