สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทูตพาณิชย์คงเป้าส่งออกยุโรป5 เปอร์เซ็นต์ ปีหน้าหนักถูกตัดGSP-ให้ระวังสารตกค้างผักผลไม้

จากประชาชาติธุรกิจ

ประชุม ทูตพาณิชย์ พ.ค.นี้ ตลาดยุโรปยังคงเป้า 5% เนื่องจากตลาดยังขยายตัว โดยเฉพาะตลาดอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส เผยยังหวั่นปัญหาส่งออกผักสดไปยุโรปตรวจพบสารตกค้างเพียบเกิน 5 ครั้ง แนะคุมไม่ให้โรงคัดบรรจุที่ไม่ได้ขึ้นบัญชีไว้กับกรมวิชาการเกษตรส่งออก



นายชูลิต สถาวร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร กล่าวว่า ในการประชุมทูตพาณิชย์ในเดือนพฤษภาคม ทางกลุ่ม สคร.ในยุโรปทั้ง 14 สำนักงานใน 12 ประเทศ ได้เห็นตรงกันที่จะยังคงเป้าการส่งออกในตลาดยุโรปที่ 5% หรือมีมูลค่าประมาณ 23,520.00 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากตลาดยุโรปยังขยายตัวได้ และคาดการณ์ว่าตลาดยุโรปในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะขยายตัวดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมของเศรษฐกิจประเทศใหญ่ ๆ 5-6 ประเทศในยุโรป มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เช่น อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และเนเธอร์แลนด์

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลต่อการส่งออกของไทยที่ต้องติดตาม คือ ด้านการว่างงาน ด้านหนี้สาธารณะ และเรื่องของเงินเฟ้อที่ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปมีปัญหา มองว่าจะมีผลต่อการสั่งซื้อสินค้าจากไทย ได้แก่ สินค้ากลุ่มอาหาร เช่น ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง ไก่แปรรูป, ปลาหมึกสด ปลาหมึกแช่เย็น แช่แข็ง, สินค้าปรุงรสอาหาร, เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ, ผลิตภัณฑ์พลาสติก, ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์, อาหารสัตว์เลี้ยง, ผลิตภัณฑ์สปา เช่น เครื่องสำอาง, สบู่, ผลิตภัณฑ์รักษาผิว เป็นต้น

ส่วนปัญหาและอุปสรรคสำหรับการส่งออกของไทยไปในตลาดสหภาพยุโรป นอกจากการถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) แล้ว ยังมีปัญหาอุปสรรคด้านความเข้มงวดในการตรวจสอบด้านความปลอดภัย (Safety) ด้านมาตรฐานของสินค้า (Standard) ด้านสารตกค้างและเจือปน โดยเฉพาะในกรณีสินค้าที่เป็นกลุ่มอาหาร ซึ่งผู้ส่งออกไทยต้องปรับสินค้าให้ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย โดยรวมคือต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งมาตรฐานคุณภาพของสินค้าต้องเป็นที่ยอมรับ และราคาต้องสามารถแข่งขันได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งหรือมีแต้มต่อในเรื่องของ GSP

"ส่วนเรื่องสถานการณ์การส่งออกผักสด แช่เย็น แช่แข็งมายังตลาดสหภาพยุโรป ขณะนี้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมีการสุ่มตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยในสารปนเปื้อน สารตกค้าง ยาฆ่าแมลงอยู่ โดยมีการสุ่มตรวจเพียงระดับ 10% จากเดิมที่มีการสุ่มตรวจ 20% ถึง 50% แล้วแต่ประเภทของผักสด โดยขณะนี้สหภาพยุโรปมีการนำเข้าผักสด แช่เย็น แช่แข็งจากไทยประมาณเดือนละ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทประมาณ 80 ล้านบาท"

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดของการตรวจสอบการนำเข้าผักสดที่ไทยส่งออกไปยังตลาดยุโรป มีการตรวจพบสิ่งปนเปื้อนแล้ว 6 ครั้ง ซึ่งยุโรปกำหนดไว้หากพบเกิน 5 ครั้งต่อปี จะระงับนำเข้าผักสดจากไทย แต่ขณะนี้ทางยุโรปได้ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปตรวจดูโรงงานคัดบรรจุ และดูวิธีการควบคุมของไทยก่อนจะมีมาตรการใหม่ออกมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล แต่เบื้องต้นทางคณะอของอียูที่เดินทางไปตรวจมีความพอใจในมาตรการควบคุมดูแล และพอใจในการดำเนินงานของโรงคัดบรรจุ ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดี

คาดว่าในระยะสั้นไม่น่าจะมีมาตรการอะไรออกมา อาจจะเพียงคาดโทษไว้ โดยผู้ส่งออกไทยและหน่วยงานที่ตรวจสอบคุณภาพสินค้า โดยเฉพาะโรงคัดบรรจุต้องดูแลเข้มงวดให้มากขึ้น ไม่ให้โรงคัดบรรจุที่ไม่ได้ขึ้นบัญชีไว้กับกรมวิชาการเกษตรสามารถนำส่งสินค้าไปยุโรปได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะมีผลต่อการส่งออกผักสดของไทย

นายชูลิตกล่าวอีกว่า สำหรับการส่งออกของไทยมายังตลาดสหราชอาณาจักร ในไตรมาสแรกของปี 2557 ยังคงขยายตัวได้ดีตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นตลาดสินค้าอาหารที่ใหญ่ที่สุดของไทยในสหภาพยุโรป สินค้าอาหารสำคัญที่ส่งไปมากที่สุด ได้แก่ ไก่สด แช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป ขณะนี้ยังคงมีความต้องการ และคาดว่าจะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ขณะนี้มีการนำเข้าประมาณเดือนละ 55 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,760 ล้านบาทต่อเดือน, กุ้งสด แช่เย็น แช่แข็ง, ข้าว, สิ่งปรุงรสอาหาร, ผักสด แช่เย็น แช่แข็ง, ผักกระป๋องและแปรรูป, ปลาหมึกสด แช่เย็น แช่แข็ง เป็นต้น

ส่วนสินค้าที่มีศักยภาพในตลาดสหราชอาณาจักร ได้แก่ รถยนต์ (ปิกอัพ) อุปกรณ์และส่วนประกอบ, อัญมณีและเครื่องประดับ (ทำด้วยเงิน), เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ, ผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view